Ford Everest : SUV / PPV บนพื้นฐานกระบะ Ranger เปิดตัวครั้งแรกในไทย เมื่อเดือน มีนาคม 2015 แต่เริ่มส่งมอบได้ในช่วงเดือน สิงหาคม 2015 เป็นเวลาครบ 3 ปีพอดี ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่น Minorchange แล้วในที่สุด ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จุดเด่นจะเป็นเรื่องของขุมพลังใหม่ล่าสุด ส่วนดีไซน์โดยรวมจะปรับเพียงเล็กน้อย แต่จะใส่ Option ที่ขาดหายไปในช่วงเปิดตัวมาให้ครบครันแล้วในครั้งนี้

ความเปลี่ยนแปลงภายนอก คือ การเปลี่ยนแปลงงานดีไซน์ด้านหน้าตัวรถ ไล่ตั้งแต่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนจากเส้นโครเมียมแถบคู่ขนาดใหญ่ เป็น เส้นโครเมี่ยมที่ดูเบาบางลง แต่เพิ่มจำนวนเป็น 3 แถบ พร้อมตะแกรงรังผึ้งด้านใน กันชนหน้ามีการปรับเปลี่ยนเพิ่มแถบบนสีเงินเมทัลลิคเข้ามา

ในรุ่น Titianium+ ที่เป็นรุ่นท้อปสุดของรุ่น เปลี่ยนลายล้อใหม่เป็นแบบ 6 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ส่วนรุ่น Titanium ยังคงใช้ล้อขนาด 18 นิ้วลายเดิม นอกเหนือจากนี้เห็นทีจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติมจากเดิมเท่าไรนัก

นอกเหนือจากการปรับปรุงงานดีไซน์ด้านหน้าตัวรถเล็กน้อยแล้ว มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยมีการเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีระบบ Active Safety (ระบบความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุ) อยู่แล้ว ก็จะเพิ่มความสามารถในการปกป้องมากขึ้น

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System
  • ระบบเตือนรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keeping System
  • ระบบช่วยเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Alert System
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ และ คนเดินถนน AEB : Autonomous Emergency Braking (NEW)

โดยระบบเบรกอัตโนมัติ AEB จะใช้เรดาร์ และ กล้องด้านหน้ารถในการตรวจจับวัตถุด้านหน้า ทำงานเมื่อความเร็วมากกว่า 3.6 km/h (ปกติระบบเดิม เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System จะทำการส่งสัญญาณไฟ และ สัญญาณเสียงเตือนเท่านั้น ไม่ได้ช่วยเบรกอัตโนมัติ)

ภายในห้องโดยสารแม้ยังจะไม่มีภาพอย่างเป็นทางการออกมา แต่คาดว่า ภายในห้องโดยสารจะมีการใช้วัสดุบุนุ่ม Soft Touch เพิ่มเติมในหลายๆจุด โดยเฉพาะส่วนที่ร่างกายของผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารจะสัมผัสเวลาโดยสารในรถ โทนสีภายในห้องโดยสาร จะมีการใช้โทนสีน้ำตาลเข้ม Ebony เข้ามา

ด้านระบบอำนวยความสะดวกที่ลูกค้าชาวไทยหลายคนเรียกร้อง และ รอคอย ก็น่าจะได้ติดตั้งมาแล้วในรุ่น Minorchange นี้ ได้แก่

  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry (NEW)
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button (NEW)
  • ระบบเปิด-ปิด ฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้มือ (เตะเปิด) Hands-Free Tailgate (NEW)

 

หัวใจสำคัญของการปรับเปลี่ยน Minorchange รอบนี้ของ Everest เวอร์ชั่นไทย คือ เครื่องยนต์ใหม่ ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo เหมือนใน Ranger RAPTOR ”  ทำตลาดแทนเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร Duratorq เดิม

Diesel 2.0 EcoBlue Bi-Turbo (NEW)

เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode + – ที่หัวเกียร์

โดยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตัวเลขจากโรงงานของเครื่องยนต์ใหม่ ดีเซล 2.0 Bi-Turbo ใน Ford Everest Minorchange เทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร

  • 3.2 Duratorq 200 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 11.90 km/l (8.4 l/100 km.) *ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ
  • 2.0 Bi-Turbo 213 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 14.49 km/l (6.9 l/100 km.) *ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ

 

ส่วนเครื่องยนต์ของ Everest Minorchange เวอร์ชั่นไทย ที่น่าจะยังเหลือทำตลาดอยู่อีก 1 เครื่องยนต์ คือ ดีเซล 2.2 ลิตร Duratorq

2.2 Duratorq 160 แรงม้า

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว Duratorq TDCi ขนาด 2.2 ลิตร 2,198 ซีซี พร้อมเทอร์โบแปรผัน แบบมีครีบ VG Turbo พร้อมIntercooler 160 แรงม้า ที่ 3,200 รอบ/นาที แรงบิด 385 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

Ford Everest Minorchange เวอร์ชั่นไทย เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ วันที่ 10 กรกฎาคม นี้ รายละเอียดตัวรถ – ข้อมูล – สเป็ค และ ราคาอย่างเป็นทางการ รอติดตามชมกันได้เร็วๆนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ

ส่วนใครที่รอกระบะ Ranger อยู่ อัพเดตกันสั้นๆ แผนการเปิดตัวมีเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะ Ranger Minorchange จะเปิดตัวตามหลัง Everest Minorchange มาแบบติดๆ ในเวลาไม่นานเกินรออย่างแน่นอน

 


เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/65390.0