Ford Everest : SUV / PPV บนพื้นฐานกระบะ Ranger เปิดตัวครั้งแรกในไทย เมื่อเดือน มีนาคม 2015 แต่เริ่มส่งมอบได้ในช่วงเดือน สิงหาคม 2015 ผ่านไป 3 ปี ก็เปิดตัวรุ่น Minorchange เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยการลดบทบาทเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ 3.2 ลิตร เหลือ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ แทน เปิดตัวในไทย 10 กรกฎาคม 2018

จากนั้นมีการเพิ่มสีภายในห้องโดยสารใหม่ สีน้ำตาล Cognac ในรุ่น 2.0 Bi-Turbo Titanium Plus 4WD ในเดือน กรกฎาคม 2019 ล่าสุด Ford ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว Everest SPORT ตกแต่งด้วยสีดำ พร้อมปรับอุปกรณ์เพิ่มเติม ในวันที่ 15 พฤศจิกายน นี้

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง – เพิ่มเติม ใน Ford Everest SPORT ” เบื้องต้น ” ดังนี้

  • สีตัวถังภายนอก ใหม่ สีน้ำเงิน
  • กระจังหน้าสีดำ ดีไซน์ใหม่
  • ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สีดำ
  • ชุดตกแต่งกันชนหน้า สีดำ
  • ชุดตกแต่งกันชนหลัง สีดำ
  • ราวหลังคา สีดำ
  • บันไดข้าง สีดำ
  • เพิ่ม ไฟหน้า Projector Lens แบบ Bi-LED
  • เพิ่ม ช่องชาร์จไฟ USB บริเวณกระจกมองหลัง

Engine เครื่องยนต์

ทางด้านเครื่องยนต์ยังคงมีให้เลือก 2 รูปแบบเหมือนเช่นเคย

Diesel 2.0 EcoBlue Turbo

เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 180 แรงม้า (PS) ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode + – ที่หัวเกียร์ ขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง

 

Diesel 2.0 EcoBlue ” Bi-Turbo ”

เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode + – ที่หัวเกียร์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4WD พร้อมระบบ Terrain Management System

Drivetrain ระบบขับเคลื่อน

  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ 180 แรงม้า 420 นิวตันเมตร (รุ่นขับ 2)
  • เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 213 แรงม้า 500 นิวตันเมตร (รุ่นขับ 4)
  • เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อม Manual Mode + – ที่หัวเกียร์
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-time 4WD พร้อมระบบ Terrain Management System
  • เฟืองท้าย Rear Differential-Lock
  • ระบบเบรก คู่หน้า ดิสก์เบรก / คู่หลัง ดิสก์เบรก
  • พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPAS
  • ช่วงล่างด้านหน้า Double Wishbone with Coil Spring – Anti Roll bar
  • ช่วงล่างด้านหลัง Coil Spring with Watt’s Link – Anti Roll bar

รายละเอียดทั้งหมดของ Ford Everest SPORT และ Everest MY2019 รุ่นปรับอุปกรณ์ ติดตามได้ในวันที่ 15 พฤศจิกายน นี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ


เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/73001.0