Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) หรือ สถาบันด้านปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา ได้นำเสนองานวิจัย และ ศึกษา เกี่ยวกับประโยชน์ของระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning (LDW) ซึ่งปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์หลายค่าย อย่างเช่น General Motors, Honda, Mazda, Mercedes Benz, Subaru และ Volvo ได้มีการติดตั้งเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยในรถยนต์รุ่นต่างๆ ของตัวเอง

Lane Departure Warning (LDW) หรือ ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย และ ช่วยเหลือการขับขี่ ที่ได้รับการออกแบบให้ใช้บนทางด่วน หรือ ถนนสายหลัก เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่รถเคลื่อนตัวออกนอกช่องทางของตัวเอง ซึ่งอาจก่อให้เกิดเหตุที่ไม่คาดฝันได้

มีการศึกษา และ วิจัยเกี่ยวกับการประโยชน์ของระบบ Lane Departure Warning ว่ามีส่วนช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนนท้องถนนในสหรัฐอเมริกา โดยกำหนดตัวแปร ได้แก่ อายุคนขับ เพศ และ ระดับความเสี่ยงประกันภาย พบว่าการติดตั้งระบบ Lane Departure Warning สามารถ

  • ลดจำนวนการเกิดอุบัติเหตุได้ 11%
  • ลดการเกิดอุบัติเหตุจนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บได้มากถึง 21%
  • ลดการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ถึง 86%

จากผลที่ได้นั้น จึงทำให้ IIHS สรุปได้ว่าระบบ Lane Departure Warning มีส่วนป้องกันการเกิดอุบัติเหตุประมาณ 85,000 ครั้ง / ปี เลยทีเดียว

กราฟแสดงระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

กราฟแสดงระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

 

นอกจากระบบ Lane Departure Warning แล้ว IIHS ยังได้มีการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับระบบ Blind Spot Detection หรือ ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา ทำงานโดยการแจ้งผู้ขับขี่เมื่อมีรถอยู่ด้านข้าง โดยมีไฟ หรือ สัญลักษณ์รูปรถ แสดงอยู่บริเวณมุมของกระจกมองข้าง หรือ กรอบด้านในของกระจกมองข้าง จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องจราจร

จากการศึกษาและวิจัยเพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของ Blind Spot Detection พบว่าช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนขณะเปลี่ยนเลนได้ 14% และ ช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการชนขณะเปลี่ยนเลน จนถึงขั้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บได้ถึง 23% ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่โดยใช้วิธีการใช้เสียงเตือนอาจก่อให้เกิดความรำคาญต่อผู้ขับขี่มากกว่า ใช้ระบบสั่นที่พวงมาลัย หรือ เบาะนั่ง ในอนาคตอาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยเหล่านี้ ให้มีการทำงานที่ก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้ใช้งานให้น้อยที่สุด รวมถึงมีความน่าใช้งานมากขึ้น เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน

ที่มา : IIHS, Motortrend