[สำหรับท่านที่ต้องการโหลดรูปภาพ ขอเชิญลิงค์ที่ท้ายบทความได้เลยครับ เพราะในบทความจะมีแค่บางรูปเท่านั้น]


หลังจากที่เราได้มีการจัดกิจกรรม Ertiga & the GANG ขึ้นไปที่กรุงเทพมหานคร-พัทยาไปในช่วงปลายเดือนเมษายนและประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางเอาไว้ ทาง Suzuki และ Headlightmag ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของลูกค้าในตลาดที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงได้มีการพยายามผลักดันให้เราได้มีโอกาสนำ Suzuki Ertiga ใหม่ และรถรุ่นอื่นของค่ายไปให้ชาวพิงคนครทางตอนเหนือได้ลองสัมผัสกันบ้าง

เชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีทั้งความเจริญในแบบเมืองใหญ่ มีธรรมชาติสวยงามด้วยป่าเขา และถนนสายรองนอกเมืองที่มีทั้งความน่าหลงใหลและอุปสรรคตามแบบฉบับถนนประเทศไทย เป็นโอกาสอันดีที่จะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการลองรถให้กับผู้อ่านแล้ว ทาง Suzuki ก็ยังได้รับทราบความเห็นที่คนอ่านมีต่อรถ ตลอดจนมีโอกาสพูดคุยกับผู้อ่านแบบใกล้ชิด เป็นการสร้างแบรนด์โดยให้ผู้อ่านของเราได้ลองรถจริง และพบกับผู้บริหารตัวจริง พูดคุยกันตัวต่อตัว

ถือเป็นโอกาสอันดี เพราะในบรรดาจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ หากไม่นับกรุงเทพและปริมณฑล เชียงใหม่ จัดเป็นตลาดที่มีลูกค้าของ Suzuki อาศัยอยู่มาก แล้วก็ไม่ใช่ความบังเอิญที่เมื่อทีม Headlightmag ทำแบบวิจัยรวบรวมข้อมูลที่อยู่อาศัยของผู้อ่าน เราก็พบเช่นกันว่าผู้อ่านที่ไม่ได้อยู่ในเขตกรุงเทพและใกล้เคียง จำนวนไม่น้อยเลยก็อยู่ที่เชียงใหม่นี่ล่ะครับ

 

ที่สำคัญ ในครั้งนี้ ทีม Suzuki นำโดย พี่วัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด เอาใจแฟนคลับชาวเหนือด้วยการนำ Suzuki J!MNY จี๊ปเล็กแต่ความเก๋ไม่เล็กมาโชว์ตัว พร้อมทั้งปรับรถทดลองขับในกลุ่มทดสอบของพวกเราโดยเปลี่ยน Ciaz เป็นรุ่น GL Plus ทางเลือกรุ่นย่อยใหม่สำหรับลูกค้าที่เน้นความคุ้มค่าการใช้งานด้วยราคา 568,000 บาท

กลุ่มผู้เข้าร่วมกิจกรรม

ผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างจากเมื่อครั้งจัดงาน Swift Standout ที่เชียงใหม่พอสมควร เพราะคนที่เลือกหารถ 7 ที่นั่งขนาดเล็กเพื่อการใช้งาน มักไม่ใช่วัยรุ่นหรือคนโสด แต่เป็นคนที่แต่งงานแล้ว หรือเป็นครอบครัวค่อนข้างใหญ่ ดังนั้นเราจึงเลือกเฉพาะคนที่อายุ 25 ปีขึ้นไป โดยในการคัดเลือกนั้น กรรมการผู้คัดเลือก ไม่ได้เลือกจากการที่ “ใครสมัครเร็วแล้วได้ก่อน” อย่างที่บางท่านเข้าใจ เราต้องดูลึกเข้าไปถึงตัวตน ทัศนคติของผู้สมัคร ตลอดจนพยายามกระจายระดับช่วงอายุอย่างเหมาะสม

ดังจะสังเกตได้ว่าในทุกกิจกรรมที่เราจัด จะไม่ได้เจอแต่วัยรุ่น หรือคนมีอายุ คนรวย หรือคนจน เพียงกลุ่มเดียว แต่เป็นการผสมผสานกันไปทุกกลุ่ม ทุกอายุขัยภายใต้เงื่อนไขของเรา ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เราและ Suzuki ได้รับข้อมูลและความรู้สึกจากการขับโดยมีมุมมองจากคนหลายวัย

ก็อยากจะชี้แจงไว้ตรงนี้ เพราะบางท่านนึกว่ารีบสมัครเป็นคนแรกๆแล้วจะได้ไปแน่นอน

ลักษณะของการขับและกิจกรรมต่างๆ

เนื่องจากพี่วัลลภกำหนดภาพรวมของงานที่กรุงเทพไว้ว่า อยากให้สบายๆ สนุก ถ้าเขาพูดมาแบบนี้แล้วเราดันเอา Ertiga ไปจัดแข่งจิมคาน่าที่ประเสริฐแลนด์แบบงานปีก่อน ก็คงไม่ใช่เรื่อง รูปแบบของการขับ จึงเปลี่ยนจาก 4 รอบ 2 วัน วิ่งในสนาม Closed Track เป็น 2 รอบ 2 วัน วิ่งบนถนนจริงแบบ 1 Day Trip โดยแบ่งผู้เข้าร่วมออกเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่ม 1-6 ขับ Ertiga ในขาไป ส่วน 7-9 ขับ Swift และ 10-12 ขับ Ciaz ขาไป กลุ่มที่ขับรถ 1.2 ลิตรนี่ เรามีการแข่งประหยัดน้ำมันด้วยนะครับ คนชนะได้รางวัลกลับบ้าน แต่ถ้าผู้อ่านในรถตกลงกันได้ว่าไม่อยากเครียดเรื่องน้ำมัน แต่อยากขับแบบปกติ เราก็ให้ ก็ถ้ามันไม่สนุก จะไปทำมันทำไม ..ส่วนขากลับนั้นกลุ่ม 7-12 ย้ายมาขับ Ertiga

เส้นทางการวิ่ง

  • จุดเริ่มต้น อยู่ที่โรงแรม เชียงใหม่ ฮิลล์ 2000 – ปลายทางอยู่ที่ปางช้างแม่ตะมาน
  • วิ่งผ่านถนนเส้น 121 ผ่าน Goodview ที่เส้น 3029
  • ลงทางลอด 7 ครั้ง ขึ้นมาผ่านศาลจังหวัดเชียงใหม่ และไปเลี้ยวขวาหน้าสนามกีฬา 700 ปี
  • วิ่งเส้น 107 ไปทางแม่ริม ผ่านกองพลทหารราบที่ 7
  • หยุดแวะสลับคนขับที่ปั๊ม Susco
  • วิ่งตรงไปทางหมู่บ้านแม่ตะมาน เลี้ยวซ้ายเพื่อไปทางปางช้างแม่ตะมาน และวิ่งเส้นทางสายรองที่แคบและคดเคี้ยวจนถึงปลายทาง

ถ้าสังเกตจาก Route ที่วิ่ง คนพื้นที่จะทราบดีว่าเส้นทางดูอ้อมๆ เพราะเราต้องการให้ทุกคนได้ขับอย่างน้อย 40 กิโลเมตรจึงต้องเลือกเส้นทางแบบนี้ และยังได้ลองการวิ่งบนถนนเรียบ ถนนที่มีการจราจรติดขัด โดยเฉพาะขากลับที่ทีม WIN WIN WIN เลือกเส้นทางให้ไปผจญรถติดที่เส้นนิมมานฯก่อนเลี้ยวซ้ายที่แยกเมย่า แยกแคลายแห่งเชียงใหม่ที่รถติดเป็นบ้า แต่พอผ่านมาแล้วจะงงว่ามันติดเพราะอะไรวะ

แน่นอนว่า ผู้อ่านของเราจะมีโอกาสเทียบความต่างกันระหว่างรถเก๋งทรงเตี้ยเช่น Ciaz หรือ Swift ที่ใช้เกียร์ CVT และรถทรงสูงอย่าง Ertiga ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ดังนั้นผู้เข้าร่วมงานจะมีโอกาสได้ปรับตัว และตำแหน่งการขับที่แตกต่าง ซึ่งมีประโยชน์สำหรับบางคนที่ชีวิตนี้ไม่เคยขับรถ MPV เล็กๆมาก่อน

***FEEDBACK จากผู้เข้าร่วมกิจกรรม***

แน่นอนว่าหลังจากขับ เราก็มีการเก็บข้อมูลว่าแต่ละท่านรู้สึกอย่างไรกับตัวรถ โดยผมจะยกมาเรียงเป็นหมวดหมู่ข้อดีและข้อเสีย

ขอให้ทราบไว้ก่อนว่ามุมมองของผู้ใช้รถทั่วไป เขาอาจจะไม่ได้ทราบเรื่องต้นทุน ความยาก/ง่ายในการประกอบหรือติดตั้ง หรือพวกเรื่องการตั้งราคา ดังนั้น อะไรที่มันเป็นไปได้ในโลกแห่งความจริง หรือเป็นไปได้ยาก เราค่อยไปว่ากันทีหลังนะครับ อีกประการหนึ่งคือ คุณอาจจะเจอข้อดีและข้อเสียที่ย้อนแย้งกัน เกิดขึ้นได้เช่นกรณีอัตราเร่ง บางท่านบอกดี บางท่านบอกว่าอืด เราก็ใส่ข้อมูลลงไปทั้งอย่างนั้นเพื่อให้ทราบว่าผู้อ่านของเรามีใครคิดอย่างไรบ้าง

SUZUKI ERTIGA GX

สิ่งที่รู้สึกดีกับตัวรถ

  1. ดีไซน์ภายนอก ดูดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม หรูขึ้นและยังมีความโฉบเฉี่ยวอยู่
  2. พื้นที่ห้องโดยสารภายในกว้างขวาง ขึ้นลงจากรถง่าย และนั่งได้ 7 คนจริงจัง เบาะแถวที่สามสบายกว่าที่คาด
  3. แอร์เย็นทั่วถึงทั้งห้องโดยสาร คนนั่งแถวหลังก็เย็น
  4. อัตราเร่งดีกว่าที่คาดโดยเฉพาะช่วงออกตัว แม้จะบรรทุกผู้โดยสาร 1 ครอบครัว + Instructor
  5. ช่วงล่างดีกว่าที่คาด นุ่มนวล และมั่นใจเวลาขับ ทั้งที่ตอนแรกคิดว่ารถแบบนี้น่าจะส่าย ร่อน ไม่เกาะถนน
  6. ราคาเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้แล้วรู้สึกคุ้มค่า

สิ่งที่รู้สึกว่ายังปรับปรุงให้ดีขึ้นได้

  1. เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าปรับความสูง/ต่ำไม่ได้
  2. ตำแหน่งการขับขี่และพวงมาลัยที่แหงนมากทำให้รู้สึกเมื่อยล้าเวลาขับ
  3. เบาะแถวสาม เวลานั่งทางไกลๆรู้สึกเวียนหัว โดยเฉพาะช่วงที่วิ่งบนภูเขา
  4. ช่วงล่างสะเทือนไป/ช่วงล่างยวบยาบเกินไป (มีคนวิจารณ์ทั้งใน 2 แนวทาง)
  5. ที่บังแดดมีขนาดเล็กไปและไม่มีกระจกส่องหน้า

ที่น่าสังเกตก็คือ ผู้อ่านชาวเชียงใหม่ จะไม่ค่อยคิดจุกจิกในเรื่องของอุปกรณ์ เท่าที่ฟังมา ผู้อ่านอยากให้มีไล่ฝ้าหลัง และบางท่านอยากได้ภายในที่เป็นสีครีมหรือสีเบจเพราะจะรู้สึกโปร่งตามากกว่า ส่วนอุปกรณ์ที่มีให้มา ผู้อ่านส่วนมากมองว่าคุ้มแล้วกับราคาที่คิดมา ถ้าต้องเพิ่มอุปกรณ์ก็ต้องเพิ่มเงินไปอีก ซึ่งถ้าทะลุ 700,000 ไปมากๆ ก็จะตัดสินใจยาก นี่คืออีกจุดที่ต่างจากผู้อ่านที่กรุงเทพ ซึ่งมีหลายคนอยากได้อุปกรณ์เยอะขึ้นมากๆ และยอมจ่ายเพิ่มอีก 50,000 บาทได้

SUZUKI SWIFT GLX Navi

สิ่งที่รู้สึกดีกับตัวรถ

  1. การออกแบบภายนอก และภายในทำได้ดี ทันสมัย เหมาะสำหรับวัยรุ่น
  2. อัตราเร่งดีมากสำหรับรถเครื่องยนต์ขนาดแค่นี้
  3. ช่วงล่างมั่นใจดีเวลาขับขึ้น/ลงเขา
  4. ประหยัดน้ำมันมาก (ผู้อ่านจากเชียงใหม่มีท่านนึงสามารถขับได้ 28 กิโลเมตรต่อลิตร)
  5. ชุดเครื่องเสียง ดูสวยงาม และให้เสียงที่ดี

สิ่งที่รู้สึกว่ายังปรับปรุงให้ดีขึ้นได้

  1. เบาะหลังคับแคบ ที่วางขาและหัวไม่ค่อยมี รู้สึกอึดอัด
  2. วัสดุภายในบางจุดยังดูราคาถูก เช่นแผงประตู
  3. เสียงการทำงานของช่วงล่างดังไป โดยเฉพาะด้านหลัง คนนั่งหลังได้ยินทุกอย่าง
  4. ระบบเครื่องเสียง ใช้ยาก เข้าใจยาก
  5. ที่ความเร็วต่ำรู้สึกว่าเกียร์มีอาการยึกยัก ขับไม่ดีเหมือน Ertiga

SUZUKI CIAZ GL Plus

สิ่งที่รู้สึกดีกับตัวรถ

  1. รูปทรงภายนอก ดูสวยงามภูมิฐาน
  2. ห้องโดยสารกว้างขวางกว่าที่คาด ไม่คิดว่ารถ 1.2 ลิตรจะมีเบาะหลังนั่งสบายขนาดนั้น
  3. เซ็ตการตอบสนองคันเร่งมาดีกว่า Swift (รุ่นเก่า) คุมความเร็วง่าย เร่งทันใจ
  4. ช่วงล่าง เกาะถนนดีกว่าที่คิด ใช้ความเร็วสูงไม่ร่อนมากอย่างที่คิด
  5. ราคารถเทียบกับสิ่งที่ได้ ดูมีความคุ้มค่า
  6. แอร์เย็นเร็วแม้รถทดสอบจะไม่มีฟิล์มกรองแสง

สิ่งที่รู้สึกว่ายังปรับปรุงให้ดีขึ้นได้

  1. พวงมาลัยดูหน่วงๆ ขับไม่สนุกเหมือน Swift กับ Ertiga
  2. พวงมาลัยหนักเกินไป/พวงมาลัยเบาเกินไป (มีวิจารณ์ทั้งสองแง่)
  3. ภายในเส้นสายสวย แต่ดูธรรมดาเกินไป ไม่ค่อยดูงามสะพรั่งเท่า Ertiga
  4. ไม่มีล้ออัลลอย รถราคาระดับนี้ควรให้ล้ออัลลอยมาได้แล้ว
  5. อัตราการสิ้นเปลือง ไม่ดีเท่า Swift ขับแบบพยายามมากแล้วยังสู้ Swift ที่ออกจากจุดเริ่มต้นพร้อมกันแล้วถึงที่หมายก่อนยังไม่ได้

ในท้ายที่สุด กิจกรรมของเราก็สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และยังได้ความแปลกใหม่จากการขับแบบทริปทางไกล  แม้ว่าจะมีความประหม่านิดๆ จากการที่ทีมผม ซึ่งเป็นคนกรุงเทพ ต้องมานำทางให้กับคนพื้นที่ แต่ก็รอดหมด เพราะนักขับเชียงใหม่ แค่บอกปลายทางว่าไปไหน ก็พารถไปถึงที่หมายได้โดยมีการหลง ที่สำคัญคือ งานนี้เป็นงานขับ แบบที่คุณวัลลภ เน้นว่า อยากให้สบายและได้ลองรถกันไกลๆ แล้วมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไม่ได้มีเรื่องการขายเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังจะเห็นได้ว่าเราไม่ได้มีการบรรยายสรรพคุณผลิตภัณฑ์ รวมถึงไม่มีเจ้าหน้าที่ขายมาเลยแม้แต่คนเดียว

ขอขอบคุณ Suzuki ประเทศไทย ทีมงาน WIN WIN WIN Everything Group ทีม The Coup และชาว Headlightmag ที่มีส่วนช่วยอย่างมากในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ และที่สำคัญ ขอบพระคุณคุณผู้อ่านชาวเชียงใหม่ที่ต้อนรับพวกเรา เหมือนเพื่อน พี่น้อง เหมือนลูกเหมือนหลาน ขนาดกลับมาแล้วยังมีคุณผู้อ่านส่งแคปหมูตามมาจากเชียงใหม่มาให้ผมและพี่จิมมี่กินกัน น้ำใจชาวเหนือ เป็นที่ประทับใจเรายิ่งนัก ถ้ามีโอกาส เราจะกลับมาอย่างแน่นอนครับ

—-////—-

***LINK ดาวน์โหลดรูปภาพกิจกรรม***

** รูปทั้งหมด ถ่ายโดยคุณแทน Sattaphan Kantha สงวนสิทธิ์การใช้ โดย Suzuki Motor ประเทศไทย / Headlightmag อนุญาตให้ใช้สำหรับ Social Media อัพโชว์เพื่อน หรือเก็บไว้ส่วนตัว ไม่อนุญาตให้มีการนำไปใช้ในเชิงการค้าขาย พาณิชย์ ธุรกิจอื่นโดยที่มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นหน่วยงานในสังกัดผู้สงวนสิทธิ์ **