Isuzu D-max Minorchange (2018)

Isuzu D-max รหัส RT50 เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทย เมื่อ 29 กันยายน 2011 จากนั้นก็มีการปรับอุปกรณ์ เติมนี่นิด เติมนั่นหน่อยมาเรื่อยๆ จนกระทั่งความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นอีกครั้งกับรุ่น Minorchange ปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ พร้อมการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ ถอดเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร เดิม เปลี่ยนเป็น 1.9 ลิตร ตระกูลใหม่ RZ4E-TC พร้อมชื่อ Blue Power เมื่อ 2 พฤศจิกายน 2015

จากนั้นในปี 2017 ก็มีการปรับดีไซน์ด้านหน้าของ Isuzu D-max อีกครั้งเสริมความดุดันกว่าเดิม พร้อมทางเลือกสีตัวถังใหม่ เปิดตัวไปเมื่อ 30 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา และ ในปีนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นธรรมเนียมของตรีเพชรอีซูซุเซลล์ไปแล้ว ว่าช่วงปลายปี เดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน จะต้องมีการขยับ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพิเศษ หรือ การปรับเปลี่ยนเล็กๆน้อยๆ

และ ปี 2018 นี้เช่นกัน Isuzu เตรียมเปิดตัว D-max Minorchange (2018) ปลายเดือน ตุลาคม นี้ โดยในตอนนี้เริ่มมีรถภายใต้ผ้าคลุมทยอยส่งไปตามโกดังเก็บรถของ Isuzu แล้ว เพื่อส่งต่อไปยังดีลเลอร์ต่างๆช่วงปลายเดือน และ มีชิ้นส่วนไฟหน้า – กระจังหน้าหลุดออกมา

ไฟหน้ามีการเปลี่ยนรายละเอียดใหม่ทั้งหมด พร้อมไฟ Daytime Running Light แบบ Fibre-Optic ส่วนไฟเลี้ยวน่าจะอยู่ในตำแหน่งด้านล่าง ติดกับโคมไฟหลัก กระจังหน้าเปลี่ยนทรงใหม่ แบ่งออกเป็นชิ้นส่วนบน และ ชิ้นส่วนล่าง โดยชิ้นส่วนล่างเชื่อมต่อกับแผงรังผึ้ง ลากยาวลงไปถึงช่องดักลมด้านล่าง รวมถึงลายล้อขนาด 18 นิ้วลายใหม่อีกด้วย

* ไฟหน้า Isuzu D-max รุ่นปัจจุบัน

ด้านท้ายรถอาจจะมีการเปลี่ยนรูปทรงของกันชนท้าย และ ฝากระบะท้ายแบบมีสปอยเลอร์ในตัว ส่วนภายในห้องโดยสารยังไม่มีข้อมูลออกมา ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงอุปกรณ์ และ ระบบความปลอดภัยต่างๆ ที่ต้องรอข้อมูลอีกครั้งช่วงปลายเดือน ตุลาคม นี้ ว่า ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง จะมีมาให้ในรุ่นท้อปอย่าง Z-Prestige หรือไม่ เพราะ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัว ESC / ระบบป้องกันการลื่นไถล TCS ต่างๆ ก็มีมาให้แล้วตั้งแต่รุ่นกลางๆ จะเหลือก็แต่ถุงลมนิรภัยเท่านั้นที่เหมือนว่ายังให้มาไม่เท่าคู่แข่ง

(ภายในห้องโดยสาร Isuzu D-max เวอร์ชั่นอังกฤษ หน้าจอกลางระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 9 นิ้ว)

(ภายในห้องโดยสาร Isuzu MU-X เวอร์ชั่นจีน แบบใหม่)

เครื่องยนต์ของ Isuzu D-max คาดว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในตอนนี้ ยังคงเป็น Blue Power ดีเซล 1.9 VGS Turbo และ 3.0 VGS Turbo เหมือนเช่นเคย

Engine เครื่องยนต์

ดีเซล 1.9 VGS Turbo

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส RZ4E-TC ขนาด 1.9 ลิตร 1,898 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบครีบ VGS และ Intercooler กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 80 x 94.4 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 16.5 : 1 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ดีเซล 3.0 VGS Turbo

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส 4JJ1-TCX ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC Commonrail Direct Injection พร้อม Turbocharger VGS แบบครีบแปรผัน และ Intercooler กระบอกสูบ x ช่วงชัก 95.4 x 104.9 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 17.3 : 1 กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

รายละเอียดต่างๆของ Isuzu D-max Minorchange (2018) ติดตามได้ในช่วงปลายเดือน ตุลาคมนี้ หากมีข้อมูลเพิ่มเติม ทีมงาน Headlightmag.com จะรีบนำมารายงานให้ทราบกันครับ

เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/67509.0