นับตั้งแต่กระทรวงการคลังได้ออกประกาศราชกิจจานุเบกษา เรื่อง ลดอัตราสรรพสามิต ฉบับที่ 138 เกี่ยวกับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ทั้ง Hybrid หรือ HEV (ไฮบริด), Plug-in Hybrid หรือ PHEV (ปลั๊กอินไฮบริด) และ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ในวันที่ 20 มิถุนายน 2017 นับตั้งแต่นั้นความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับรถยนต์ประเภทดังกล่าวก็มีให้ได้ยินเพิ่มมากขึ้น เพราะถ้าในเมื่อรัฐบาลไทยสนับสนุนให้มีการผลิตหรือนำเข้ารถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ ประชากรชาวไทยก็ย่อมมีสิทธิ์ที่จะสัมผัสรถ Hybrid และรถยนต์ EV ในราคาที่เป็นมิตรได้ง่ายขึ้น

หนึ่งในข้อบัญญัติที่น่าสนใจคือ กระทรวงการคลังสนับสนุนการผลิตรถยนต์นั่งแบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle : EV) หรือรถยนต์ไฟฟ้า EV เต็มรูปแบบ ได้รับการลดอัตราภาษีสรรพสามิตลงเหลือ 2% (ซึ่งเป็นอัตราการเสียภาษีสรรพสามิตที่ต่ำที่สุด ในบรรดารถยนต์ทุกประเภท)

หากผู้ผลิตต้องการรับสิทธิ์ลดอัตราภาษีรถยนต์ไฟฟ้าเหลือเพียงแค่ 2% จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ และ เงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • ผู้ผลิตต้องได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า จากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)
  • ผู้ผลิตต้องยื่นหนังสือแจ้งความประสงค์ขอรับการลดอัตราภาษีสรรพสามิต และ ทำข้อตกลงกับกรมสรรพสามิตก่อนเริ่มผลิต รถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle : EV) ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563
  • ตั้งแต่ปีที่ 5 นับแต่วันที่ลงนามในข้อตกลงกับกรมสรรพสามิต จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 รถยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า (Electric Powered Vehicle) ที่ผลิตทุกคัน ต้องใช้แบตเตอรี่ที่ผลิต หรือ ประกอบจากผู้ที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนประเภท ลิเธียมไอออน (Li-ion) หรือ นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ (NiMH)หรือ แบตเตอรี่ประเภทอื่นที่ให้พลังงานจำเพาะโดยน้ำหนัก (Wh/kg) ที่สูงกว่าประเภท Li-ion / NiMH

การลดอัตราภาษีสรรพสามิตดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2560 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 โดยประกาศการลดอัตราภาษีครั้งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

นอกจากนี้กระทรวงการคลัง (กรมศุลกากร) ยังออกประกาศยกเว้นอากรนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูป เพื่อทดลองตลาดในปริมาณที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนให้ความเห็นชอบ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี

 

และด้วยโอกาสอันงามในเวลานี้ก็อาจทำให้บริษัทรถยนต์หลายรายเริ่มพลิกเกมส์กล้านำรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่สำเร็จรูปจากต่างประเทศมาทำตลาดในประเทศไทยในราคาที่หลายคนซื้อหากันได้ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินกลยุทธ์ในเมืองไทย แตกต่างจากในอดีตที่ยังมีกำแพงภาษีกั้นกลางจนทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาแพงมาก

คุณธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัดเปิดเผยแก่หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,266 ประจำวันพฤหัสบดีที่ 1 มิถุนายน – วันเสาร์ 3 มิถุนายน 2017 ว่า ทางบริษัทเริ่มเจรจากับบริษัท Kia Motor เกาหลีใต้ เพื่อขอนำเข้า Kia Soul EV รุ่นปรับโฉมที่จะเปิดตัวในเกาหลีใต้ช่วงปลายปีนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำตลาดเมืองไทย

หากการเจรจาประสบผลสำเร็จ ก็มีแนวโน้มว่า Kia Soul EV อาจสามารถตั้งราคาจำหน่ายได้ประมาณ 1 ล้านบาทต้น ๆ ได้

Kia Soul EV รุ่นปัจจุบันถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐาน Kia Soul เจเนเรชั่นที่ 2 เริ่มเปิดตัวครั้งแรกที่งาน Chicago Autoshow เดือนกุมภาพันธ์ 2014 หลังจากนั้นฐานการผลิตเกาหลีใต้ก็เริ่มเดินสายการผลิต Kia Soul EV ในเดือนมิถุนายน ปี 2014 สำหรับตลาดในประเทศ และเริ่มเดินหน้าผลิตล็อตสำหรับส่งออกเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน ปี 2014 เพื่อให้ทันการเปิดตัวในตลาดยุโรปเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2014

สำหรับ Kia Soul EV สำหรับตลาดอเมริกาจะสงวนสิทธิ์จำหน่ายในมลรัฐแคลิฟอร์เนียเพียงที่เดียวเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2014 ต่อมา Kia Soul EV ก็จำหน่ายในมลรัฐจอร์เจียในไตรมาส 2 ของปี 2015 ต่อมาก็กระจายสิทธิ์จำหน่ายไปยังวอร์ชิงตัน, โอริกอน, ฮาวายและเท็กซัส

รายละเอียดดีไซน์ภายนอก Kia Soul EV ที่แตกต่างจาก Kia Soul รุ่นมาตรฐาน

  • ฝากระโปรงหน้าใหม่
  • กระจังหน้าใหม่แบบปิดทึบที่ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เป็นที่ซ่อนปลั๊กชาร์จในตัว
  • กันชนหน้าใหม่แบบปิดช่องดักลม
  • ล้ออัลลอยลายใหม่
  • เปลี่ยนรายละเอียดไฟท้าย LED ใหม่

มิติตัวถังภายนอก

ยาว x กว้าง x สูง : 4,140 x 1,800 x 1,600 มิลลิเมตร
ระยะฐานล้อ 2,570 มิลลิเมตร
แทร็คล้อหน้ากว้าง 1,576 มิลลิเมตร
แทร๊คล้อหลังกว้าง 1,585 มิลลิเมตร

มอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 285 นิวตันเมตร กักเก็บพลังงานไฟฟ้าลงแบตเตอรี่แบบลิเธี่ยมไออน โพลิเมอร์ ขนาด 30 กิโลวัตต์ชั่วโมง ความจุแบตเตอรี่ 80 แอมแปร์ชั่วโมง กำลังไฟฟ้า 375 โวลต์ รองรับการชาร์จด่วนให้เต็มประจุภายใน 33 นาที สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อการชาร์จประจุแบตเตอรี่ให้เต็มเพียงแค่ครั้งเดียว สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 11.2 วินาที พร้อมระบบเสียงเครื่องยนต์สังเคราะห์เพื่อช่วยเตือนภัยให้แก่คนเดินทางเท้าและบนท้องถนน

 

Interior ภายในห้องโดยสาร

  • เปลี่ยนวัสดุชิ้นส่วนภายในห้องโดยสาร 12 ชิ้นที่ทำจากสารสกัดจากต้นอ้อยและชิ้นส่วนที่มีส่วนประกอบของเซลลูโลส แทนที่ชิ้นส่วนที่เกิดจากส่วนประกอบของปิโตรเลียม ได้แก่ แผ่นรองกันกระแทก, ผนังเพดาน, วัสดุบุประตูและขอบเสา, วัสดุผ้าและพรมปูพื้น เป็นต้น
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 5 นิ้วรองรับ AM/FM/MP3/SiriusXM® Audio System (เฉพาะรุ่น EV-e ราคาประหยัดสำหรับแคลิฟอร์เนีย)
  • หน้าจอสัมผัสสีขนาด 8 นิ้ว รองรับ Android Auto, Apple Carplay, SiriusXM® Traffic, HD Radio™, AM/FM/MP3/SiriusXM®
  • ระบบการเชื่อมต่อ UVO eco System ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ แสดงให้เห็นถึงสถานะของแบตเตอรี่, สามารถสั่งล็อก-ปลดล็อกประตู, สามารถสั่งเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศก่อนขับขี่รถเพียงเล็กน้อย
  • มาตรวัดดิจิตอล Super Vison
  • หน้าจอแสดงผล OLED ขนาด 3.5 นิ้วบริเวณเรือนไมล์
  • ระบบ Flex Steer ที่ผู้ขับขี่สามารถปรับโหมดการขับขี่บนพวงมาลัยถึง 3 โหมด อาทิ Sports/Comfort/Normal
    กล้องส่องถอยหลัง
  • Bluetooth พร้อมปุ่มบนพวงมาลัย
  • ลำโพง 6 จุดพร้อมทวีตเตอร์
  • ช่องเสียบ USB/AUX
  • ปุ่มฟังก์ชันบนพวงมาลัย
  • พวงมาลัยปรับ เข้า-ออก/ สูง – ต่ำได้
  • เบาะคู่หน้าระบายอากาศได้
  • เบาะตอนหลังสามารถปรับอุ่นได้
  • เบาะหลังพับได้ 60 : 40
  • ปุ่มกดสตาร์ท
  • หลังคาพาโนรามิค
  • เนื้อที่ห้องสัมภาระ 281 ลิตร
  • ไฟแสดงสถานะการชาร์จประจุเหนือแผงแดชบอร์ดกลาง
  • ระบบ Cruise Control
  • ระบบปรับอากาศที่สามารถปรับอุณหภูมิให้ทันใจผู้ขับขี่ได้ (Driver Only) ช่วยประหยัดพลังงาน
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า

ระบบความปลอดภัยและช่วยเหลือผู้ขับขี่

  • ถุงลมนิรภัย 6 จุด
  • ระบบควบคุมการทรงตัวอิเล็กทรอนิคส์ (ESC)
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ (VSM)
  • ระบบช่วยขับขี่ขึ้นทางลาดชัน (HAC)
  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (BAS)

ราคาจำหน่าย Kia Soul EV ในเกาหลีใต้ มีจำหน่ายเพียงรุ่นเดียวและราคาเดียวที่ 45,582,000 วอน (1,360,000 บาท) แต่หลังจากหักลดภาษีสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าในเกาหลีใต้จะเหลือแค่เพียง 42,800,000 วอน (1,277,000 บาท) ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงว่าราคา Kia Soul EV อาจจะไม่แตกต่างจากตลาดเกาหลีใต้มากนักตามที่เป็นข่าว

กำหนดการเปิดตัว Kia Soul EV จะมีขึ้นภายในปลายปีนี้เป็นอย่างเร็ว