สำหรับไฮไลท์พิเศษของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายในงาน Motor Expo 2015 นี้ คือ การนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด
พร้อมกันถึง 6 รุ่น ครบครันในทุก Segment นำโดย The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic,
The new GLE 250 d 4MATIC ที่มาใน 2 ดีไซน์ คือ Exclusive และ AMG Dynamic, The new A 180 Style,
The new B 200 Urban และ G 350 d Sport

Mercedes_banner

เพื่อตอบสนอง  ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในทุกกลุ่ม นอกจากนี้  เมอร์เซเดส-เบนซ์
ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อรถยนต์ภายในงาน พร้อมเข้าร่วมโปรแกรมทางการเงิน mySTAR Special ที่ให้คุณ
ได้รับอัตราชำระต่อเดือนต่ำเพียง 1% ของราคารถยนต์ อีกทั้งประหยัดดอกเบี้ยมากยิ่งขึ้นตลอดอายุสัญญา รวมถึง
แคมเปญพิเศษ สำหรับผู้ถือบัตร MercedesCard ด้วยการมอบเงินสนับสนุนจำนวน 50,000 บาท สำหรับลูกค้า
ที่ชำระค่าจองหรือเงินดาวน์รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ในรุ่นที่กำหนด ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2558

 

The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic
ราคา 6,690,000 บาท

GLE 350 d GLE 350 d-49

The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับ ดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ต และปราดเปรียว
ด้วยลายเส้นโค้งเว้าที่ให้ความรู้สึกพลิ้วไหว พร้อมความรู้สึกอันแข็งแกร่งจากกระจังหน้าขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วย
ตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง เสริมไฟหน้าโค้งมนและกรอบไฟแบบ LED Intelligent Light System
โดดเด่นด้วย ชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ซึ่งประกอบด้วย กันชนหน้า-หลัง ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว แบบ AMG 5 ก้านคู่
เส้นสายของหลังคาถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย แสดงถึงความเรียบหรูและล้ำสมัย พร้อมพาโนรามิคซันรูฟ
ซึ่งสามารถ เลื่อนเปิด-ปิดได้อัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า สำหรับ ดีไซน์ภายใน ยังคงความหรูหรา สง่างาม ด้วยการเลือกใช้
วัสดุคุณภาพชั้นดีที่ยืดหยุ่นต่อการใช้งานและสามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย เบาะนั่งด้านหลังแบบ 3 ที่นั่ง สามารถ
พับได้แบบ 1/3 : 2/3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น

GLE 350 d-15

นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังเพิ่มเติมความสะดวกและความบันเทิงในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น ด้วยระบบ COMAND Online และ
ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย Touchpad ด้านเทคโนโลยี มาพร้อมกับระบบ Dynamic Select ที่มีโหมดการขับขี่  4 แบบ
คือ Individual ที่สามารถช่วยจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ขับได้, Comfort ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบาย
เหมือนขับรถซาลูน, Slippery เหมาะกับการวิ่งบนถนนที่ลื่น, Sport เน้นการเพิ่มความเร้าใจในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ รถรุ่นนี้ยังได้ติดตั้งระบบกันสะเทือนแบบอากาศพร้อมระบบควบคุมระดับ ADS (Adaptive Damping System)
เพื่อรองรับการขับขี่ในทุกสภาพถนน

GLE 350 d-14

The new GLE 350 d 4MATIC Coupé AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซลแบบ V6 เทอร์โบ พร้อมเกียร์
อัตโนมัติ เดินหน้า แบบ 9G-TRONIC ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซี  กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 258 แรงม้า ที่ 3,400 รอบ/นาที
แรงบิด 620 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 226 กม./ชม.
ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent all-wheel drive

 

GLE 250 d 4MATIC Exclusive   ราคา 4,990,000 บาท
GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic   ราคา 5,490,000 บาท

GLE 250 d-13 GLE 250 d

(GLE 250d 4MATIC Exclusive)

The new GLE-Class รถยนต์สไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งปรับโฉมมาจาก M-Class
ที่ยังคงสะท้อนถึงตัวตนที่บ่งบอกประสิทธิภาพความแข็งแกร่ง คล่องแคล่ว ปราดเปรียว มีดีไซน์และสไตล์เป็นของตนเอง
โดย ดีไซน์ภายนอก ดูโดดเด่น มากยิ่งขึ้นด้วยลายเส้นสวยคมสะดุดตา พร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ เส้นสายหลังคา
ถูกออกแบบให้ลาดเอียงไปทางด้านท้าย ที่เน้นดีไซน์แบบเรียบหรู ล้ำสมัย โดยรุ่นที่เปิดตัวในครั้งนี้ คือ  GLE 250 d
4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic ที่ตกแต่งด้วยกระจังหน้าสีเงินเสริมโครเมียมแบบ
2 แถบ พร้อมตราสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง, กันชนด้านหน้าพร้อมช่องระบายอากาศขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วย
โครเมียม, ขอบหน้าต่างแบบโครเมียม, ปลายท่อไอเสียเสริมโครเมียม 2 ท่อ, ไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System,
ไฟ daytime สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน, ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง ไฟท้าย และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED, กระจก
มองข้างด้านผู้ขับขี่ และกระจกส่องหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ โดย GLE 250 d 4MATIC Exclusive จะมาพร้อม
กับล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว สีเทา

GLE 250 d-2
GLE 250 d-50

(GLE 250d 4MATIC AMG Dynamic)

ส่วน GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic จะเพิ่มลุคสปอร์ตยิ่งขึ้น ด้วยล้ออัลลอย ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG
ขนาด 20 นิ้ว สีเทา, ชุดแต่ง AMG bodystyling ที่บริเวณกันชนหน้า-หลัง, ดิสก์เบรกหน้าแบบมีช่องระบายความร้อน,
สัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์บนคาลิปเปอร์เบรกหน้า, บันไดข้าง สเตนเลสดีไซน์สปอร์ต รวมถึงเพิ่มความรู้สึกกว้างขวาง
ด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เลื่อน เปิด-ปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้า (Electric panoramic sliding glass sunroof)
สำหรับ ดีไซน์ภายใน ยังคงเน้นความหรูหรา สง่างาม แต่แฝงกลิ่นอายความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม โดยทั้ง 2 รุ่น
มาพร้อมกับด้านบนของคอนโซลหน้า และด้านบนของแผงหุ้มประตูหุ้มด้วยหนัง Artico, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ปุ่มสตาร์ท
เครื่องยนต์ (Push start), ระบบควบคุม THERMATIC แบบ 2 โซน ระบบเชื่อมต่อสื่อบันเทิง (media interface) และ
อุปกรณ์เครื่องเสียง อย่าง วิทยุ-ซีดี  MB Audio 20 พร้อมมอนิเตอร์ขนาด 8 นิ้ว, ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์
เคลื่อนที่ Bluetooth

GLE 250 d-26

(GLE 250d 4MATIC Exclusive)

GLE 250 d-30

(GLE250d 4MATIC AMG Dynamic)

โดยสำหรับ GLE 250 d 4MATIC Exclusive ตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง และสำหรับ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic
จะตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง nappa อีกทั้งยังมาพร้อมกับชุดคันเร่งและแป้นเบรกแบบสปอร์ต และระบบเสียงรอบทิศทาง
Harman Kardon® Logic 7® นอกจากนี้ ห้องโดยสารภายใน ของทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ด้านหน้าปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความ
ต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของที่เพิ่มขึ้น พร้อมเพิ่มสุนทรียศาสตร์แห่งการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร
แบบ 3 สี GLE 250 d 4MATIC Exclusive และ GLE 250 d 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล
แถวเรียง 4 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ รวมถึงเกียร์อัตโนมัติแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
ความจุกระบอกสูบ 2,143 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 204 แรงม้า ที่ 3,800 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ
1,600-1,800 ต่อนาที อัตราเร่ง  0-100 กม./ชม. ที่ 8.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 212 กม./ชม.

 

A 180 Style
ราคา 1,990,000 บาท

a 180 a 180-9

A 180 Style โฉมใหม่ ถูกออกแบบให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างลงตัวด้วยการนำเสนอมิติใหม่ของ
ยนตรกรรมที่ผสมผสานความโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว เข้ากับความสะดวกสบายขณะขับขี่ โดย ดีไซน์ภายนอก ยังคง
ออกแบบโดยยึดหลักความเรียบง่ายที่ ถ่ายทอดผ่านลายเส้นด้านข้างตัวรถที่พลิ้วไหวสะดุดตา และกรอบหน้าต่างที่ลาดต่ำ
พร้อมกันชนหน้าโฉมใหม่ที่มีลักษณะคล้ายลูกศรซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ ConceptA-Class, กระจังหน้าแบบ
Diamond grille พร้อมหมุดสีดำ, ชุดไฟหน้าแบบ LED High Performance, ชุดไฟท้ายแบบใหม่ สำหรับดีไซน์ภายใน
ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมดให้ดูทันสมัย และปราดเปรียวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ รถยนต์รุ่นนี้ ยังมาพร้อม เทคโนโลยี
DYNAMIC SELECT ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องยนต์ อาทิ ระบบเกียร์
ระบบกันสะเทือน พวงมาลัย หรือแม้กระทั่งระบบปรับอากาศห้องโดยสารจากปุ่มควบคุมเพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยการตั้งค่า
ดังกล่าวมีให้เลือกด้วยกันถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ Comfort, Sport, Eco และ Individual

a 180-43 a 180-16

A 180 Style โฉมใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 122 แรงม้า
ที่ 5,000 รอบ/นาที แรงบิด 200 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,250 – 4,000 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.6 วินาที
ความเร็วสูงสุด 202 กม./ชม.

 

B 200 Urban
ราคา 2,440,000 บาท

B200 B200-10

The B-Class ใหม่ โมเดลปี 2015 นับเป็น B-Class เจเนอเรชั่นที่ 3 ที่มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนรูปโฉมดีไซน์ใหม่
เพื่อให้มีความโฉบเฉี่ยวทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงความสวยงามและพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยในแบบรถครอบครัวฺเอาไว้
เช่นเดิม โดยสำหรับดีไซน์ภายนอก ยังคงความโดดเด่นสไตล์รถยนต์ Compact Sports Tourer ด้วยแนวเส้น ด้านหน้า
ที่เริ่มจากฝากระโปรงหน้าไหลลื่นต่อเนื่องไปยังแนวหลังคาและสปอยเลอร์หลังคา แนวเส้นด้านข้างที่เฉียบคมเสริมลุค
ให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ด้านหน้ามาพร้อมกับกระจังหน้า ดีไซน์ใหม่ พร้อมสัญลักษณ์เมอร์เซเดส-เบนซ์ตรงกลาง และ
แผงกันชนหน้าที่มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงไฟหน้า-หลังใหม่ แบบ LED High Performance พร้อมเสริม
ไฟหน้าด้วยไฟ daytime เพื่อใช้สำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED

B200-11

ดีไซน์ภายใน มาพร้อมกับเบาะนั่งหุ้มหนัง Leather พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ (Push start),
วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 รองรับการใช้งานระบบนำทาง (Pre-installation SD Card Navigation) ห้องโดยสาร ได้รับการ
ออกแบบมาเพื่อให้ทุกการเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวกสบายสูงสุด ด้วยเบาะนั่งสำหรับผู้ขับขี่ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า
พร้อมหน่วยบันทึกความจำ โดยเบาะนั่งด้านหลังสามารถพับได้ทั้ง 1:3 / 2:3 ตามความต้องการเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บของ
ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยเติมเต็มทุกบรรยากาศการขับขี่ด้วยไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ที่มีให้เลือก
ถึง 12 สี ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ รวมถึงความเข้มอ่อนของแสงได้ 5 ระดับ เป็นต้น

B200-46

B 200 Urban ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 7G-DCT ความจุกระบอกสูบ 1,595 ซีซี
กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 156 แรงม้า ที่ 5,300 รอบ/นาที แรงบิด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,250 – 4,000 รอบต่อนาที
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 220 กม./ชม.

 

G 350 d Sport
ราคา 8,490,000 บาท

Mercedes-Benz G-Class (BR 463) 2015; G 350 d Exterieur: tenoritgrau metallic exterior: tenorite grey metallic Mercedes-Benz G-Class (BR 463) 2015; G 350 d Interieur: designo porzellan, Zierteile designo Klavierlack schwarz interior: designo porcelain, designo black piano lacquer trim

G 350 d Sport ยนตรกรรมขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด โดยดีไซน์ภายนอก ถูกออกแบบให้ดูสปอร์ต
แข็งแกร่งและดุดันมากยิ่งขึ้น ด้วยกันชนรูปแบบใหม่ จากแบรนด์ AMG ที่มีสีเดียวกับตัวรถ รวมถึงล้ออัลลอยน้ำหนักเบา
แบบ 5 ก้าน ขนาด 19 นิ้ว ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ดีไซน์ภายใน ได้รับการดีไซน์ให้สอดคล้องกับภายนอก ด้วยเส้นด้าย
เบาะรถยนต์สีเดียวกับตัวรถ แผงหน้าปัดสำหรับผู้ขับขี่ 2 แผง หน้าจอแบบ Multifunction หน้าปัดและเข็มชี้ใหม่ รวมถึง
หน้าปัดแบบสปอร์ต นอกจากนี้ The new G-Class ยังมาพร้อมแพ็คเกจตกแต่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ สีสำหรับภายนอก
รถยนต์ที่มีให้เลือกสรรกว่า 13 สี ในด้าน เทคโนโลยีและความปลอดภัย The new G-Class มาพร้อมความก้าวล้ำไปอีกขั้น
ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสะเทือนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของรถ ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสัมผัสกับความนุ่มสบายที่เพิ่มขึ้น
ขณะขับขี่บนท้องถนน ระบบ ESP ที่ปรับตั้งค่าได้โดยอัตโนมัติเพื่อรักษาสมดุลและความปลอดภัย ระบบเบรก ABS และ
ระบบป้องกันการลื่นไถล ASR ที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะบนผิวถนนพร้อมลดระยะการเบรกลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

12C712_19

G 350 d Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ความจุกระบอกสูบ 2,987 ซีซี กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 245 แรงม้า ที่
3,600 รอบ/นาที แรงบิด 600 นิวตันเมตร ที่ความเร็วรอบ 1,600 – 2,400 ต่อนาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 8.8 วินาที
ความเร็วสูงสุด 192 กม./ชม.