ตามคำสัญญาที่ BMW Thailand ให้ไว้เมื่อตอนต้นปี บัดนี้ พวกเขาพร้อมแล้วที่จะเปิดตัว MINI Countryman
Compact Crossover SUV…ซึ่ง BMW มักเรียกว่า SAV ที่ผสานทั้งความสนุกในการขับขี่ กับบุคลิกในแบบ MINI
และเติมเต็มความอเนกประสงค์ เข้าไปจนครบถ้วนลงตัว แต่ ที่เด็ดกว่า ครั้งไหนๆ ก็ตรงที่ อาจพูดได้เต็มปากว่า
นี่คือครั้งแรกในเมืองไทย ที่รถยนต์ จาก ผู้ผลิตและจำหน่ายอย่างเป็นทางการ สามารถเชื่อมต่อ Internet ได้
จากชุดเครื่องเสียงภายในรถ (ไม่นับตลาด Aftermarket ทั้งหลาย) ประกาศเปิดตัวแล้วเมื่อ 24 พฤศจิกายน 2010

คุณ กฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย กล่าวว่า “MINI Countryman กำลังจะมาสร้างปรากฎการณ์ใหม่
ให้กับแฟนๆ มินิในเมืองไทย ด้วยคอนเซ็ปต์รถอเนกประสงค์แบบ Crossover มีห้องโดยสารกว้างขวางสำหรับผู้ใหญ่
4 คนได้อย่างสบาย อีกทั้งยังผสมผสานกับอารมณ์การขับที่สนุกสนานและปราดเปรียวว่องไวในสไตล์ Go-kart feeling
ตามแบบฉบับของมินิ ความลงตัวด้านประโยชน์ใช้สอยและอารมณ์การขับที่สนุกสนานนี้เองจะช่วยขยายตลาดของมินิ
ในเมืองไทยให้กว้างขึ้น ให้รวมถึงกลุ่มลูกค้าครอบครัวรุ่นใหม่ใจรักความสปอร์ตและดีไซน์ทรงเสน่ห์มีเอกลักษณ์
เฉพาะตัว ดีไซน์ภายในของ MINI Countryman ยังมีรูปแบบที่แปลกใหม่สะดุดตา นอกจากจะมีความโดดเด่นแล้ว
ยังมีประโยชน์ใช้สอยที่ลงตัวด้วย เช่น นวัตกรรมใหม่ระบบ Center Rail Storage ซึ่งเป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอย
สำหรับการจัดเก็บสิ่งของต่างๆภายในห้องโดยสารได้อย่างชาญฉลาด ในรุ่น MINI Cooper S ALL4 Countryman
เรายังได้ติดตั้งระบบ MINI Connected ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในเมืองไทยที่รถยนต์สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้
ในขณะนี้ ระบบ MINI Connected สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรม Twitter, Web news และ Web radio ซึ่งทำให้
การฟังวิทยุจากประเทศต่างๆทั่วโลก เป็นไปได้อย่างง่ายดายและในอนาคตก็จะมีการเปิดบริการเพิ่มขึ้นในส่วน
โปรแกรม Facebook และ Google Local Search ทั้งนี้ ระบบ MINI Connected จะทำงานร่วมกับ iPhone 4 ผ่าน
ระบบเชื่อมต่อสัญญาณ Data GPRS หรือ 3G”

MINI Countryman เป็นสมาชิกลำดับที่ 4 ในครอบครัวของมินิ (จากรุ่น Hatchback, Clubman และ Convertible)
โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์สไตล์มินิในรูปแบบที่แตกต่าง เพิ่มทั้งความอเนกประสงค์และการบุกตะลุย
ทางฝุ่นไปพร้อมๆกัน

แนวคิดการเพิ่มความยืดหยุ่นในด้านประโยชน์ใช้สอยความอเนกประสงค์ของ MINI Countryman ได้รับแรงบันดาลใจ
จาก Austin Seven Countryman ที่ออกแบบโดย Sir Alec Issigonis ซึ่งได้เพิ่มศักยภาพประโยชน์ใช้สอยให้กับมินิได้อย่าง
ปราดเปรื่อง ในขณะนั้น Austin Seven Countryman และ Morris Mini Traveller ซึ่งเป็นรุ่นคู่หูภายใต้แบรนด์การตลาด
ที่แตกต่าง ได้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในยุคทศวรรษที่ 1960 อีกทั้งยังมีรุ่น ‘Woody’ ที่เป็นเวอร์ชั่นพิเศษ ซึ่งได้รับการ
ตกแต่งด้วยลายไม้ในส่วนของประตูด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งทำให้กลายเป็นเอกลักษณ์และได้รับความนิยมอย่าง
ล้นหลามในสมัยนั้น และเป็นที่ค้นหาสำหรับนักสะสมในสมัยนี้ และการขยายขอบเขตความอเนกประสงค์นี้เอง
จึงเป็นที่มาของชื่อรุ่น ‘Countryman’

MINI Countryman มาในรูปแบบตัวถังแบบ Crossover ที่มีความสูงอยู่ระหว่างรถยนต์แบบซาลูนและรถอเนกประสงค์
SAV Sports Activity Vehicle ในขณะที่ MINI Countryman ยังคงไว้ซึ่งสัดส่วนและรูปลักษณ์ที่เป็นจุดเด่นของมินิใน
ทุกมุมมอง แต่มันก็ได้ขยายมิติเพิ่มขึ้นในทุกด้านเช่นกัน โดย MINI Cooper S ALL4 Countryman มีความยาว 4,110
มิลลิเมตร (ยาวกว่ารุ่น MINI Cooper S Clubman 149 มิลลิเมตร) ความกว้าง 1,789 มิลลิเมตร (กว้างกว่ารุ่น Clubman
106 มิลลิเมตร) และความสูง 1,561 มิลลิเมตร (สูงกว่ารุ่น Clubman 129 มิลลิเมตร)

MINI Countryman ได้รับการสร้างสรรค์ภายใต้นิยาม ‘Urban Mobility + Impressive Flexibility’ ซึ่งมุ่งเน้นการขับขี่
ในเมืองอย่างปราดเปรียว เปี่ยมด้วยสไตล์และรสนิยมที่โดดเด่น แต่ก็สามารถ ‘ยืดหยุ่น’ ได้อย่างน่าประทับใจ เพื่อ
ตอบสนองความต้องการ ทั้งในด้านประโยชน์ใช้สอยด้วยคอนเซ็ปต์ตัวถังแบบ 4 ประตู 4 ที่นั่ง พร้อมด้วยฝาท้าย
ขนาดใหญ่ที่เปิดได้กว้าง รวมถึงนวัตกรรมใหม่อย่างระบบ Center Rail Storage ซึ่งเป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอย
สำหรับการจัดเก็บสิ่งของต่างๆภายในห้องโดยสารได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ MINI Countryman สามารถขยายฐาน
ลูกค้าของมินิให้กว้างยิ่งขึ้น โดยรวมถึงกลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ใจรักความสปอร์ตและกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบกิจกรรม
กลางแจ้ง เช่น ขี่จักรยาน หรือ เล่นเซิร์ฟบอร์ด

ด้านความปลอดภัยและความหรูหราสะดวกสบาย MINI Cooper S ALL4 Countryman ก็มีให้พร้อมสรรพ เช่น
ระบบไฟหน้าแบบ Bi-Xenon พร้อมระบบ Adaptive Headlights ซึ่งทำหน้าที่ปรับมุมการส่องสว่างตามการหักเลี้ยว
ของพวงมาลัย, หลังคากระจก Panorama glass roof, ระบบ Comfort Access, ระบบ MINI Connected สามารถ
เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ iPhone 4 ผ่านระบบ Data GPRS หรือ 3G สามารถใช้โปรแกรม Twitter,
Web news และ Web radio ซึ่งทำให้การฟังวิทยุจากประเทศต่างๆทั่วโลกเป็นไปได้อย่างง่ายดาย, ระบบ Bluetooth
เชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือและไฟล์เพลงจากโทรศัทท์มือถือ เช่น iPhone และ Blackberry, เครื่องเสียง Harman Kardon
10 ลำโพง พร้อมระบบเชื่อมต่อ USB, ระบบควบคุม iDrive พร้อมจอมอนิเตอร์ขนาด 6.5 นิ้ว, ระบบสั่งงานด้วยเสียง
Voice Control และพวงมาลัยสปอร์ตพร้อมระบบ Multi Function เป็นต้น

ที่สำคัญที่สุด มันยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์ของมินิ ทั้งด้านรูปร่างหน้าตาและสมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวคล่องตัว
ทั้งในเมืองและนอกเมือง ด้วยอารมณ์การขับขี่สไตล์ Go-kart feeling ในรูปแบบใหม่ ด้วยเครื่องยนต์แบบเดียวกับ
MINI Cooper S ตัวถังมาตรฐาน มีให้เลือกทั้ง เครื่องยนต์เบนซิน 4 สบ DOHC 16 วาล์ว 1.6 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี
ระบบอัดอากาศ Twin-Scroll Turbo ที่ทำงานร่วมกับระบบแปรผันวาล์ว VALVETRONIC กำลังสูงสุด 184 แรงม้า
ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 240 นิวตันเมตรที่ 1,600-5,000 รอบ/นาที และสามารถเพิ่มเป็น 260 นิวตันเมตร
ในขณะเร่งแซงด้วยฟังก์ชั่น Overboost ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมฟังก์ชั่น Steptronic และ
แป้นเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย สามารถสร้างอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 8.3 วินาที มีอัตรา
การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 12.4 กิโลเมตร/ลิตร และคายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 189 กรัม/กิโลเมตร

นอกจาก MINI Cooper S ALL4 Countryman แล้ว มินิ ประเทศไทย ยังนำเสนอรุ่น MINI Cooper Countryman
แบบมาตรฐาน ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.6 ลิตร แบบไม่มี Turbo แต่ยังคงมีระบบแปรผันวาล์ว
VALVETRONIC 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 160 นิวตันเมตร ที่ 4,250 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่าน
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมฟังก์ชั่น Steptronic มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 11.6 วินาที
อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 13.2 กิโลเมตร/ลิตร คายไอเสียคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เพียง 177 กรัม/กิโลเมตร

นอกจากนี้ MINI Countryman ในรุ่น Cooper S ALL4 ยังได้เพิ่มศักยภาพการบุกตะลุยทางฝุ่นด้วยระบบขับเคลื่อน
สี่ล้อ MINI ALL4 ซึ่งทำงานผ่านระบบ Electromagnetic Center Differential ที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษสำหรับ
มินิโดยเฉพาะ เพื่อสร้างอารมณ์การขับขี่ที่ปราดเปรียวว่องไวในทุกสถานการณ์ โดยในสภาพการขับขี่บนถนนปกติ
ระบบจะกระจายพลังขับเคลื่อนไปสู่ล้อหลังได้มากถึง 50% ตามที่รถต้องการ ส่วนในสภาพการขับขี่บนถนนเปียกลื่น
เช่น บนพื้นน้ำแข็ง ระบบจะสามารถแปรผันแรงขับเคลื่อนไปสู่ล้อที่ต้องการได้ 100%

วิศวกรของมินิออกแบบให้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ MINI ALL4 นี้ทำงานเป็นส่วนหนึ่งของสมองกลอิเลคทรอนิคของ
ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control ซึ่งทำให้มันสามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วถึง 1/10 วินาที
ในขณะเดียวกัน ระบบแชสซีของ MINI Countryman ยังถูกออกแบบและเซ็ตเป็นพิเศษ ผสมผสานความสปอร์ตและ
ความสบายได้อย่างมหัศจรรย์ ระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson และ Forged Track Control Arms ส่วนด้านหลัง
เป็นแบบมัลติลิงค์ที่ให้ประสิทธิภาพการเกาะถนนยอดเยี่ยม อีกทั้งยังมีการติดตั้ง Anti-roll Bars ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนสำหรับการเข้าโค้งโดยเฉพาะ

MINI Countryman มาพร้อมระบบพวงมาลัยแบบ EPS Electric Power Steering ที่นอกจากจะสามารถให้การควบคุม
เฉียบคมและแม่นยำแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันอีกด้วย นอกจากระบบแชสซีที่เหนือชั้นแล
ะระบบพวงมาลัยที่เฉียบคมแล้ว MINI Countryman ยังมีระบบอิเลคทรอนิคเสริมด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น
ระบบรักษาเสถียรภาพ DSC Dynamic Stability Control, ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก ABS (Anti Brake-locking
System), ระบบกระจายแรงเบรกสู่ล้อทั้ง 4  EBD Electronic Brake force Distribution, ระบบช่วยเพิ่มแรงเบรกขณะ
เข้าโค้ง CBC (Cornering Brake Control), ระบบเพิ่มแรงเบรกในภาวะฉุกเฉิน BA (Brake Assist) และระบบช่วย
ออกตัวบนทางลาดชัน HA (Hill Assist)

MINI Countryman มีให้เลือก 2 รุ่น คือ MINI Cooper S ALL4 Countryman (ราคา 3,290,000 บาท)
และ MINI Cooper Countryman (ราคา 2,790,000 บาท) ราคาจำหน่ายนี้ รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และ
โปรแกรมบำรุงรักษาตลอดอายุการรับประกัน MSI MINI Service Inclusive 3 ปี / 50,000 กิโลเมตร

MINI Countryman จะถูกเปิดผ้าคลุมกันครั้งแรกในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 27 หรืองาน
Motor Expo 2010 ที่จะมีขึ้นที่อิมแพคชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคมนี้

————————————————///————————————————–