Mitsubishi Triton Big-Minorchange

เมื่อใกล้ถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการเข้ามาเรื่อยๆ Mitsubishi ประเทศไทย ก็ขยันปล่อย Teaser ออกมาเรื่อยๆ พร้อมกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชน 9 พฤศจิกายน นี้

Mitsubishi Triton Big-Minorchange จะมาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ดังนี้

  • ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว FCM
  • ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง UMS
  • ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา BSM
  • ระบบเตือนขณะเปลี่ยนช่องจราจร LCA
  • ระบบเตือนด้านหลัง ขณะถอยออกจากช่องจอด RCTA
  • กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา Multi Around View Monitor พร้อมเส้นแสดงทิศทาง

ส่วนขุมพลังนั้น ยังไม่มีรายละเอียดปรากฏในขณะนี้ คาดว่าเป็นเครื่องยนต์เดิม ดีเซล รหัส 4N15 4 สูบ 2.4 ลิตร เทอร์โบแปรผัน VG-Turbo – Intercooler พร้อมระบบแปรผันวาล์ว MIVEC กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 2,500 รอบ/นาที

แต่อาจจะมีการปรับปรุงสมรรถนะ และ คาดว่าจะมีการเปลี่ยนระบบส่งกำลังใหม่ ที่จากเดิมใช้เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ เป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะลูกใหม่ ของ AISIN รหัส R6AWH / V6AWH เพื่อให้สามารถสู้รบปรบมือ กับคู่แข่งในตลาดได้อย่างสมน้ำสมเนื้อขึ้น

ด้านหน้ารถมีการปรับดีไซน์เป็นแบบใหม่ Dynamic Shield เรียบร้อยแล้วตามพี่น้อง Pajero Sport / Xpander ด้านท้ายรถเห็นไฟ Light Guiding แบบ Spectrum LED คล้ายกับไฟท้ายรุ่นพี่ Pajero Sport ถูกปรับมาใช้กับรถกระบะ Triton Minorchange ด้วยเช่นกัน

ด้านท้ายจะมีการปรับดีไซน์ใหม่ทั้งหมด เพื่อรับกับดีไซน์ด้านหน้ารถแบบ Dynamic Shield โดยมีการเปลี่ยนทั้งกระบะท้าย ไฟท้าย ฝาท้าย และ กันชนท้ายรูปแบบใหม่ เสริมเส้นสายให้มีความบึกบึนขึ้น ดูละม้ายคล้าย Nissan Navara อยู่ไม่น้อย โป่งซุ้มล้อ ทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง เปลี่ยนดีไซน์เป็นแบบ Built-in Fender ไม่ได้เป็นคิ้วแปะเหมือนเดิมอีกต่อไป

ในส่วนของห้องโดยสารนั้น ไม่มีภาพหลุดติดมาด้วย แต่มีรายงานว่า มีการอำพรางในรถยนต์ทดสอบเช่นกัน ทำให้คาดการณ์ได้ว่า Mitsubishi Triton Minorchange อาจมาพร้อมกับแดชบอร์ด, มาตรวัด และ แผงควบคุมแบบใหม่ ในขณะที่ชุดเครื่องเสียงรุ่นใหม่ และ เบาะที่กระชับลำตัวกว่าเดิมนั้น ล้วนมีความเป็นไปได้ที่จะเพิ่มเข้ามาเช่นกัน

ทั้งหมดจะเป็นอย่างไรนั้น รอติดตามการเปิดตัวของ Mitsubishi Triton Minorchange วันที่ 9 พฤศจิกายน นี้ โดยประเทศไทย จะเป็นประเทศแรกในโลกที่จะได้สัมผัสกัน

สาเหตุที่รถกระบะมักจะเปิดตัวที่ไทยเป็นที่แรกของโลก เพราะ ไทยเป็นตลาดใหญ่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกในรถกลุ่ม Compact Pick-up นั่นเอง


เรียบเรียงข้อมูลโดย www.headlightmag.com

ภาพ Spyshot ไฟท้ายรถทดสอบพรางตัว จากคุณ อุทัย ฉึกๆ via Headlightmag webboard

ภาพ Spyshot ด้านท้ายรถ จากคุณ Phanuwat Rattanadach via New Triton Club


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/67923.0