ดูเหมือนจะเป็นประเพณีประจำสำหรับช่วงท้ายปีที่พวกเราทีมงาน Headlightmag
จะมาพร้อมหน้ากันที่ร้าน Dunkin Donut ชั้น 1 ของอาคาร Impact Challenger Hall
เพื่อเตรียมพลังให้พร้อมสำหรับการลุยงาน MotorExpo เพื่อสรรหาข่าวคราวเกี่ยวกับ
รถใหม่ๆมาเสิร์ฟให้ทุกท่านทันก่อนวันเปิดงานรอบสาธารณะ ซึ่งในปีนี้ จะเริ่มตั้งแต่
วันที่ 2 ธันวาคม ไปจนถึง 12 ธันวาคม 2559

ท่านที่สนใจมาร่วมชมงานในวันธรรมดา ท่านสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 12.00 น.
ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ จะเปิดเร็วขึ้นเป็น 11.00 น. และเลิกงาน
ในเวลา 22.00 น.

สำหรับงาน Motor Expo ในปี 2016 นี้ ใช้ธีมประจำงานว่า “เชื่อมโลก…เชื่อมคน
ยานยนต์อัจฉริยะ” หรือ Connect the world.. Connect People: Smart vehicles
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของโลกยานยนต์ในปัจจุบันที่นอกจากจะมุ่งเน้นการ
ลดมลภาวะ เพิ่มความประหยัดเชื้อเพลิงแล้ว ยังมีการนำเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยส่งเสริม
ความปลอดภัย ตลอดจนการใช้ระบบสื่อสารยุคใหม่เพื่อความสะดวกสบายในการ
ใช้รถใช้ถนน ซึ่งเป็นการปูพื้นฐานไปสู่ยุคหน้า ที่ยานยนต์บนท้องถนนจะขับเคลื่อน
ไปได้โดยไม่ต้องมีผู้ควบคุม

ในปีนี้ แม้ว่าเราจะผ่านช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกในเดือนตุลาคมมาอย่างยาก
ลำบากยิ่ง…แต่อุตสาหกรรมรถยนต์เปรียบเสมือนโลหิตที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ
ประเทศไทย หากหยุดลงเมื่อใดก็ตาม ผลกระทบที่เกิดขึ้นย่อมถึงกันในทุกส่วน
มิใช่แค่เพียงบริษัทรถยนต์ แต่ยังรวมถึงผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่ และอุปกรณ์ตกแต่ง
ต่างๆ

ดังนั้น ทางผู้จัดงาน (บริษัทสื่อสากล จำกัด) พร้อมทั้งบริษัทรถยนต์หลายค่าย
และสื่อมวลชนสายยานยนต์ที่มาพร้อมกันในวันนี้ ต่างก็มีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่
ของแต่ละฝ่ายอย่างสุดความสามารถ ให้สมกับเป็นคนไทยที่เกิดในรัชกาลที่ 9
น้อมรับพระบรมราโชวาทในการปฏิบัติตนให้มีคุณค่า และทำหน้าที่ของตนเอง
อย่างดีที่สุด เพื่อก่อร่างสร้างประโยชน์ให้กับสังคมที่ตัวเองอยู่อาศัย

MotorExpoPlan

ดังนั้น…ท่านผู้อ่านครับ

อย่าเพิ่งคิดว่างานปีนี้จะเงียบ เพราะถ้าหากคุณพิจารณาจากแผนผังการจัดงาน
ข้างบนนี้แล้ว ก็จะพบว่าบริษัทรถยนต์ต่างๆ ยังคงเข้าร่วมงานตามปกติ

และยิ่งไปกว่านั้น หากนับรถยนต์ทุกรุ่นที่มีการเปิดตัวใหม่, เปิดรุ่นย่อยใหม่,
ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์และรายละเอียด หรือรถต้นแบบรวมกันแล้ว จะได้ผลบวก
รวมกันมากกว่า 30 รุ่น! แม้ว่าฝั่งญี่ปุ่นอาจยังมีท่าทีรีรอ ไม่ได้เผยโฉมรถรุ่นใหม่
มากเท่าที่เราคิดไว้ บางค่าย ย้ายกำหนดการเดิมไปเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในปีหน้า
แต่ฝั่งยุโรปนั้น แค่ดู Mercedes-Benz, BMW และ Volvo ก็มีรถใหม่ที่น่าสนใจ
รวมกันเกิน 10 รุ่นเข้าไปแล้ว

ดังนั้น ผมและทีมก็จะขอทำหน้าที่อย่างที่เคยทำติดต่อมากันหลายปี ในบทความนี้
จะมีการสรุปรถใหม่ของแต่ละค่ายเอาไว้เพื่อให้คุณผู้อ่านสามารถวางแผนในการ
“ช้อปรถ” ได้ว่าจะเดินบูธไหน อย่างไร

อย่าลืมติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากทางเพจ Headlightmag ใน Facebook เพราะ
นอกจากจะมีบทความนี้แล้ว ทางคุณหมู ธีรพัฒน์ ยังได้ทำกระทู้เจาะลึกสำหรับรถรุ่น
ต่างๆ และมีรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับรถบางรุ่นที่คุณอาจสนใจเป็นพิเศษ

ติดตาม-เตรียมชม-เตรียมเงิน-ขอวีซ่าภรรยา แล้วก้าวเดินไปข้างหน้ากับเราได้เลยครับ!

 

ASTON MARTIN
เลี้ยงสั่งลา DB9

Aston_booth

ปีนี้ Aston Martin ยังไม่มีรถใหม่ในตลาดประเทศไทย เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา
ก็ได้เปิดตัวรถใหม่ไปก่อนหน้านี้แล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สมศักดิ์ศรีสายพันธ์
Grand Tourer จากอังกฤษ จึงได้ส่งรถมาโชว์ครบเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น Rapide S,
Vantage, DB9 และ Vanquish V12

Aston_DB9Carbon Aston_DB9Carbon02

ในงานนี้ ทางผู้บริหาร Aston Martin บอกว่า DB9 กำลังจะกลายเป็นตำนานแล้ว
เพราะเดี๋ยวก็ต้องมี DB10 มาแทนที่ ดังนั้นจึงขอสรรเสริญความดีของ DB9 ที่ได้
รับใช้ทางค่ายมาตั้งแต่ปี 2004 ส่งรุ่น DB9 Carbon Coupe ราคาย่อมเยาเพียงแค่
21,890,000 บาท มาให้ชม

ชื่อรุ่น Carbon นั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับภาคหนึ่งของ Need for Speed แต่
อย่างใด (แม้ว่าในเกมนั้นจะมีตัวละครที่ขับ DB9 ก็ตาม) แต่หมายถึงการตกแต่ง
ด้วยคาร์บอนภายใน ภายนอก กระจกส่องข้าง ช่องระบายอากาศและลิ้นหน้า
เบรกที่ใช้เป็นแบบคาร์บอนเซรามิก เครื่องยนต์ V12 6.0 ลิตร 510 แรงม้า ส่งกำลัง
ผ่านเกียร์อัตโนมัติ Touchtronic 2 6 จังหวะ ตัวถังสวยงามได้สัดส่วน ไม่หวั่นแม้
ยันขายมาแล้ว 12 ปี ออกแบบโดย Henrik Fisker

 

BMW/MINI
330e 2.599 ล้านบาท\\M4GTS\\MINI SEVEN

BMWMINI_boothA

ปีนี้คู่แข่งสายตรงอย่าง Mercedes-Benz ไม่รู้ไปโดนใครเหยียบเท้ามา ส่งหมัด
ส่งคลื่น ส่งรถมาราวกับปีหน้าจะไม่ได้เปิดตัวรถใหม่สักรุ่น ทาง BMW ก็ต้องตอบ
คำถามว่าจะ Beat Mercedes with What!

ดังนั้น นอกจาก X1 sDrive18i และ 18d ที่แม้จะเปิดตัวไปสักพักและทางเว็บเรา
ได้ไปร่วมทดลองขับที่ภูเก็ต (อ่านบทความได้ที่นี่) ก็ยังมีรถรุ่นอื่นที่พยายามสู้สุดฤทธิ์
ไม่ว่าจะเป็น 525d กับ 520d F10 ที่มานั่งเฝ้าร้านรอ G30 ใหม่มาส่ง หรือ 320d Iconic
ที่เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแฟน BMW ที่เคยขับรถญี่ปุ่น D-Segment ให้หาทาง
เพิ่มเงินมาเล่นรถยุโรปขับหลังชั้นดีดีกรีมิวนิค

ส่วนไม้เด็ดสำหรับงาน Motor Expo 2016 ก็มีดังนี้

BMWMINI_330elux

330e Luxury
ก่อนหน้านี้ ทาง BMW ได้นำเข้า 330e ตกแต่งแบบ M Sport มาขายในราคา
3.099 ล้านบาทตั้งแต่เดือนมีนาคม ในงานนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้า
ที่อยากได้พลัง Plug-in 252 แรงม้าแต่ไม่อยากจ่ายเกิน 3 ล้าน จึงได้มีการเปิดตัว
330e Luxury ประกอบในประเทศขึ้นโดยตั้งราคาจำหน่ายไว้ 2.599 ล้านบาท

สิ่งที่ต่างออกไปจากรุ่น M Sport ก็คือชุดแต่งภายนอก กันชนหน้า/หลัง ลายล้อ
ต่างกัน คิ้วขอบกระจกเปลี่ยนจากสีดำเป็นโครเมียม พวงมาลัยแบบธรรมดา
ภายในตกแต่งแบบ Luxury ใช้ลายไม้แทนแถบสีเงิน/แดง และเบาะ Dakota
แบบ Luxury Line พูดง่ายๆ คือเอาภายใน 320d Iconic มา เปลี่ยนชุดจอกลาง
ให้ดูไฮโซขึ้น เอ้า..ไม่เชื่อก็ไปเทียบกันดู BMW เขาเอา Iconic มาจอดข้างๆด้วย

BMWMINI_x3xDrive20dMsport
X3 xDrive20d M Sport เพิ่มออพชั่น ราคาเดิม
สิ่งที่เพิ่มมาจากรุ่นก่อนก็คือหลังคากระจก Panoramic Sunroof แล้วก็ยังมี
ชุดแต่ง M Sport  เช่นเบาะ Nevada, พวงมาลัย M Sport, ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว
และขอบกระจก/ราวหลังคาสีดำเงา แต่ยังขายในราคาเดิมที่ 3,499,000 บาท
ในปัจจุบัน X3 รุ่นใหม่ยังอยู่ในระหว่างการทดสอบวิ่งที่เมืองนอก ดังนั้นเมื่อเข้าสู่
อายุช่วงปลายตลาด ก็ต้องมีการปรับแต่งเพิ่มความคุ้มค่ากันในลักษณะนี้ ถ้าใคร
มองเรื่องความคุ้มค่าเป็นหลัก และชอบในแบรนด์ BMW ก็น่าสน

 

BMWMINI_x5xDrive40eCKD

X5 xDrive40e M Sport ประกอบในประเทศ
รถอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ พลัง Plug-in Hybrid ที่ให้พละกำลังขับเคลื่อน
รวมถึง 313 แรงม้า (เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรเป็นคนละตัวกับของ 330e)
จากเดิมในรุ่นนำเข้า ตั้งราคาไว้ 5,399,000 บาท พอนำมาประกอบในประเทศ
ก็ถูกลง 700,000 บาท เหลือเพียง 4,699,000 บาท (เอง)

อย่างไรก็ตาม มีการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ในรถจากรุ่นนำเข้าไปบ้าง ลูกค้าที่ซื้อ
รถประกอบในประเทศ จะได้จอ Head-Up Display และระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้ามา
แต่ก็จะเสียเครื่องเสียง Harman Kardon ไป ระบบปรับอากาศเปลี่ยนจากแบบ
4-Zone เหลือแค่ Dual-Zone และถอดระบบกล้อง 360 องศาออกเปลี่ยนเป็น
กล้องมองหลังแบบธรรมดาไป

BMWMINI_i8protonic01 BMWMINI_i8protonic02

i8 Protonic Red Edition
i8 เพิ่มสีตัวถังภายนอก สีแดงใหม่ พร้อมกับตกแต่งภายในห้องโดยสาร
โทนสีใหม่ นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนลายล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลาย
ลาย W-Spoke ซึ่งห่อหุ้มยางขนาดเท่ากับรุ่น Pure Impulse (หน้า 215/45R20
หลัง 245/50 R20) เพื่อปรับปรุงบุคลิกการตอบสนองของรถเวลาเข้าโค้ง ซึ่งใน
รุ่นปกติ นักทดสอบต่างประเทศบอกว่ายังเกาะถนนน้อยไปนิด ราคาที่ขายก็ยัง
เท่ากับ 11,899,000 บาท (ไม่เปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิม)

แต่มันก็ยังไม่ใช่ BMW ที่แพงที่สุดในงานนี้…

BMWMINI_M4GTS01 BMWMINI_M4GTS02

M4 GTS ผลิตแค่ 700 คันทั่วโลก
และประเทศไทย ก็ได้โควต้ามาแค่ 2 คัน…ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ราคาจะโดดไปถึง
13,999,000 บาท แพงกว่าซูเปอร์คาร์โลกหน้าอย่าง i8 และแพงกว่า M4 รุ่น
Competition Package อีก 4 ล้านบาท แต่เป็นราคาที่น่าจะมีคนยอมจ่ายเพื่อ
ให้ได้เป็นเจ้าของรถแท้ แค่ 2 คันในประเทศ

M4 GTS ถูกปรับพลังเพิ่มจากรุ่นธรรมดา (431 แรงม้า) ไปสู่ 500 แรงม้า พร้อมทั้ง
แรงบิด 600 นิวตัน-เมตร โดยแรงที่เพิ่มนั้นมาจากระบบ Water Injection (ฉีด
ละอองน้ำเข้าเครื่องยนต์ – พร้อมถังเก็บน้ำ 5 ลิตร) และการปรับจูนในส่วนอื่นเพิ่มเติม
ส่งกำลังผ่านเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะ ภายในมีโรลเคจ เบาะคาร์บอนหลังแข็ง
พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด..นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์..นี่คือรถสำหรับคนบ้ารถ BMW
(ที่มีเงินเหลือพอด้วย)

อยากได้? ไปเจรจากับเจ้าของใหม่เอาเองครับ ทั้ง 2 คันถูกจับจองมีเจ้าของ
ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจ้า

BMW Promotion
โปรโมชั่นในงาน Motor Expo 2016 BMW Thailand ขยายระยะเวลา BSI
(BMW Service Inclusive) เพิ่มให้อีก 1 ปี รวมเป็น 6 ปี หรือ 120,000 km.
และ รับประกันตัวรถ Warranty 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

MINI SEVEN (3 Dr, 5 Dr)

BMWMINI_boothMini
ปิดท้ายด้วย MINI แบรนด์ในเครือ BMW Group เปิดตัว MINI SEVEN
รุ่นพิเศษครั้งแรกของรหัส F55-F56 มีที่มาจากต้นตระกูล MINI Classic
อย่าง Austin SEVEN เมื่อ 50 ปีก่อน

BMWMINI_Seven02

MINI SEVEN เกิดจากการนำเอารุ่น Cooper S 2.0 ลิตร เบนซินเทอร์โบ
192 แรงม้า มาปรับเพิ่มอุปกรณ์เช่น แถบสติกเกอร์คาดฝากระโปรง, หลังคา
สีเงิน, ตัวรถสีน้ำเงิน LapIsLuxury, ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และแปะสัญลักษณ์
SEVEN รอบคัน มีทั้งตัวถัง Hatch 3 ประตู ราคา 2,890,000 บาท และรุ่น
Hatch 5 ประตู ราคา 2,930,000 บาท

..หวังว่าคงไม่มีใครมือบอนเอาปากกาลิควิดไปเติมคำว่า “Eleven” ต่อท้าย
ชื่อเขานะครับ ถ้าทำก็ขอให้ถูกสาปแช่ง

MINI’s Promotion
พร้อมโปรแกรม MSI (MINI Service Inclusive) ฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปี
หรือ 100,000 กิโลเมตร + รับประกัน Warranty 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ฟรี iPhone 7 128 GB เมื่อซื้อ MINI ทุกรุ่นในงาน Motor Expo 2016

 

CHEVROLET

Chevrolet_Captiva Chevrolet_Colorado

ในช่วงระหว่างปีที่ผ่านมานั้น ทาง Chevrolet ได้ทำการเปิดตัวรถปิคอัพ
Colorado ไมเนอร์เชนจ์ และรถ PPV Trailblazer ไปแล้ว ดังนั้นนี่ก็คือรถ
2 รุ่นหลักที่เป็นดาวเด่นประจำบูธของงาน ทั้งนี้สำหรับรถเก๋ง คงไม่มีอะไรให้
โชว์กันมาก เพราะ Sonic ก็เลิกผลิตไปนานแล้ว และ Cruze ก็ทำตลาดมา
นานเต็มที

อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เสียศักดิ์ศรีอเมริกัน ก็เลยส่งรถตกแต่งพิเศษมาร่วม
(เป็นรถโชว์ ไม่ได้มีไว้ขาย) อย่างเช่น Colorado Style Concept ปิคอัพแต่ง
สไตล์ออฟโรด ใส่ยางลุยและสนอร์เกิ้ล ดูแล้วเหมาะยิ่งนักกับ “ประเทศกรุงเทพ”
ที่วันดีคืนร้ายตื่นขึ้นมาถนนหน้าบ้านกลายเป็นคลองเวนิสไปเสียอย่างนั้น
แล้วก็ยังมี Captiva Chromium Edition ที่สร้างบรรยากาศล้ำยุค แต่ถ้ามา
วิ่งจริงบนถนนน่าจะแสบตา และ Trailblazer Perfect Black Concept

 

FORD
Ford_boothA

EcoSport โฉมไมเนอร์เชนจ์ยังมาไม่ทันสำหรับงานนี้ และ Fiesta ก็เพิ่งเปิดตัว
โฉมใหม่ในเมืองนอก ทำให้ยังไม่สามารถจัดส่งรถมาไทยได้ทัน ดังนั้นคนที่มา
บูธ Ford ก็จะพบกับ Ranger, Everest และรถรุ่นเดิมๆใน Line-Up

Ford_boothB

อย่างไรก็ตาม Ford Focus EcoBoost 1.5 ลิตร ที่ถูกปรับราคาใหม่จนเหลือแค่
999,000 บาท ก็น่าจะดึงความสนใจได้พอสมควร แล้วก็ยังแถมประกันภัยชั้น 1
อีกด้วย แต่โปรโมชั่นนี้มีเวลาจำกัด

Promotion อื่นๆ

– Ranger
รุ่น Open Cab XL ดาวน์ 29,000 บาท หรือผ่อนเริ่มต้นเพียง 7,999 บาท ต่อเดือน
พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งเป็นเวลา 1 ปี
รุ่น Open Cab และ Double Cab XLT อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% ดาวน์ 25%
และผ่อน 60 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งเป็นเวลา 1 ปี
รุ่น Wildtrak ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

– Everest
รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.99 % พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่งเป็นเวลา 1 ปี
– EcoSport
ดอกเบี้ย 0% + ประกันภัยชั้นหนึ่งเป็นเวลา 1 ปี พร้อมบัตรเติมน้ำมัน 10,000 บาท
– Fiesta
ดอกเบี้ย 1.99% ถ้าเลือกดาวน์ 25% และผ่อนส่ง 48 งวด ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง

FOTON
รถปิคอัพประกอบในประเทศ

Foton ทำตลาดในประเทศไทยมาได้สักพักแล้ว ด้วยรถตู้ขนาด 16 ที่นั่งอย่าง
View CS2 และรถบรรทุกเล็กที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง Aumark C แต่ในงานนี้
ตัวเด่นของเขา ได้แก่ Tunland ซึ่งเป็นรถปิคอัพขนาด 1 ตัน ประกอบในประเทศไทย
มาเปิดตัวใหม่ๆสดๆงานนี้โดยเฉพาะ
Foton_Tunland01
Tunland มีตัวถัง 2 แบบ คือ Single Cab ตอนเดียว และ Double Cab 4 ประตู
โดยอย่างหลังนั้นจะมีถังแบบตัวถังเตี้ยและตัวถังยกสูง ในรุ่นสูงสุด (Tunland
S 4WD) จะมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้เครื่องยนต์ Cummins ISF แบบเดียวกับ
รถรุ่นอื่นของค่าย แบ่งระดับขุมพลังออกเป็น 2 ระดับ คือในรุ่น Single Cab
และ 4 ประตูตัวเตี้ยจะได้เครื่อง 2.8 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ 116 แรงม้า ส่วนรุ่น
ยกสูงทั้งหมดจะได้เครื่อง 163 แรงม้า มีระบบส่งกำลังเพียงแบบเดียวคือเกียร์
ธรรมดา 5 จังหวะ เพลาท้ายของ DANA ระบบจ่ายเชื้อเพลิงและ ABS ของ Bosch
ส่วนกล่อง ECU คุมเครื่องเป็นของ Continental

Foton_Tunland02 Foton_Tunland03

ภายในออกแบบมาหรูใช่เล่น แนะนำว่าลองไปเปิดดูภายในตัว Single Cab
ล้อกระทะได้ ขนาดเป็นตัวถูกยังอุตส่าห์เอาโครเมียมไปแต้มขอบตรงนั้นตรงนี้
คันเกียร์ช่วงชักยาวหน่อยแต่เข้าได้กระชับ พวงมาลัยปรับสูงต่ำได้ (เข้า/ออก
ไม่ได้) ส่วนรุ่นยกสูงมีเครื่องปรับอากาศ อัตโนมัติ ครูสคอนโทรลและหน้าปัด
สีสเปียร์มินต์มาให้ ในเรื่องความปลอดภัยทุกรุ่นมี ABS เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบ
ดึงกลับอัตโนมัติ และถุงลมคู่หน้า ใน 2 รุ่นที่แพงที่สุด จะมีระบบรักษา
การทรงตัว ESP มาให้ด้วย

Tunland มีราคาเริ่มต้นที่ 514,900 บาทในรุ่น Single Cab และแพงที่สุดคือ
826,200 บาท ( ไม่รู้จะเอาเศษ 200 มาทำไม) ดูราคารุ่นอื่นๆและอุปกรณ์
เพิ่มเติมได้ที่นี่

 

HONDA
City ไมเนอร์เชนจ์ ไว้เจอกันต้นปีหน้านะลูก..
Honda_boothB

ดูเหมือนยังไม่อยากเผยกระบวนท่าใดในช่วงนี้ แต่ปีหน้า ทาง Honda น่าจะเตรียม
ไม้เด็ดไว้เอาคืนให้สมกับความเป็นเจ้าตลาด ส่วนใครที่ไม่ได้กำลังรอรถใหม่อยู่
ในานนี้ก็จะได้พบกับ Honda รุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบันครบทุกรุ่น พร้อมทั้ง Honda
Civic Modulo สำลี Edition ที่บอดี้ทั้งคันและล้อล้วนดำขลับ

Honda_Civic_RS

ดังนั้นดาวเด่นของงาน ก็ยังคงเป็นแชมป์ยอดขาย C-Segment หน้าใหม่
อย่าง Honda Civic…นี่ไม่ใช่รถยนต์..นี่คือ Civic

Promotion ของ Honda
ถึงจะยังไม่มีรถใหม่ แต่ถ้าใครชอบเทศกาล Sale เวลาของคุณมาถึงแล้ว

1. โปรฯ ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ และกลุ่มอาชีพพิเศษ ติดต่อได้ที่บูธ
2. Brio/ Brio Amaze ดาวน์แค่ 5% และมีโปรแกรมลดหย่อนค่างวด 2,500 บาท
นาน 12 เดือน

Honda_booth
3. City/City CNG ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันชั้น 1 และโปรแกรมลดหย่อนค่างวด
เดือนละ 1,000 บาทนาน 12 เดือน หรือเลือกรับบัตรของขวัญมูลค่าเท่ากับเงินจอง
ที่วาง สูงสุดไม่เกิน 12,000 บาท
4. Jazz GK ดอกเบี้ย 1.29% ฟรีประกันชั้น 1 และโปรแกรมลดหย่อนค่างวด
เดือนละ 1,000 บาท นาน 12 เดือน หรือเลือกรับบัตรของขวัญมูลค่าเท่ากับเงินจอง
ที่วาง สูงสุดไม่เกิน 12,000 บาท
5. Mobilio ดอกเบี้ย 1.29% ฟรีประกันชั้น 1 และโปรแกรมลดหย่อนค่างวด
เดือนละ 2,500 บาท นาน 12 เดือน
6. BR-V ดอกเบี้ย 1.79%  และโปรแกรมลดหย่อนค่างวดเดือนละ 2,000 บาท
นาน 12 เดือน
7. HR-V ดอกเบี้ย 1.79%  และโปรแกรมลดหย่อนค่างวดเดือนละ 1,000 บาท
นาน 12 เดือน หรือเลือกรับบัตรของขวัญมูลค่าเท่ากับเงินจอง
ที่วาง สูงสุดไม่เกิน 12,000 บาท
8. CR-V ดอกเบี้ย 0% พร้อมประกันภัยชั้น 1 รุ่น 2.0SE 4WD มีโปรแกรม
ช่วยลดหย่อนค่าผ่อนเดือนละ 1,000 นาน 12 เดือน รุ่นอื่นๆเพิ่มเป็น 3,000 บาท
หรืออีกทางเลือกหนึ่ง รับดอกเบี้ย 1.49% ฟรีประกันภัย แล้ว Honda ลดหย่อน
ค่างวดให้เดินละ 5,000 บาทนาน 12 เดือน
9. Civic ดอกเบี้ย 1.99%
10. Accord ดอกเบี้ย 1.99% พร้อมผ่อนดาวน์ 0% นาน 10 เดือนสำหรับทั้งรุ่น
2.0, 2.4 และ Hybrid

..เขียนให้บูธ Honda นี่เขียนโปรฯเหนื่อยกว่าเขียนข่าวอีก..

 

HYUNDAI
1 รถต้นแบบ 1 รถโชว์ 1 รถรุ่นใหม่

Hyundai_EnduroConcept

Hyundai Enduro ชื่อของมันนั้นแปลงมาจากคำว่า Endurance ซึ่งหมายถึงความ
ทรหดทนทาน แรงบันดาลใจที่ได้รับ มาจากการผสมผสานระหว่างรถครอสโอเวอร์
กับมอเตอร์ไซค์วิบาก ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ Direct Injection ส่งกำลัง
ผ่านเกียร์คลัตช์คู่แบบ 7 จังหวะ

Enduro โชว์ตัวครั้งแรกในงาน Seoul Motorshow ปี 2015 และได้นำมาจัดแสดง
ในงาน Motor Expo ที่ประเทศไทยครั้งนี้โดยนับเป็นการโชว์ครั้งแรกในภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Hyundai_Tucson

Hyundai Tucson (อ่านว่า “ทูซอน” ซึ่งเป็นเมืองหนึ่งในรัฐอริโซน่า สหรัฐอเมริกา)
รุ่นใหม่ล่าสุด มีกระจังหน้าหกเหลี่ยม ออกแบบด้านหน้ารถให้ดูแบนกว้างตาม
เอกลักษณ์ของ Hyundai สมัยใหม่ ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดีเซล เทอร์โบ
ให้กำลังสูงสุดถึง 185 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์
อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยเต็มขั้น เช่นถุงลมนิรภัย 6 ใบ
ABS, ระบบรักษาการทรงตัว, ระบบตรวจจับรถในจุดบอดกระจกส่องข้าง, ระบบตรวจ
รถที่วิ่งตัดท้ายจากข้างหลัง (Rear Cross-traffic monitor)

Tucson รุ่นนี้ยังไม่ขายในไทย แต่มีแนวโน้มว่าจะถูกนำเข้ามาขายในปีหน้า

Hyundai_ElitePlus

สำหรับรถที่มีขาย และซื้อได้จริง ก็เห็นจะเป็น MPV คันโตอย่าง H-1 ซึ่งออกรุ่น
Elite Plus Limited Edition ออกมาคั่นกลางระหว่างรุ่น Elite ธรรมดา (1,499,000 บาท)
และรุ่น Deluxe (1,679,000 บาท) โดยวางราคาเอาไว้ที่ 1,529,000 บาท

สิ่งที่ได้เพิ่มมาจากรุ่น Elite ธรรมดา ก็คือชุดเครื่องเสียงจอทัชสกรีน ของ Pioneer
รุ่น AVH-X8850BT รองรับ BlueTooth มีระบบรองรับ AppleCarPlay และ
Android Auto และยังสามารถเชื่อมต่อการสมาร์ทโฟนเพื่อเปิดใช้ฟังก์ชั่นระบบ
นำทางได้ (เครื่องเสียงในรุ่น Elite ปกติจะเป็นแบบ CD1 แผ่นธรรมดา) นอกจากนี้
ยังเพิ่มจอพับได้บนเพดาน ขนาด 10.1 นิ้ว (เล็กว่ารุ่น 13.3 นิ้วของรุ่น Deluxe)
และกล้องมองหลัง

รถรุ่น Elite Plus นี้จะมีขายเป็นจำนวนจำกัด

 

Promotion ของ Hyundai
H-1 และ Grand Starex ฟรี ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี และรับข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติม
สำหรับ H-1 Elite และ Elite Plus

Elantra ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, ดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน, ฟรี ประกัน
คุณภาพรถยนต์นาน 7 ปี หรือ 180,000 กม., ฟรีค่าบำรุงรักษาทั้งค่าแรงและ
ค่าอะไหล่นาน 5 ปี หรือ 100,000 กม. และฟรี คูปองน้ำมันมูลค่า  30,000 บาท

เงื่อนไขพิเศษนี้มีผลตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2559

 

ISUZU
D-Max ขับสี่รุ่นพิเศษ
Isuzu_Dmaxmaxxy

ไม่มีรถใหม่..เครื่องใหม่..หรือไมเนอร์เชนจ์ แต่มีรุ่นตกแต่งพิเศษสำหรับ D-Max
เฉพาะรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ได้แก่รุ่น V-Cross 3.0 Ddi Z-Prestige MAX 4×4
รุ่นเกียร์ธรรมดาราคา 1,042,000 บาท ส่วนรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,087,000 บาท
โดยสิ่งที่ได้เพิ่มมาจากรุ่น 3.0 Z-Prestige ธรรมดาในราคาที่ต่างกัน 29,000 บาทได้แก่

– ล้ออัลลอย Two-tone ลายใหม่ ขนาด 18 นิ้วเท่าเดิม ยาง 255/60R18 เหมือนเดิม
– ไฟท้ายรมดำ
– กระจังหน้าสีเทาดำ
– กระจกมองข้างสีเทาดำ
– ชุดแต่ง (การ์ดกันชนหน้า, คิ้วฝากระโปรงหน้าด้านบน, คิ้วซุ้มล้อ, ชุดเสริมขอบกระบะ,
พื้นปูกระบะ, เสา B-Pillar ดำ)
– พวงมาลัยเดินด้ายส้ม
– เบาะสีน้ำตาลดำ

Isuzu_promotion

ส่วนโปรโมชั่นต่างๆของ Isuzu ดูจากภาพด้านบนได้เลยครับ

 

JAGUAR/LAND ROVER
ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง กับ SUV ใหม่

Jaguar_booth

อำนาจในการเป็นผู้แทนจำหน่าย Jaguar/Land Rover ในประเทศไทยเพิ่งจะ
ถูกเปลี่ยนถ่ายมาสู่บริษัท Inchcape PLC ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจากอังกฤษ
ก่อตั้งขึ้นมากว่า 170 ปี ทำธุรกิจด้านรถยนต์มากว่า 90 ปี มีสาขาใน 27 ประเทศ
ทั่วโลก รวมถึงกิจการของ JLR ในภูมิภาคเอเชียเหนือ จี ฮ่องกง มาเก๊า มีโชว์รูม
และศูนย์บริการอยู่ที่ถนนพระราม 4

Jaguar_Fpace

ในงานนี้ ก็เป็นการเผยโฉมครั้งแรกในไทยสำหรับ “SUV รุ่นแรกของ Jaguar”
ซึ่งมีชื่อรุ่น F-Pace ออกแบบโดย Ian Callum ผู้ซึ่งลาก Jaguar ออกจากธีม
การออกแบบสไตล์ Retro ในสมัย S-Type, X-Type และ XJ ุรุ่นเก่า แล้วนำ
ดีไซน์ยุคใหม่มาใช้ เป็นคนที่รับผิดชอบการออกแบบ XK ุรุ่น 2006, XF, XJ
และรถทุกรุ่นของค่ายนี้หลังจากปี 2006 เป็นต้นมา

F-Pace เป็น SUV ที่ใช้ตัวถังทำจากวัสดุผสมผสานหลายแบบ 80% ของ
โครงสร้างเป็นอะลูมิเนียม แพลทฟอร์ม D7A ซึ่งแชร์กันใช้กับ XE, XF และ
Land Rover ในอนาคต ช่วงล่างด้านหน้าเป็นดับเบิลวิชโบนที่ประยุกต์มาจาก
ของ F-Type ด้านหลังเป็นแบบอินทิกรัลลิงค์ ในต่างประเทศ F-Type จะมี
เครื่องยนต์ให้เลือกหลายแบบ ทั้งดีเซล 2.0 ลิตร 180 แรงม้า ดีเซล 3.0 V6
300 แรงม้า เบนซิน 3.0 ลิตรซูเปอร์ชาร์จ 340 แรงม้า ไปจนถึงตัวท้อป 380 แรงม้า

สำหรับตลาดประเทศไทย แน่นอนว่า Jaguar เลือกเครื่อง 2.0 ลิตรดีเซล 180
แรงม้า บล็อค Ingenium ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตระกูลใหม่ที่ Jaguar ทุ่มทุนสร้าง
ไปหลายล้านปอนด์ จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF มีให้เลือก 3 รุ่น
2.0 Diesel F-PACE PURE  รุ่นพื้นฐาน 4,699,000 บาท
2.0 Diesel F-PACE R-Sport  ตกแต่งแบบสปอร์ตวัยรุ่น 5,499,000 บาท
2.0 Diesel F-PACE Portfolio  เน้นความหรูฟู่ฟ่าแบบผู้ใหญ่ 5,999,000 บาท

รายละเอียดและอุปกรณ์รุ่นต่างๆ สามารถคลิกดูได้ที่นี่

 

Promotion จาก Inchcape (ประเทศไทย)
– แคมเปญ Worry Free ซ่อม/ประกัน/ช่วยเหลือฉุกเฉิน ฟรีนาน 5 ปี
– กุญแจแบบ Activity Key ซึ่งเป็น Smart Key ในรูปนาฬิกาข้อมือกันน้ำ
(สำหรับลูกค้าที่ซื้อ F-Pace)
– ลูกค้าเก่าที่ใช้รถ Jaguar/Land Rover เอาคันเก่ามาเทิร์น เพิ่มมูลค่าคันเก่าให้
200,000 บาทจากราคาประเมิน

 

MAZDA
Mazda 3 ไมเนอร์เชนจ์..ยังไม่มา

Mazda_booth01

น่าเสียดาย ใครที่วาดฝันไว้ว่าจะจอง Mazda 3 ไมเนอร์เชนจ์ในงานนี้ น่าจะชวด
เพราะในนาทีสุดท้ายก็มีมติว่าให้เลื่อนไปเปิดตัวในต้นปีหน้าแทน ดังนั้นถ้าคุณ
ไปเดินบูธ Mazda ในงานนี้ ก็จะยังพบรถรุ่นเดิมไปก่อน เคียงข้างด้วย Mazda CX-5
ไมเนอร์เชนจ์, CX-3 และรถเล็กจอมประหยัดอย่าง Mazda 2 1.3 เบนซิน และ
1.5 ดีเซล

Mazda_booth02

 Promotion ของ Mazda
1. “Mazda All For You”
– จองรถในงาน (วางเงินจอง 10,000 บาท) รับนาฬิกาข้อมือฟรี และได้สิทธิ์ลุ้นชิงโชค
Mazda 2 1.5 ดีเซล แฮทช์แบ็คตัวท้อป
2. โปรฯส่งเสริมการโละสต็อค ของ Mazda 3 โฉมปัจจุบัน มาแล้วครับ
ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันชั้น 1 ส่วนเรื่องส่วนลดพิเศษ ลองคุยกับเซลส์ดูครับ
ฟังราคาหลังส่วนลดแล้วคนเตรียมซื้อรถพันห้ามีเฮ
3. Mazda 2 ได้อัตราดอกเบี้ย 0.99% และแถมบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท
4. Mazda CX-5 ดอกเบี้ย 1.99% ฟรีประกันภัยชั้น 1
5. Mazda BT-50 Pro ดาวน์ต่ำเริ่มต้น 35,000 บาท แถมบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 3,000 บาท

 

MERCEDES-BENZ
ปล่อยหมัดขนาดนี้ พี่ไปโกรธใครมาครับ!??

Mercedes_booth

ถ้าใครถ่ายรูปบูธเบนซ์ตอนคนน้อยๆภาพสวยๆได้ แสดงว่ามาถึงงานเร็วมาก ไม่ก็
รอจนคนกลับหมด เพราะผลจากการที่เบนซ์รัวหมัดปล่อยรถใหม่และอัปเดตต่างๆ
7 รุ่น (C350e MY2017 ยังไม่มางานนี้) ทำให้ผู้คนแทบจะเท่าจำนวนประชากร
อินเดียพากันมารุมอยู่ที่ค่ายดาว 3 แฉกนี้แห่งเดียว

หลายรุ่น ได้รับการเพิ่มออพชั่นใหม่ เพื่อให้ทันกันกับรุ่นอื่นๆที่มีขายอยู่
บางรุ่น ย้ายมาประกอบในประเทศ แล้วก็เข้าหลักสูตรวิชาฝ่ามือเคลื่อนเมฆากาออพชั่น
เลือกและจัดใหม่ให้เหมาะกับนิสัยลูกค้าไทย ก็เลยทำราคาได้น่าชื่นชม

Mercedes_GLA

GLA-Class ปรับอุปกรณ์รับปี 2017
เป็นรถโฉมเดิมแต่เพิ่มอุปกรณ์ภายในให้ทันสมัยเทียบเท่ารุ่นอื่นๆในค่าย
ตัวอย่างเช่นจอกลาง เพิ่มขนาดจาก 7 เป็น 8 นิ้ว ปรับระบบให้รองรับการใช้งาน
Apply CarPlay, ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ, เพิ่ม Ambient Light ไฟส่อง
แสงสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารที่ปรับได้ 12 สี และที่สำคัญคือระบบ
เบรกอัตโนมัติเมื่อมีสิ่งกีดขวางข้างหน้า Active Brake Assist

GLA-class ยังคงมีให้เลือก 2 รุ่นคือ GLA200 Urban ราคา 2,090,000 บาท
(เท่าเดิม) และรุ่น GLA250 AMG Dynamic ราคา 2,390,000 บาท
(ถูกลง 50,000 บาท)

Mercedes_CLA_Ccabrio

CLA ไมเนอร์เชนจ์ มาแล้ว!
หลังจากที่เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ขายในตลาดโลกมาตั้งแต่เดือนมีนาคม
ในที่สุด Mercedes-Benz ประเทศไทยก็นำมาขายเสียที มาคราวนี้ยังมีจำนวนรุ่น
ให้เลือกตามเดิม ได้แก่ CLA200Urban, CLA250 AMG Dynamic และ
CLA250 ShootingBrake AMG Dynamic

โดยออพชั่นต่างๆที่เพิ่มเข้ามา ก็จะมีลักษณะคล้ายกันกับ GLA เช่นจอกลาง
ขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay, ไฟ Ambient Light 12 สี และแน่นอนว่า
มีระบบ Active Brake Assist สำหรับราคานั้นตรึงไว้เท่าเดิม เรียกได้ว่าเอา
ออพชั่นกับ 211 ม้ามาข่มรถพิกัดโตกว่าอย่าง 3-Series ได้ชะงัดทีเดียว

CLA200 Urban = 2,140,000 บาท
CLA250 AMG Dynamic = 2,490,000 บาท
CLA250 ยิงเบรก (Shooting Brake AMG Dynamic) = -3,140,000 บาท

C300 Cabriolet AMG Dynamic
หลังจากที่มีตัว Coup แรงๆไปแล้ว นักเลงรถสายลมโกรกอาจจะอยากเลือก
รุ่น Cabriolet เปิดประทุนหลังคาผ้าใบ เหมาะกับประเทศไทยมากถ้าคุณอยาก
ขับตากฝน C300 Cabriolet ที่นำเข้ามานั้น จะเป็นรุ่น AMG Dynamic
ใช้เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบเหมือน C250 แต่ปรับเพิ่มกำลังจาก 211 เป็น
245 แรงม้า (เท่ากับ SLC300) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic วางราคา
เอาไว้ 4,240,000 บาท

หลังคาผ้าใบของ C300 Cabriolet ได้รับการปรับปรุง จากรุ่นที่แล้ว ถ้าอยากจะ
กางหรือเก็บหลังคา คุณต้องวิ่งไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่รุ่นใหม่นี้
เพิ่มให้เป็น 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าเผลอกางหลังคาตอนไฟเขียวพอดี
อย่างน้อยก็ออกตัววิ่งเหยาะๆไปได้ก่อนจะโดนพี่คันหลังบีบแตรด่าละกัน

 

Mercedes_E220estate

E220d Estate
ระหว่างที่รอรุ่นซาลูนมาประกอบในประเทศ Mercedes-Benz ก็จัดการนำรุ่น
Estate เข้ามาขายก่อน โดยมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียวคือ E220d AMG Dynamic
เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ 194 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9G-Tronic
ตั้งราคาเอาไว้ 4,740,000 บาท (ซึ่งถูกกว่า E220d AMG Dynamic อยู่ตั้ง
50,000 บาท ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรทำให้มันถูกกว่า)

Mercedes_C250c

C250AMG Coupe ประกอบในประเทศแล้ว!
ถือว่าพลิกโผอย่างมาก เพราะในช่วงกลางปี ยังพูดกับคนใน Mercedes-Benz
อยู่เลยว่าจะนำมาประกอบในจริงหรือ และทราบว่ามา แต่น่าจะมีอะไรสะกิดต่อม
ดาว 3 แฉกให้โหมกระหน่ำทุกท่าไม้ตายในปีนี้แทนที่จะรอถึงปีหน้า

C250 Coupe รุ่นนี้ จะนับว่าเป็นรถคูเป้รุ่นแรกของ Mercedes-Benz ที่ประกอบ
ในโรงงานประเทศไทย นับตั้งแต่สมัย 300CE ตัวถัง S124 เลิกประกอบไป 23 ปีก่อน
(แม้ว่า C250 จะมาในลักษณะ SKD – เอาชิ้นส่วนจากเมืองนอกมาขึ้นรูปเป็นรถในไทย)
มีให้เลือก 2 รุ่นคือ C250 Coupe Sport และรุ่น C250 Coupe AMG Dynamic
และมีการเพิ่มอุปกรณ์  Active Brake Assist, ล้อ 19 นิ้ว (รุ่น Sport เป็นลาย 10 ก้าน
รุ่น AMG Dynamic เป็นลาย Multi-spoke), จอ Head-Up Display และเครื่องเสียง
Burmester Sound System

แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ แขนยื่นเข็มขัดแบบอัตโนมัติ ซึ่งในรุ่นนำเข้าจะมีให้ แต่พอ
ย้ายมาประกอบในประเทศจะถูกตัดออก นอกจากนี้รุ่น Sport (ตัวรอง) จะถูกเอา
ช่วงล่างสปอร์ตออก แทนที่ด้วยชุดโช้คอัพกับสปริงแบบธรรมดา สำหรับคุณป้าขับ
ไปนา คุณตาขับไปนวด

C250 Coupe Sport ตั้งราคาเอาไว้ 3,240,000 บาท
C250 Coupe AMG Dynamic ราคา 3,590,000 บาท
พูดง่ายๆคือถูกลง 200,000 บาทเมื่อเทียบกับรถนำเข้านั่นเอง

Mercedes_C43c2 Mercedes_C43c3

C43 AMG Coupe
นอกจากจะเอาตัว C250 มาประกอบในทำราคาชนิดชก Lexus จุกแล้ว ถ้าคุณยังมี
เงินเหลือพอจะซื้อ RC200t ได้ Mercedes-AMG ก็ยังเสนอ C43 Coupe สายพันธุ์
แรง เป็นรถนำเข้า เครื่อง 3.0 ลิตร V6 ทวินเทอร์โบ 367 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
4MATIC ออพชั่นครบทั้งหลังคา Panoramic, ช่วงล่าง AMG Ride-Control,
กล้องรอบคัน 360 องศา และเครื่องเสียง Burmester Sound System

วัสดุตกแต่งภายในบริเวรคอนโซลกลางของ C43 AMG Coupe จะเป็นลายที่เรียกว่า
AMG Carbon ซึ่งโดยปกติแค่สั่งออพชั่นตัวนี้ก็ 200,000 บาทแล้ว ช่วงล่างของ
C43 จะเป็นช่วงล่าง AMG แบบสปอร์ตที่พัฒนาจากช่วงล่างแบบเดิมของ SLC43
ไปอีกขั้นหนึ่ง ระบบเบรกก็เป็นของ AMG แต่จะเป็นชุดที่มีขนาดเล็กกว่าของ C63S

นับว่าเป็น “จรวดสุภาพชนถนนไทย” ที่น่าสน โดยเฉพาะเมื่อดาวสามแฉกแหวกราคา
มา 5,190,000 บาท (ถูกกว่า Lexus RC200t และแพงกว่า 420d แค่ราวล้านเศษ)
แม่บ้านครับ..ถ้าพ่อบ้านคุณกำลังจะไปซื้อ C63S คันละ 9.99 ล้าน ลองคุยดูครับ
เพื่อจะหาทางออกร่วมกันได้ พ่อบ้านเอา C43 ไป ส่วนแม่บ้านก็จัด GLE500e
Exclusive สักคัน ใช้เงินเท่าเดิม แต่กระจายม้ากระจายรักให้สัมพันธ์ครอบครัวยั่งยืน

Mercedes_GLE43

GLE43 Coupe
บางที C43 AMG Coupe อาจจะเตี้ยเกินกว่าจะลุยน้ำจากบ้านคุณไปถึงปากซอย
แต่ครั้นจะให้ใช้ SUV อย่าง GLE รุ่นปกติ ก็เกรงว่าจะขาดความเฟี้ยวฟ้าวไป
Mercedes-AMG เตรียมคำตอบไว้ให้ลูกค้ากลุ่มนี้แล้ว ด้วย GLE43 AMG Coupe
ซึ่งเครื่องยนต์ที่ใช้ก็เป็นแบบเดียวกับ C43 Coupe และ GLE450 AMG รุ่นที่เปิดตัว
ในบ้านเราปี 2015 นั่นเอง (3.0 ลิตร V6 ทวินเทอร์โบ 367 แรงม้า) ภายนอกมีล้อ
AMG ลายก้านคู่ขอบ 22 นิ้ว ชุดแต่ง AMG ภายในมีหลังคา Panoramic และ
ระบบเครื่องเสียง Harman Kardon Logic7 ช่วงล่างเป็นแบบ AIRMATIC
พร้อมระบบปรับความหนืดแบบ Adaptive Damping System-ADS Plus

บางคนจะงงว่าเอ้า…GLE450 AMG ตอนนั้นก็ใช้เครื่องเดียวกัน แล้วไอ้ GLE43 นี่
คืออะไร? ถามเจ้าหน้าที่ทางเบนซ์มาให้แล้วครับ มันก็คือรถเกือบจะคันเดียวกัน
ตั้งราคาขาย 7,990,000 บาทเท่ากัน เพียงแต่เป็นการ “Rebrand” ชื่อให้กับรถ
เสียใหม่ จากเดิมเป็น Mercedes-Benz GLE450AMG ก็เปลี่ยนเป็น Mercedes-AMG
GLE43 แค่นั้นเองครับ

 Promotion ดาวสามแฉก
– E-Class ทุกรุ่น, C350e Exclusive, C350e AMG Dynamic ทั้งซาลูนและเอสเตท
จัดไฟแนนซ์ ดาวน์ขั้นต่ำ 15% รับดอกเบี้ย 0.99% ฟรีประกันภัยชั้น 1
– ถ้าใครมีเงินไม่พอซื้อเบนซ์คันจริง แนะนำว่าเดินไปข้างหลังบูธ มีทั้งจักรยานเบนซ์
รุ่น Fitness ราคาห้าหมื่นบาทมีทอน และรถโมเดลสำหรับคนชอบสะสม ปีนี้ 1:18 มาเยอะ

 

MG
เอะอะก็พันห้า…

MG_booth
จั่วหัวข้อเอาไว้แบบนั้น เพราะสังเกตดูว่าดาวเด่นที่ฟันยอดขายให้กับทางค่าย
มันก็มักจะเป็นรถ 1.5 ลิตรกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น MG3 หรือ MG5 ดังนั้นอาจจะเป็น
เลขสูตรมงคลที่ทำให้ MG เห็นโอกาสในการทำตลาด หลังจากที่เปิดตัว GS
รุ่น 2.0 เทอร์โบราคาล้านต้นๆไปในปีที่แล้ว ในปีนี้ รถ “Follow no others” ก็มี
รุ่นใหม่ที่ออกมา Follow พี่ชายมัน (ก็ไม่ตามใคร แต่ตามสมาชิกโคตรเดียวกัน
ถือว่าไม่ฟาวล์) ซึ่งนั่นก็คือ MG GS 1.5 Turbo

MG_MGGS_15X

MG GS 1.5 Turbo ใช้เครื่องยนต์ 15E4E 1.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว Direct Injection
เป็นเครื่อง TGI เจนเนอเรชั่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นหลังจากตัว 2.0 ให้พลัง 167 แรงม้าที่
5,600 รอบต่อนาที แรงบิด 250 นิวตัน-เมตรที่ 1,700-4,400 รอบต่อนาที ดูแล้วเรี่ยว
แรงจากเครื่องยนต์มากกว่ารถคู่แข่งที่ไม่มีเทอร์โบพอสมควร แถมเจ้า 1.5 นี้ยังแอบ
ปีนเกลียวพี่มัน ด้วยการจกเอาเกียร์คลัตช์คู่ 7 จังหวะมาใช้ (รุ่น 2.0 มี 6 จังหวะ) มีให้
เลือกแค่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า น้ำหนักตัวถัง 1,460 กิโลกรัม (เบากว่ารุ่น 2.0 ขับหน้า
82 กิโล และเบากว่า 2.0AWD 182 กิโล!)

ราคาเริ่มต้นของ GS 1.5 อยู่ที่ 890,000 บาทเท่านั้น! ในรุ่น 1.5D ซึ่งมีระบบความ
ปลอดภัยต่างๆ “เท่ารุ่น 2.0 ตัวท้อป” ยกเว้นระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง และถุงลม
ด้านข้างที่ถูกตัดออก แต่ของเล่นเอาหรูอย่างอื่นจะถูกตัดหายไปพอสมควรตามราคา
ไฟหน้าเป็นแบบฮาโลเจน เบาะเป็นหนังเทียมทั้งคัน Cruise Control ถูกตัดออก
กุญแจ Smart Key ถูกตัดออก และรุ่น 1.5 จะใช้ล้ออัลลอย 17 นิ้ว (2.0 เป็น 18 นิ้ว)

แต่ถ้ากลัวออพชั่นโล้นเกินไปเสียศักดิ์ศรีผู้ดีมีของเล่น..ไม่ต้องกลัวครับ เพิ่มเงิน
เป็น 990,000 บาท แล้วจะได้ Paddle shift, ไฟหน้าอัตโนมัติ, ไฟตัดหมอก,
ไฟท้าย LED, ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, ซันรูฟกับราวหลังคา (ซึ่งไม่มีในรุ่น 2.0 ขับหน้า),
Cruise control, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ, Smart Key/ ปุ่มสตาร์ท,
ถุงลมด้านข้าง, ระบบนำทาง+InkaNet จอ 8 นิ้วและเครื่องเสียง 8 ลำโพงกลับมา

รุ่นไหนคุ้ม..แล้วแต่จะเลือกเลยครับ

MG_MG3_15V

นอกจากจะมี GS ตัวพันห้าแล้ว รถพันห้าขายดีอย่าง MG3 ก็มีรุ่นพิเศษกับเขาด้วย
นี่คือ MG3 1.5V ซึ่งก็คือการนำเอารุ่นท้อป 1.5X มา เปลี่ยนล้ออัลลอยเป็นลายเก๋ไก๋
ขนาด 16 นิ้ว ใช้ยาง 195/55R16 (เท่ากับรุ่น Xcross) จากนั้นก็เพิ่มสเกิร์ตข้างแบบ
Two-tone และสปอยเลอร์หลังเข้าไปเป็นอันเสร็จ ออพชั่นอื่นๆ เหมือนเดิม และขาย
ในราคา 579,000 บาท (บวกเพิ่มจากรุ่น X 20,000 บาท – แนะนำว่าคุ้ม เพราะลำพัง
ไปหาล้อกับยางไซส์นี้ใส่เองก็เกิน 20,000 บาทไปมากแล้ว แถมลายล้อยังสวย
จนเสียดายแทน MG5 ทำไมไม่ได้ล้อลายนี้บ้าง)

 

MITSUBISHI
รถต้นแบบที่ใกล้ความจริง

Mitsubishi_PajeroSportPremium

เริ่มกันที่เรือธงของค่าย (ในไทย) ก่อน เจ้า Pajero Sport นี้ มีการปรับออพชั่นและ
ปรับราคาของรุ่นท้อป 2.4GT Premium โดยเพิ่มจากเดิมอีก 55,000 บาท ไปเป็น
1,529,000 บาท แต่ถ้าเพิ่มราคาไม่เพิ่มอย่างอื่นก็คงเสียชื่อมิตซู ดังนั้นจึงขอจัด
อุปกรณ์เพิ่มมาให้คุ้มส่วนต่าง ยังไงเสีย..ขึ้นชื่อว่าค่ายนี้ เขาไม่ยอมน้อยหน้าใครเรื่อง
Value=Equipment/Price อยู่แล้ว

1. ระบบล็อกความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control System -ACC)
สามารถล็อกความเร็วได้ตั้งแต่ 40 km/h ขึ้นไป โดยระบบจะทำการลดความเร็วอัตโนมัติ
เมื่อรถยนต์คันหน้ามีความเร็วต่ำกว่า และ ยังสามารถชะลอความเร็วจนถึงรถยนต์คันหน้าหยุดนิ่ง

2. ระบบล็อคเฟืองท้าย Rear Differential Lock
3. ระบบฉีดน้ำล้างไฟหน้า Headlamps Washer
4. ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้า Front Guard (เดิมเป็นของแถม)
5. สปอยเลอร์หลัง Rear Spoiler (เดิมเป็นของแถม)
6. เพิ่มหมอนรองศีรษะ ตรงกลางเบาะแถว 2
7. ที่วางแขนตรงกลางเบาะแถว 2 ดีไซน์ที่วางแก้วน้ำใหม่
8. จอ MID บนมาตรวัดรองรับการแสดงผลเป็นภาษาไทย
9. ม่านถุงลมนิรภัยเพิ่มความยาวให้รองรับถึงผู้โดยสารแถวที่ 3
10. เพิ่มปุ่มเซ็นทรัลล็อค บริเวณแผงควบคุมฝั่งคนขับ
11. เพิ่มช่องชาร์จไฟ 12V 1 ตำแหน่ง
12. การแสดงผลกล้องมองภาพรอบคัน สามารถเปลี่ยนสีรถในจอได้
13. สวิตซ์ควบคุมกระจกหน้าต่าง ฝั่งคนขับเรืองแสงทั้ง 4 ตำแหน่ง (เดิมตำแหน่งเดียว)
14. จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX (ปรับปรุงตำแหน่งยึดใหม่)
15. สัญญาณเตือนระดับน้ำฉีดล้างกระจกบังลมหน้าต่ำ

นับได้ว่าคุ้มค่าจริงๆ แต่มีคนที่ซื้อรถล็อตก่อนหน้านี้ฝากบอกมายังมิตซูไทยทีว่า
ออพชั่น “พวงมาลัยนวดได้” ที่ตอนแรกไม่มี ขับๆไปแล้วมีขึ้นมาเองได้นั้น ช่วย
เอาออกให้ทีเพราะลูกค้าไม่อยากได้

ชมภาพส่วนที่เปลี่ยนแปลงในรุ่น GT-Premium MY2017 แบบละเอียดได้ที่นี่

Mitsubishi_TritonLimited

Triton รุ่นพิเศษ Limited Edition ผลิตออกมาแค่ 300 คัน แบ่งเป็นรุ่น
เกียร์อัตโนมัติ 180 คัน และรุ่นเกียร์ธรรมดา 120 คัน มีบอดี้เพียงแบบเดียวคือ
4 ประตูยกสูง พื้นฐานของรถเดิมเป็นรุ่น Double Cab Plus แต่ได้นำมาเพิ่ม
อุปกรณ์ดังต่อไปนี้ Double Cab Plus 300 คัน แบ่งเป็น AT60% MT40%

– ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ สีทูโทน
– เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– จอภาพบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 10.1 นิ้ว

ราคา รุ่นเกียร์ธรรมดา อยู่ที่ 861,000 บาท และรุ่นเกียร์อัตโนมัติ อยู่ที่ 906,000 บาท
เพิ่มจากรุ่นปกติ 40,000 บาท มีให้เลือกเพียงสีเดียวคือสีขาวมุก

เท่าที่ฟังเสียงจากประชากรในบอร์ด ดูเหมือนอยากให้ Mitsu หากระจังหน้าพิเศษ
ให้กับ Triton มากกว่า..

Mitsubishi_XMconcept02 Mitsubishi_XMconcept03

รถต้นแบบ XM Concept
พอขึ้นชื่อว่าเป็น Concept Car หลายคนก็จะ Scroll ผ่านด้วยเพราะคิดว่ารถพวกนี้
มันไม่มีทางเอามาให้เราซื้อได้จริงๆ แล้วทางเว็บ Headlight จะเอามาให้ดูทำไม (วะ)
ก็ถูกครับ รถคันที่คุณเห็นอยู่นี้ เป็นเวอร์ชั่นต้นแบบ ซึ่งหลายอย่างไม่สามารถนำมาใช้
ในรถผลิตขายจริงได้ แต่เส้นสายของมันนั้นได้ถูกนำไปพัฒนาต่อยอด ให้กลายเป็น
รถ Crossover/MPV ขนาดเล็ก ซึ่งมีกำหนดเตรียมขายในภูมิภาคอาเซียนภายในปี
2017-2018 นี้

Mitsubishi_XMconcept04 Mitsubishi_XMconcept05 Mitsubishi_XMconcept06

XM Concept เป็นรถโชว์..แต่รถคันจริงนั้น ได้ข่าวหลุดมาจากทางอินโดนีเซียว่า
จะใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร นั่นก็ทำให้มันกลายเป็นคู่ต่อกรกับรถอย่าง Honda
BR-V และ Ford EcoSport ได้ ตลาดในเซ็กเมนต์นี้เป็นที่นิยมมาช้านานแล้วใน
อินโดนีเซีย และกำลังเริ่มบูมในประเทศไทย ดังนั้นกุญแจสำคัญที่จะทำให้
Mitsubishi ในประเทศไทยมีอนาคตกับรถเก๋งต่อหลังจากที่ Lancer EX ได้
เสียชีวิตลงไป แม้แต่ผู้เขียนเองก็ลุ้นไปด้วย และอยากเชียร์ให้ทำผลิตภัณฑ์ให้
ออกมาโดนใจลูกค้า เพราะดีไซน์ของรถเท่าที่เห็นมา สามารถดันให้เป็นที่นิยมได้

ถ้าใครสนใจจะดูภาพเพิ่มเติมของ XM Concept คลิกได้ที่นี่เลยครับ

Promotion ของ Mitsubishi
Pajero Sport – ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน “สามปี” ฟรีสปอยเลอร์หลัง ส่วนรุ่น 2.4GT
ขับหลัง สามารถเลือกรับสิทธิดอกเบี้ยพิเศษ 0.99% สำหรับการวางเงินดาวน์ 25%
และผ่อน 48 เดือน

Triton – Mitsubishi Motors มีข้อเสนอสูงสุด 52,000 บาท ฟรีประกันชั้น 1
นานหนึ่งปี ส่วนรุ่น Limited Edition จะลดจาก 52,000 เหลือ 40,000 บาท

Attrage – รับข้อเสนอสูงสุด 40,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1
Mirage – รับข้อเสนอสูงสุดมูลค่า 30,000 บาท

ถ้าใครไม่เข้าใจว่าข้อเสนอสูงสุด คือส่วนลด หรือคืออะไร รบกวนสอบถามทางผู้ขาย
เพื่อข้อมูลที่ถูกต้อง

NISSAN
ปิคอัพรถโชว์, Sylphy เติม E85 และ X-Trail ตกแต่งพิเศษ
Nissan_boothA

ก่อนอื่นขอยืนไว้อาลัยกับการจากไปของ Nissan Sylphy 1.8 เพราะหลังจาก
รถล็อตนี้หมดสต็อคไป ก็จะเลิกผลิตแล้ว (ในเว็บถอดรุ่นนี้ออกด้วย) และอีกรุ่น
ที่ตาม 1.8 ไปติดๆก็คือรุ่น 1.6 เกียร์ธรรมดา ส่งผลให้ใครก็ตามที่ต้องการเล่นรถ
C-Segment เกียร์ธรรมดา คุณเหลือทางเลือกแค่ T ตัวใหญ่แค่ตัวเดียวเท่านั้น

แต่ Nissan Sylphy รุ่นที่เหลืออยู่ ก็ยังมีรุ่น 1.6 DIG Turbo ที่ยังขายต่อ ส่วนรุ่น
1.6 ลิตรธรรมดานั้น ก็มีการปรับเครื่องยนต์ให้สามารถเติมน้ำมัน E85 ได้ (ได้ส่วนลด
สรรพสามิตอีก 5%) และมีการปรับราคาถูกลงกว่าเดิมอีก 7,000 บาท 1.6 E
817,000 บาท รุ่น 1.6 V 851,000 บาท รุ่น 1.6 SV 870,000 บาท พร้อมกันนี้
ยังได้ปรับปรุงตัวให้ทันตลาดด้วยการเพิ่มระบบควบคุมการทรงตัว และกันไถล
(VDC/TRC) มาให้ในรุ่น 1.6 ครบทุกรุ่น

ส่วนรุ่น 1.6 DIG-Turbo MCVT  ยังคงราคาไว้เท่าเดิม 999,000 บาท

Nissan_Xtremer

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nissan X-Trail X-TREMER ซึ่งก็คือ X-Trail
รุ่นธรรมดา กับไฮบริด ที่นำมาใส่อุปกรณ์เสริมเข้าไป 5 รายการ ได้แก่
การ์ดตกแต่งกระจังหน้าสีดำ, ชุดแผงกันชนหน้า, การ์ดกันกระแทกด้านหน้า,
การ์ดกันกระแทกด้านหลัง และด้านข้าง โดยลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มอีกประมาณ
30,000 บาท เพื่อแลกกับชุดแต่งดังกล่าว

Nissan_NavaraBlackEd Nissan_NavaraEnguard

ส่วนรถที่นำมาโชว์ ได้แก่

Nissan Navara Black Edition ก็คือ Navara ธรรมดาที่ตกแต่งตัวถังด้วยสีสัน
ตามแนวคิด Masculine Look แต่ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่านั้น สู้เจ้าคันสีขาวไม่ได้

Navara EnGuard Concept (อ่านว่า “อองการ์ด”) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแนวคิดที่
Nissan มีต่อยานยนต์กู้ภัยอัจฉริยะ (หรือร่วมกตัญญูแห่งอนาคตนั่นล่ะ) ภายในรถ
มีอุปกรณ์ช่วยชีวิตและกู้ภัย มีระบบนำร่องและระบบค้นหาที่แม่นยำ สำหรับการ
เข้าสู่บริเวณที่มีภัยพิบัติหรืออุบัติเหตุได้รวดเร็ว

Nissan_Leaf

นอกจากนี้ เพื่อให้เข้ากับธีมของงาน ทาง Nissan ก็ได้เอา Leaf รถไฟฟ้ามอเตอร์ล้วนๆ
มาจอดโชว์ แม้ว่ารถรุ่นนี้จะเริ่มขายมาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว แต่ก็ยังเป็นที่จดจำในฐานะ
รถไฟฟ้ารุ่นแรกที่มีการทำตลาดอย่างจริงจัง และเป็นรถไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดจนถึงปัจจุบัน

Promotion ของ Nissan
Navara- ดาวน์ต่ำสุด 9,999 บาท ฟรีทองสูงสุด 2 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1
Almera- ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ดาวน์ต่ำสุด 19,999 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1
รุ่น Sportech รับฟรีคูปองน้ำมัน 8,000 บาท
March- ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ดาวน์ต่ำสุด 9,999 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1
Teana – ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันชั้นหนึ่ง แถมชุดแต่ง และข้อเสนอพิเศษ
สำหรับรุ่น 2.0XL Navi และ 2.5XV Navi มูลค่า 40,000 บาท (ไปลองถาม
เอาเองว่าหมายถึงส่วนลดเงินสดหรือเปล่า)
Sylphy – ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีชุดแต่ง ครอบกระจก
มองข้างคาร์บอน, คิ้วขอบประตูคาร์บอน, ล้อ 16 นิ้วรมดำ, ปลายท่อไอเสียสแตนเลส
X-Trail – ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.39% ฟรีประกันภัยชั้น 1
Juke – ข้อเสนอพิเศษ 130,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้น 1

 

PEUGEOT
408 e-THP
Peugeot_408eTHP01

รถใหม่จากค่ายสิงห์ยกขา ALL NEW 408 e-THP เห็นชื่อตั้งมาแบบนี้
อย่าได้ไปหลงคิดว่า e คือ “Electric” นะครับ ผู้เขียนบูชายัญสมองมารอบนึงแล้ว
อันที่จริงมันย่อมาจาก efficient- TURBO with High Pressure

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร 1,598 ซีซี. Direct Injection
พ่วงเทอร์โบ 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที  แรงบิดสูงสุด 245 นิวตัน-เมตร
ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

ขนาดตัวรถ อยู่ในระดับที่เล็กกว่าพวก Camry หรือ Accord แต่ก็ยาวและ
กว้างกว่า C-Segment ส่วนใหญ่ ฐานล้อยาว 2,730 มิลลิเมตร

Peugeot_408eTHP02 Peugeot_408eTHP03

ภายในมีอุปกรณ์ค่อนข้างครบ มีลูกเล่นที่มาตรวัดรอบหมุนสวนทางกับชาวโลก
รายอื่นๆ มีถุงลมนิรภัย 6 ใบ พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยครบครัน เช่นระบบ
ตรวจจับรถในจุดบอดของกระจกมองข้าง เซ็นเซอร์หน้าและหลัง

ราคาของ 408 e-THP ในปัจจุบัน ตั้งไว้ที่ 1,690,000 บาท

รายละเอียดภาพและข้อมูลเพิ่มเติม คลิกได้ที่นี่ครับ

 

PORSCHE
718 Cayman มาแล้ว+ Cayenne รุ่นพิเศษ

Porsche_718cayman
มาถึงไทยแล้วกับ Cayman สปอร์ตหลังคาแข็ง ซึ่งเพิ่งจะได้รับเครื่อง Boxer
4 สูบเทอร์โบรุ่นใหม่แบบเดียวกับใน 718 Boxster สำหรับประเทศไทยนั้น
Porsche Thailand โดยทาง AAS นำเข้ามา 2 รุ่น ได้แก่

718 Cayman 2.0 ลิตร เทอร์โบ 300 แรงม้า ตั้งราคาเริ่มต้นเอาไว้ที่
6,990,000 บาท

718 Cayman S 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 350 แรงม้า ตั้งราคาเอาไว้
8,300,000 บาท (ต้องไปบวกเพิ่มสำหรับออพชั่นอื่นๆเอาเอง)

Porsche_718boxster

ส่วน 718 Boxster นั้น มีการเปิดตัวและให้สื่อมวลชนทดลองขับที่ ราบ 11
ตลอดจนเชิญบางส่วนไปทดลองขับที่สนามเซปังในมาเลย์เซียเป็นที่เรียบร้อย
โครงสร้างหลักและขุมพลังของเครื่องยนต์นั้นเป็นแบบเดียวกันกับ Cayman
ราคารุ่น 2.0 ลิตร อยู่ที่ 7,200,000 บาท และ รุ่น 2.5 (718 Boxster S) อยู่ที่
8,500,000 บาท

สังเกตได้ว่าในเจนเนอเรชั่นนี้ ราคาของ Boxster จะสูงกว่า Cayman นั่นก็
เป็นเพราะการปรับตำแหน่งทางการตลาดใหม่ ซึ่งทำเพื่อให้สอดคล้องกับ
รุ่น 911 (ซึ่ง 911 ที่เป็นบอดี้เปิดประทุน จะมีราคาแพงกว่ารุ่นหลังคาแข็ง)

Porsche_CayennePlat

แต่แน่นอนว่าทั้ง 718 Cayman และ 718 Boxster ก็ต้องจอดรอหน้า 7-11 กันทั้งนั้น
ถ้าหากว่าหนทางข้างหน้าน้ำท่วมสูงเป็นฟุต ในกรณีนั้น Porsche ก็เตรียมรถอีกรุ่น
เอาไว้ให้ท่านเศรษฐีแล้ว มันคือ Cayenne S E-Hybrid Platinum Edition โดยรถรุ่นนี้
จะได้ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้วลาย RS Spyder, คิ้วซุ้มล้อสีเดียวกับตัวรถ, ขอบกระจกดำ,
กระจกแบบ Privacy glass, เบาะหนังแท้แบบสปอร์ตตกแต่งด้วย Alcantara

นอกจากนี้ ยังมีระบบเครื่องเสียงรอบทิศทาง BOSE Surround Sound System
ไว้อีกด้วย Cayenne S E-Hybrid Platinum Edition จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 8.2 ล้าน
แพงกว่ารุ่นธรรมดา 210,000 บาท

นอกจากนี้ ในบูธ Porsche ยังมีรถรุ่นอื่นมาร่วมโชว์ด้วย เช่น 911 Carrera และ
Macan 2.0 Turbo ซึ่งเป็นรถที่ราคาน่ารักที่สุดของค่ายในปัจจุบันด้วยค่าตัว
6,350,000 บาท

 

Rolls-Royce

RollsRoyce_Drophead

ปีนี้ ไม่มีรถรุ่นใหม่ แต่มีการส่งรถมาโชว์ โดยเฉพาะ Drophead เปิดหลังคา
ซึ่งกำลังเข้าสู่วาระช่วงท้ายของตลาด ใครสั่งช่วงนี้ จะได้เป็นรถล็อตท้ายๆ
ก่อนเลิกผลิต สนนราคาย่อมเยาเพียง 46,500,000 บาทเท่านั้นสำหรับ
ยานยนต์ระดับ Masterpiece ประกอบด้วยมือและใช้วัสดุที่ดีที่สุดในโลก

.

SUBARU
XV STi

Subaru_XVSTi1 Subaru_XVSTi2

เข้าสู่ช่วงท้ายของอายุตลาดแล้วสำหรับ Subaru XV ซึ่งภายในปีหน้า
เราน่าจะได้เห็นรูปลักษณ์ของรถเจนเนอเรชั่นใหม่ ดังนั้นในปีนี้ จึงต้องส่งท้าย
ด้วยการจับ XV มาแต่งเป็นรุ่นพิเศษ XV STi

อุปกรณ์ที่เพิ่มมานั้น ก็ประกอบด้วย ชุดแต่งสปอร์ตรอบคันจาก STi,
ล้อแมกซ์อัลลอย ลายใหม่แต่ขนาดเป็น 17 นิ้ว สวมกับยาง Continental
MC5 ขนาดเท่าเดิม, สเกิร์ตด้านหน้า, ด้านข้าง และด้านหลัง, สปอยเลอร์หลัง,
เหล็กค้ำโช้ค ภายใน มีเบาะสีดำสลับส้ม กับพรมปูพื้นและหัวเกียร์จาก STiดังนั้นสำหรับคนที่ต้องการซื้อ XV ในปัจจุบันคุณจะมีทางเลือกเหลือแค่ 2 ทาง
ซึ่งได้แก่

XV Crosstrek AWD  1,338,000 บาท
XV STI AWD  1,438,000 บาท

Subaru_boothA

สำหรับรุ่นอื่น ก็ยังมีมาครบ ทั้ง BRZ, WRX, WRX STi ส่วน Forester ก็มี
ทั้งรุ่น XT ประกอบจากญี่ปุ่น และ 2.0i กับ iP ประกอบจากมาเลย์ และ
สเตชั่นแวก้อนอย่าง Levorg ก็มา

สำหรับใครที่เป็นติ่งน้า Russ Swift ก็มาดูได้เช่นเคย เฉพาะวันที่ 3-5 ธันวาคม
รวม 3 รอบต่อวัน เวลา 15.00 น., 17.00 น. และ 19.00 น. ที่ลาน P9
ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี

 

SUZUKI
เพิ่ม Ertiga GX และมี Celerio รุ่นพิเศษ

Suzuki_booth_Ertiga

หลังจากที่เผยโฉม Ertiga ไมเนอร์เชนจ์ไปในช่วงต้นปี แล้วได้รับเสียงตอบจาก
ผู้คนว่า รุ่นธรรมดา หน้าตาก็หล่อดี แต่ออพชั่นไม่ครบ ส่วนรุ่นท้อปอย่าง Dreza
นั้นออพชั่นครบ แต่หน้าตาออกจะฟรุ้งฟริ้งจนแม่ยายไม่ยอมมอง ทาง Suzuki
ก็เลยแก้ลำด้วยการออกรุ่น GX ราคา 695,000 บาท มาคั่นกลางระหว่างรุ่น GL
(ุ655,000 บาท) และรุ่น Dreza (715,000 บาท) กลายเป็นทางเลือกที่ลงตัวสำหรับ
ลูกค้าไทยเพราะได้หน้าหล่อ และออพชั่นไม่ได้น่าเกลียด เพราะเมื่อเทียบกับรุ่น GL
แล้ว ได้กระจกมองข้างพับไฟฟ้า เบาะคนขับปรับสูงต่ำได้ มีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น
มีจอแสดงอุณหภูมินอกตัวรถ และมีระบบเบรก ABS มาให้

สำหรับรายละเอียดอุปกรณ์ใน Ertiga รุ่นต่างๆ สามารถคลิกอ่านได้ที่นี่

Suzuki_CelerioLimited

Celerio Limited เป็นรุ่นพิเศษ..พิเศษด้วยสติกเกอร์ตกแต่งรอบคัน ส่วนตัวรถ
นั้นก็เอาพื้นฐานมาจากรุ่นล่าง และรุ่นรอง (ส่วนรุ่นท้อปไม่มีการนำมาตกแต่งแบบนี้)
เครื่องยนต์ที่ใช้ก็ยังเป็น K10B เหมือนเดิม ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดส่วนอื่น
ราคานั้น รุ่น GA Limited เกียร์ธรรมดา อยู่ที่ 366,000 บาท และรุ่น GL Limited
มีฝาครอบล้ออย่างในภาพ อยู่ที่ 446,000 บาท

Suzuki_CiazRS

Promotion ของ Suzuki
1. ประกันภัยชั้น 1 ฟรี 1 ปี
โปรโมชั่นร่วมกับโปรแกรมเช่าซื้อผ่านธนาคารเกียรตินาคิน
2. Suzuki Ciaz จัดอัตราดอกเบี้ย 0% ผ่อน 36 งวด
3. Suzuki Celerio GA และ Carry ดอกเบี้ย 0% ผ่อน 12 งวด

4. ถ้าไม่สนดอกเบี้ยต่ำ ลูกค้าที่จองรุ่น Swift GA, GL, GLX กับ Ciaz
(ทุกรุ่น), Ertiga GL และ Dreza สามารถเลือกรับ iPhone7 32GB แทนได้
โปรโมชั่นหมดเขตวันที่ 31 ธันวาคม 2559

 

TATA

Tata_booth

ขนมาครบทีม ไม่ว่าจะเป็นกระบะ 1 ตัน Xenon 150N x-Pert กระแบบ Flatbed
ขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ  150N X-Plore ที่เป็นกระบะ 4 ประตู ขับเคลื่อนสี่ล้อ
ราคา 734,900 บาท ใช้เครื่องดีเซล DICOR 2.2 ลิตร 150 แรงม้า เกียร์แบบ
Shift-on-the-fly พร้อมเฟืองท้าย Limited Slip Differential Lock

Promotion ของ Tata
ดาวน์เริ่มต้น 10% แบ่งจ่ายรายเดือน 4 เดือน 0% ได้กับบัตรเครดิตที่ร่วมแคมเปญ
สำหรับ TATA XENON CNG ดาวน์เริ่มต้นเพียง 46,900 บาท
สำหรับ TATA XENON ดีเซล ดาวน์เริ่มต้นเพียง 49,900 บาท
สำหรับ TATA SUPER ACE MINT ดาวน์เริ่มต้นเพียง 39,900 บาท

THAINA
รถบรรทุกของคนไทย..ต้องไทยนา

Thaina_booth

โดยปกติเว็บเรามักไม่ค่อยแตะรถบรรทุกกันเท่าไหร่ ยิ่งถ้าให้ทดสอบยิ่งไม่เคย
แต่สำหรับยี่ห้อนี้ เนื่องจากมีผู้อ่านสอบถามกันเข้ามามาก จึงต้องขอจัดให้สักหน่อย
สำหรับน้องใหม่ในวงการรถบรรทุกเล็ก 4 ล้อรายนี้

ไทยนาเป็นกิจการที่เกิดจากความร่วมมือของนักธุรกิจไทย และต่างชาติ
มีโรงงานผลิตอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราช จังหวัดระยอง โดยใช้ชิ้นส่วนอะไหล่
ในประเทศ 40% และจะเพิ่มเป็น 45% ในเร็วๆนี้ ในปัจจุบันมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่
รุ่น TG150 ใช้เครื่องยนต์ Toyota ขนาดความจุ 2.2 ลิตร 109 แรงม้า รถรุ่นนี้
จริงๆ หลายคนจะคุ้น มันก็คือรถบรรทุก Deva เดิม แต่เอามาเปลี่ยนเครื่องยนต์
และชิ้นส่วนต่างๆ เช่นระบบปรับอากาศให้เหมาะสมกับอากาศประเทศไทยมากขึ้น

ส่วนอีกรุ่นคือ TD175 หน้าตาจะแตกต่างกันออกไป และใช้เครื่องยนต์ดีเซล
Isuzu 4JB1 107 แรงม้า ทั้ง 2 รุ่นใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ รุ่น TG150 วางราคาไว้
525,000 บาท และรุ่น TD175  ราคา 595,000 บาท

 

TOYOTA/LEXUS
Altis ไมเนอร์เชนจ\\ Yaris สีเหลือง\\IS ไมเนอร์เชนจ์

ToyotaLexus_booth

โดดเด่นเป็นมะนาวอยู่หน้าบูธ คือ Yaris TRD Sportivo สีเหลืองพิเศษ
ผลิตมาเป็นจำนวนจำกัด ขายในราคา 649,000 บาท ที่ด้านหลังของบูธ
ยังมีฝูงกระบะ HiLux Revo จอดอยู่ด้านขวา กับรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว
อย่าง MPV Innova Crysta และรถ 7 ที่นั่งขนาดเล็กอย่าง Sienta
ซึ่งทางเว็บของเราได้จัดทำบททดสอบ Full Review ไปเรียบร้อยแล้ว

ToyotaLexus_AltisESPORT

และแน่นอนว่า Altis ไมเนอร์เชนจ์ ก็มาโชว์โฉมกันเต็มบูธ สำหรับคนที่เน้น
ความเท่ แนะนำว่าควรลองดูรุ่น ESport หรือ ESport Option แต่ถ้าเน้นความ
คุ้มและไม่ได้ต้องการโช้คสปอร์ต ลองดูรุ่น 1.8E ซึ่งตัดอุปกรณ์ส่วนที่ไม่จำเป็น
ออก และยัดเครื่อง 1.8 ลิตรที่ให้อัตราเร่งดีอันดับต้นๆของคลาส

ส่วนเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัย ไม่ต้องห่วง เพราะ Altis ไมเนอร์เชนจ์ใหม่
มี ABS ถุงลมนิรภัย 7 ใบ และระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวเป็นอย่างต่ำ
ในทุกรุ่นไม่เว้นแม้แต่ 1.6 J เกียร์ธรรมดา

สำหรับรายละเอียดราคา และอุปกรณ์ว่ารุ่นไหนมีอะไรบ้าง ดูที่กระทู้ของ
คุณหมู ธีรพัฒน์ จัดไว้ให้แล้วครับ คลิกได้เลย

ToyotaLexus_IS300h ToyotaLexus_IS300h_2

ทางฝั่ง Lexus ก็มีการเปิดตัว IS รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งมาให้เลือกกันทั้งหมด
3 รุ่น ได้แก่ IS300h Luxury กับ IS300h Premium ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้จะใช้
ขุมพลังไฮบริด 2AR-FSE บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลังรวม 2 ระบบได้
223 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์ CVT

ส่วนรุ่น IS200t F-Sport จะใช้เครื่องยนต์ 8AR-FTS 2.0 ลิตรเทอร์โบ
241 แรงม้า ตัวเดียวกับที่อยู่ใน RC200t ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ

ราคาขายรุ่น IS300h Luxury จะมีส่วนลดพิเศษ จาก 3,065,000 บาท
เหลือ 2,999,000 บาท (หมดเขตสิ้นปีนี้) ส่วน IS300h Premium จะตั้ง
ราคาเอาไว้ที่ 3,615,000 บาท และ IS200t F-Sport ราคา 4,375,000 บาท
..ราคาแบบนี้..ดูเบนซ์…ดู BMW แล้วหันมาโอบหลังคนขาย Lexus เบาๆ
“โชคดีนะน้อง”

รายละเอียดภาพเพิ่มเติม และอุปกรณ์ คลิกได้ที่นี่

 Promotion ของ Toyota
– Yaris ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน รับดอกเบี้ย 2.4% ฟรีประกันภัยชั้น 1
– Vios ดาวน์ 30% ผ่อน 48 เดือน รับดอกเบี้ย 0.69% ฟรีประกันภัยชั้น 1
– Altis ทุกรุ่นยกเว้นรุ่น J เกียร์ธรรมดา ดาวน์ 30% ผ่อน 48 เดือน รับดอกเบี้ย 2.09%
หรือถ้าไม่เอา ก็เปลี่ยนเป็นประกันภัยชั้น 1 ได้
– Camry ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน รับดอกเบี้ย 2.39%
– Innova ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือนรับดอกเบี้ย 1.79% ฟรีประกันภัยชั้น 1
– Revo ผ่อนแคมเปญ สบายดี 60 งวด เริ่มต้นที่งวดละ 4,899 บา แถมประกันภัยชั้น 1
เมื่อลงเงินดาวน์ 150,960 บาท

 

VOLVO
S90 เปิดตัวโมเดลใหม่\\V40 T4 ไมเนอร์เชนจ์\\XC90 ประกอบมาเลย์

Volvo_S90_opt

ไวกิ้งสวีเดน ถือขวานจามลงกลางเวทีงาน Motor Expo ด้วยการเปิดตัว
S90 โมเดลใหม่ ตัวถังใหม่สดๆ ถ้าเป็นปลาก็คงดิ้นโชว์ไปแล้ว โดยในการ
เปิดตัวครั้งนี้ นำเข้ารถทั้งคันจากสวีเดนมาขายในราคา 3,990,000 บาท
โดยเป็นรุ่น S90 D4 Inscription ซึ่งอุปกรณ์ความปลอดภัยล้นคัน!

Volvo_S90_02

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส D4204T14 4 สูบ 2.0 ลิตร 1,969 ซีซี.
เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 82.0 x 93.2 มิลลิเมตร
อัตราส่วนกำลังอัด 15.8 : 1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,250 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที
จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบความปลอดภัยที่ว่าเลิศ ขอยกตัวอย่างมาดังนี้

1. Pilot Assist ระบบขับขี่กึ่งอัตโนมัติเจนเนอเรชั่นที่ 2  ทำงานที่ความเร็ว
สูงสุด 130 km/h โดยไม่ต้องอาศัยรถ อื่นวิ่งนำหน้าช่วยบังคับควบคุม
พวงมาลัยโดยอัตโนมัติ เพื่อให้รถยนต์วิ่งอยู่ในเส้นแบ่งช่องจราจร

2. City Safety ประกอบด้วยความปลอดภัยย่อย ได้แก่
– ระบบตรวจจับสัตว์ใหญ่ ทำงานได้ในตอนกลางคืน
– ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติหลีกเลี่ยงการชนบริเวณทางแยก
– ระบบรัดตรึงเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ(ก่อนรถตกถนน กระแทกชน พลิกคว่ำ)
– Run-Off Road Mitigation  ระบบบังคับทิศทางให้รถวิ่งอยู่ในช่องแบ่งจราจรโดยอัตโนมัติ
– Run-Off Road Protection  ระบบป้องกันอันตรายจากกรณีรถตกถนน
– Park Assist Pilot  ระบบช่วยจอดอัตโนมัติทั้งแบบถอยเข้าซอง และ จอดขนาน
– 360-degree Parking Camera  กล้องช่วยจอดให้มุม 360 องศา

Volvo เป็นหนึ่งในอีกค่ายที่กำลังมุ่งพัฒนาระบบยานยนต์ขับเคลื่อนตัวเอง
แบบอัตโนมัติ หรือ Autonomous Vehicle ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใกล้ความจริง
ขึ้นมาทุกที แต่เมืองไทยนั้น ยังต้องผ่านเรื่องกฎหมายและต้องผ่านการทดสอบ
กับมอเตอร์ไซค์ หลุม ป้ายจราจร และวิธีการติดตั้งป้ายจุดต่างๆของประเทศไทย
ที่ดีงามขึ้นชื่อ ว่าจะผ่านไปได้หรือไม่

สำหรับรายละเอียดระบบความปลอดภัย และภาพเพิ่มเติม สามารถคลิกอ่าน
ได้ที่นี่เพราะรายละเอียดยาว 2 หน้ากระดาษ

Volvo_XC90_MY

Volvo XC90… ทางเว็บเราได้ยืมตัว Momentum T8 Plug-in ประกอบนอก
มาทดสอบไปแล้ว (ยังไม่ได้มีรีวิว) พอทดสอบเสร็จปุ๊บ ข่าวตัวประกอบจากมาเลย์
ก็มาเยือนทันที โดยประกาศราคาอย่างเป็นทางการดังนี้

5 Diesel Momentum AWD  4,190,000 บาท
*รุ่นประกอบมาเลย์ ถูกลง 700,000 บาท

T8 Plug-in Hybrid Momentum AWD  4,490,000 บาท
*รุ่นประกอบมาเลย์ ถูกลง 900,000 บาท

Volvo_V40T4_acc Volvo_V40T4_std

ตามมาด้วย Volvo V40T4 ไมเนอร์เชนจ์ เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่
ใช้บล็อค Drive-E เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด
300 นิวตัน-เมตร ภายนอกมีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ สังเกตได้ที่ไฟหน้า
มี Daytime Running Light ดีไซน์เหมือนฆ้อนเทพเจ้า Thor

รุ่นพื้นฐาน เริ่มต้นด้วยราคาแค่ 1,749,000 บาท ได้ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
(คันสีดำในรูป) แต่ถ้าใครอยากได้ล้อโตกับชุดแต่งเพิ่มเติมอย่างคันสีขาว
ก็สามารถจ่ายเงินเพิ่มอีก 189,000 บาทได้

 

Promotion ของ Volvo

– เพิ่มมูลค่าให้อีก 100,000 บาทสำหรับลูกค้าที่นำรถเก่ามาเทิร์น
– XC60 D4 รับส่วนลดมูลค่า 480,000 บาท (ดีนะที่เขียนง่ายๆว่า ส่วนลด
ไม่ต้องมา Exclusive หรือข้อเสนออะไรให้เข้าใจคลาดเคลื่อน)
– XC60 T5 รับส่วนลด 400,000 บาท
– V40 Cross Country D4 รับส่วนลดมูลค่า 200,000 บาท

 

 


Pan Paitoonpong
สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งบทความ และภาพถ่าย โดยผู้เขียน
ห้ามนำส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เผยแพร่ครั้งแรกใน www.headlightmag.com
  1 ธ.ค. 2016

Copyright (c) 2016 Text and Pictures
Use of such content either in part
or in whole without permission is prohibited.
First publish in www.Headlightmag.com
December 1st, 2016

Copyright © 2009-2016 Headlightmag.com, All rights reserved.