เปิดตัวให้ยลโฉมคันจริงเป็นที่เรียบร้อย สำหรับ All NEW Ford Shelby GT500 เจ้างูจงอางอสรพิษ ตัวแรงสุดจากพื้นฐานของ Ford Mustang ภายในงาน Detroit Auto Show 2019 โดยมาพร้อมกับหัวใจสำคัญนั่นก็คือ ขุมพลังเครื่องยนต์ V8 5.2 ลิตร พร้อม Supercharge ลูกโต ซึ่งทาง Ford ยังไม่ได้เปิดตัวเลขเป๊ะๆว่า พละกำลังนั้นจะอยู่ที่เท่าไร เพียงแต่ได้เกริ่นไว้เบื้องต้นว่า มันจะให้กำลังสูงสุดมากกว่า 700 แรงม้า อย่างไรก็ตาม ก็จะส่งผลให้ GT500 โฉมใหม่คันนี้ จะเป็นรถที่ทรงประสิทธิภาพที่สุด เท่าที่พวกเขาเคยผลิตออกมาเลยทีเดียว

 

โดยในเบื้องลึกของรายละเอียดตัวบล็อก เบนซิน V8 ขนาด 5.2 ลิตร ดังกล่าว มีอุปกรณ์ที่สะกดสายตาเมื่อแง้มห้องเครื่องเปิดออกดู นั่นก็คือ ลูก Supercharge ติดตั้งแบบกลับหัว ที่ใช้อัดอากาศเพื่อเพิ่มพละกำลังของเครื่องยนต์กันอย่างทวีคูณ โดยมันมาพร้อมกับปริมาตรภายในมหาศาลถึง 2.65 ลิตร ซึ่งนับว่า มีความใหญ่โตกว่าบรรดาคู่แข่งตัวฉกาจ ไม่ว่าจะเป็น Dodge Challenger Hellcat, Chevrolet Camaro ZL1 แต่อย่างไรก็ดี มันจะแพ้ก็เพียงแค่ Dodge Challenger Demon ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 2.7 ลิตร

นอกจากนี้ ยังติดตั้งชุด Intercooler ระหว่างกระบอกสูบ เพื่อลดตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง ตลอดจนเครื่องยนต์ที่เป็นผลิตจากอะลูมิเนียมทั้งบล็อก All-Aluminum, ลูกสูบอะลูมิเนียม และก้านสูบ Forged เพื่อรองรับการรีดกำลังออกมาสูงสุดกว่า 700 แรงม้า อีกทั้งตัวอ่างน้ำมันเครื่อง มีแผ่นกั้นน้ำมันแบบ Active ที่ช่วยคงประสิทธิภาพการหล่อลื่นไว้ แม้จะหักเลี้ยวรถอย่างแรงจนแรง G พุ่งสูงขึ้นก็ตาม

เชื่อมต่อกำลังผ่านชุดเกียร์ Dual-Clutch 7 จังหวะ ของ Tremec ถ่ายกำลังสู่ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ใช้เพลาขับทำจากวัสดุน้ำหนักเบาและแข็งแกร่งอย่าง Carbon Fiber สำหรับชุดเกียร์สามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้อย่างฉับไวชั่วพริบตาเพียง 0.1 วินาที ขณะเดียวกัน ก็มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกปรับทั้ง Normal, Sport, Drag, Track ตลอดจนฟีเจอร์พิเศษอย่าง ระบบช่วยถีบออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง Launch Control และ Line-Lock การเบิร์นล้อหลังจนควันขโมง เพื่อสร้างอุณหภูมิยางสำหรับการขับขี่ในรูปแบบ Drag Race

ขณะเดียวกัน จากรายงานล่าสุดเปิดเผยว่า อาจจะมีตัวเลือกของ เกียร์ธรรมดา ตามออกมาในอนาคต เพื่อเอาใจแฟนๆผู้ชื่นชอบการสับเกียร์ด้วยตนเองอีกด้วย

ในด้านระบบกันสะเทือน มีการปรับปรุงใหม่ โดยออกแบบทั้ง ชิ้นส่วน-ข้อต่อ-จุดยึด ใหม่, ลดน้ำหนักของชุดสปริง, ช็อกอัปแบบ MegneRide รุ่นใหม่ รวมไปถึง ระบบบังคับเลี้ยวที่ใช้โมดูลควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า ชุดใหม่ ขณะเดียวกัน การห้ามล้อนั้น ใช้จานเบรกขนาดใหญ่ 420 มิลลิเมตร พร้อมคาลิปเปอร์เบรก 6 ลูกสูบ จาก Brembo ที่ล้อคู่หน้า

นอกจากนี้ GT500 ยังมีตัวเลือกการอัปเกรดสมรรถนะในการขับขี่เพิ่มเติมอีก 2 รูปแบบ อันได้แก่

  • Handling Package : เพิ่มตัวปรับองศากระบอกช็อกอัป และ สปอยเลอร์หลังสามารถปรับองศาปีกได้
  • Carbon Fiber Track Package : เพิ่มวงล้อ Carbon ขนาด 20 นิ้ว ขนาดหน้ากว้าง 11 นิ้ว ล้อหน้า และ 11.5 นิ้ว ล้อหลัง, ยาง Michelin Pilot Sport Cup 2 ออกแบบพิเศษ, ปีกสปอยเลอร์หลังแบบ GT4 สามารถปรับองศาได้, ลิ้น Splitter ด้านหน้า พร้อมครีบ Dive Planes เพิ่มแรงกดด้านหน้า ทำจาก Carbon Fiber และ ไม่มีเบาะนั่งตอนหลัง

โดยรายละเอียดอื่นๆบริเวณภายนอก จะมาพร้อมกับพาร์ทชิ้นส่วนทางด้านหน้าที่เป็นเหลี่ยมสันและโป่งมัดกล้ามตามลำตัวรถที่ดูแข็งแกร่งบึกบึนกว่า Mustang รุ่นปกติ พร้อมคาดแถบสี 2 เส้นอันเป็นลักษณ์ ตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้าย รวมทั้งโลโก้ งูจงอาง โดยเปลี่ยนไปจากเดิมซึ่งเป็น ม้าป่า เพื่อบ่งบอกว่าเป็นเวอร์ชั่นที่มีความร้ายกาจมากกว่า ขณะที่ชุดโคมไฟที่ใช้เป็นแบบ Projector Lens พร้อมไฟ LED Daytime Running Lights และไฟตัดหมอก

บนฝากระโปรงหน้า มีการทำครีบไว้สำหรับดักอากาศ ซึ่งทาง Ford กล่าวว่า มันสามารถดักลมได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับ GT350 ที่เป็นรุ่นรองลงมา เพื่อช่วยเรื่องการไหลเวียนของอากาศในการสร้าง Downforce และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศของเครื่องยนต์

ขอบชายล่างบริเวณด้านข้าง ตกแต่งด้วยสเกิร์ตทำจากวัสดุ Carbon Fiber เช่นเดียวกับ กรอบกระจกมองข้าง ที่ใช้วัสดุในลักษณะเดียวกัน ถัดมาที่บั้นท้าย จะพบกับความดุดันของปลายท่อไอเสียแบบ 4 ท่อ และ แผง Diffuser ขณะที่โคมไฟท้าย LED ดีไซน์ขีดแนวตั้ง 3 ขีด ตามแบบฉบับ ติดตั้งขนาบข้างโลโก้ งูจงอาง ที่ติดอยู่ตรงกลางบนพื้นหลังวัสดุสีดำเงา

การตกแต่งภายใน ใช้โทนสีดำ ประกอบกับชิ้นวัสดุ Carbon Fiber ตลอดจนผิวสัมผัสที่ใช้วัสดุหนังแบบพิเศษ เดินตะเข็บด้ายด้วยสีดำ ส่วนตัวเบาะมีตัวเลือก 2 แบบ ด้วยกันคือ เบาะหุ้มหนัง Alcantara พร้อมระบบปรับไฟฟ้า และออปชั่นที่ให้ความสปอร์ตเต็มขั้น โดยเป็นแบบ Bucket Seat จาก Recaro

Ford Shelby GT500 จะเริ่มออกจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ปี 2019 อย่างไรก็ตาม Ford จะทำการเปิดเผยรายละเอียดอย่างครบถ้วนอีกครั้ง เร็วๆนี้

ที่มา : carscoops