All NEW Toyota Highlander เปิดตัวแล้วที่สหรัฐฯ ในฐานะ Midsize SUV (D-SUV) สำหรับครอบครัว รองรับผู้โดยสารสูงสุด 8 ที่นั่ง กับ เบาะนั่ง 3 แถว ที่มาพร้อมทางเลือกขุมพลัง เบนซิน V6 3.5 และ 2.5 Hybrid ส่วนสีตัวถังภายนอก มีให้เลือกด้วยกัน 8 สี และ มีเพียง 3 สีแรก ที่เป็นสีของรุ่นเดิม ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • สีขาว Blizzard Pearl
  • สีเงิน Celestial Silver Metallic
  • สีดำ Midnight Black Metallic

สีใหม่ (NEW)

  • สีเทา Magnetic Gray Metallic
  • สีน้ำเงิน Moon Dust
  • สีแดง Ruby Flare Pearl
  • สีน้ำเงิน Blueprint
  • สีส้ม Opulent Amber

All NEW Toyota Highlander ออกแบบภายนอกให้ดูทันสมัย พร้อมคำนึงถึงทัศนวิสัย, การรีดลม และลดเสียงเข้าห้องโดยสาร ด้านอุปกรณ์มาตรฐานมีทั้งไฟหน้า Projector Premium สอดรับกระจังหน้าสีดำตัดโครเมี่ยม ชายล่างกันชนหน้า – หลัง ตัดด้วยสีเงิน ล้อมีขนาด 20 นิ้ว ซึ่งให้มาเป็นครั้งแรกสำหรับรถยนต์รุ่นนี้ ส่วนลูกเล่นมีทั้งฝาท้ายเตะเปิด และหลังคา Sunroof

ด้วยมิติตัวถังที่ยาวกว่าเดิม 60 มิลลิเมตร ห้องโดยสารภายในจึงกว้างขวาง รองรับผู้โดยสารสูงสุด 8 ที่นั่ง ด้วยเบาะ 3 แถว โดยเบาะแถวที่ 2 สามารถปรับเดินหน้าและถอยหลังได้ ส่วนความจุบรรทุกสัมภาระอยู่ที่ 455 – 2,075 ลิตร ด้านลูกเล่นมาพร้อมกับหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ใหญ่ที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ทำงานร่วมกับเครื่องเสียง JBL Premium Sound System กำลังขับ 1,200 วัตต์

ขุมพลังของ All NEW Toyota Highlander มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

  • V6 3.5 Dual VVT-i

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 3.5 ลิตร 3,456 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 94.0 x 83.0 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 301 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 361 นิวตันเมตร ที่ 4,600 – 4,700 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Direct Shift มีให้เลือกทั้ง ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อแบบแปรผัน Dynamic Torque Vectoring

  • 2.5 Hybrid VVT-iE

เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,493 ซีซี. กำลังสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 5,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 206 นิวตันเมตร ที่ 4,400 – 4,800 รอบ/นาที จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว พละกำลังทั้งระบบเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า รวม 197 แรงม้า แบตเตอรี่ Nickel-hydrogen 6.5 Ah ส่งกำลังผ่านเกียร์ E-CVT ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ E-Four

ช่วงล่างเป็นแบบอิสระทั้งหน้า – หลัง ส่วน platform ที่ใช้เป็นแบบ Toyota New Global Architecture (TNGA-K) ด้านความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบ Toyota Safety Sense 2.0 ซึ่งรวมระบบไว้หลายชนิด ประกอบด้วย

  • ระบบลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมตรวจจับคนเดินถนน Pre-Collision System with Pedestrian Detection (PCS w/PD)
  • ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Full-Speed Range Dynamic Radar Cruise Control (DRCC)
  • ระบบแจ้งเตือนออกนอกช่องจราจร พร้อมระบบหน่วงพวงมาลัย Lane Departure Alert with Steering Assist (LDA w/SA)
  • ระบบปรับระดับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam (AHB)
  • ระบบตรวจหาเส้นจราจร Lane Tracing Assist (LTA)
  • ระบบจดจำป้ายจราจร Road Sign Assist (RSA)

All NEW Toyota Highlander เปิดตัวแล้วในงาน New York International Auto Show 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่สหรัฐฯ สำหรับกำหนดส่งมอบจะเริ่มในเดือนธันวาคม 2019 สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ V6 และ เดือนกุมภาพันธ์ 2020 ในรุ่น Hybrid ส่วนรุ่นย่อยมีให้เลือก 5 รุ่น ประกอบด้วย L, LE, XLE, Limited และ Platinum

ที่มา: Toyota