Audi RS 5 มีรุ่น Minorchange ตามมาแล้ว มีให้เลือกทั้ง ตัวถัง 2 ประตู Coupé และ ตัวถัง 4 ประตู Sportback โดยความเปลี่ยนแปลงอยู่ที่หน้าตาภายนอก พร้อมทางเลือกสีใหม่อย่าง สีน้ำเงิน Turbo Blue และ สีแดง Tango Red ส่วนอุปกรณ์ภายในเสริมระบบ MMI touch display มาให้ ด้านขุมพลังคงเดิมกับ 2.9 V6 TFSI เทอร์โบคู่

Audi RS 5 Minorchange มาพร้อมกับกระจังหน้า Singleframe ที่กว้างและแบนขึ้น ตามรอยพี่ใหญ่อย่าง RS 6 และ RS7 ส่วนช่องลมเหนือกระจังหน้า ได้แรงบันดาลใจจาก Audi Sport Quattro ปี 1984 ด้านข้างดูดุดันขึ้นด้วยโป่งล้อที่กางออกมาอีก 40 มิลลิเมตร สเกิร์ตข้างและดิฟฟิวเซอร์หลังปรับทรงใหม่ ส่วนท่อไอเสียเป็นปลายเดี่ยวออก 2 ฝั่ง พิเศษเฉพาะตัวถัง Coupé จะใช้หลังคาไฟเบอร์ CFRP หนัก 8 กิโลกรัม

ห้องโดยสารแตกต่างจากรุ่นปกติด้วยเบาะนั่งทรงสปอร์ต หุ้มด้วยหนังและ alcantara หรือสั่งเปลี่ยนเป็นหนัง Nappa ได้ ตัดด้วยการเดินด้ายสีแดงและสีเทา พร้อมใช้ alcantara ตกแต่งทั้งคัน สำหรับสิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือระบบ MMI touch display พร้อมหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว และยังสั่งติดตั้งระบบ Audi virtual cockpit plus ที่ปรับแต่งมาให้รุ่น RS โดยเฉพาะ พร้อมหน้าจอขนาด 12.3 นิ้ว

ขุมพลังของ Audi RS 5 Minorchange ยังคงเดิมกับ เครื่องยนต์เบนซิน แบบ V6 ขนาด 2.9 ลิตร 2,894 ซีซี. เทอร์โบคู่ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.5 x 86.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 450 แรงม้า ที่ 5,700 – 6,700 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,900 – 5,000 รอบ/นาที

จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ tiptronic 8 จังหวะ ส่งกำลังผ่านระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ quattro ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถปลดล็อคให้ขึ้นไปแตะระดับ 280 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้หากลูกค้าต้องการ

ช่วงล่างของ Audi RS 5 Minorchange เป็นแบบ taut RS sport ทำงานร่วมกับระบบ Dynamic Ride Control และโช๊คปรับระดับได้ 3 แบบ ส่วนรูปแบบการขับขี่ปรับได้ผ่าน Audi drive select dynamic handling system ที่มีทั้งแบบ comfort, auto, dynamic, RS1 และ RS2 ระบบเบรกมีทั้ง จานเหล็กธรรมดาและระบบเบรกคาร์บอน ส่วนล้อมีขนาด 19 – 20 นิ้ว

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานมากกว่า 30 รายการ สำหรับการเปิดเผยข้อมูล Audi RS 5 Minorchange ได้มีขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม และจะพร้อมออกจำหน่ายในยุโรป รวมถึงประเทศเยอรมนีในเร็ววันนี้ สนนราคาจำหน่ายเริ่มต้นของทั้งตัวถัง Coupé และ Sportback ซึ่งยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 83,500 ยูโร (ราว 2,805,000 บาท)

ที่มา: Audi