แม้ว่าข่าวคราวเรื่องการที่อังกฤษออกจาก EU หรือ Brexit จะเงียบหายไปพักหนึ่งแล้ว แต่ยังมีการวิเคราะห์ถึงผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด มีรายงานว่าการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เมืองผู้ดี ได้ลดน้อยลงเกือบครึ่ง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

ทางการของอังกฤษได้รายงานว่า มูลค่าการลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ด้าน ก่อตั้งโรงงานใหม่, เครื่องมือ, เครื่องจักร, อุปกรณ์ และการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ ระหว่างเดือนมกราคม ถึง 21 มิถุนายน 2018 อยู่ที่ 347.3 ล้านปอนด์ (ราว 15,000 ล้านบาท) ลดน้อยลงจากช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017 ที่มีมูลค่าการลงทุน 647.4 ล้านปอนด์ (ราว 28,000 ล้านบาท)

Society of Motor Manufacturers and Traders ระบุว่าสถิติดังกล่าว ได้เผยให้เห็นถึงความไม่เชื่อมั่นของนักลงทุนจากอุตสาหกรรมรถยนต์ เนื่องจากแผนการค้าที่นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ คาดหวังเรื่องการค้าเสรีกับ EU หลังจากที่ Brexit มีผลแล้ว ดูเป็นจริงได้ยาก ทั้งยังเชื่อว่า รัฐบาลไม่มีอำนาจต่อรองมากขนาดนั้น

ยังมีสถิติที่น่าสนใจอีกว่า 52% ของการค้าขายของอังกฤษในปีที่ผ่านมา เป็นการค้าร่วมกับ EU ซึ่งยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของตลาดดังกล่าว นอกจากนั้น อุตสาหกรรมรถยนต์เองก็มีความสำคัญต่อเมืองผู้ดี เนื่องจากตั้งแต่ยุค 1980 เป็นต้นมา รถยนต์ได้สร้างงานให้แก่ชาวอังกฤษถึง 800,000 อัตรา พร้อมก่อให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียนมูลค่า 110,000 ล้านปอนด์ (ราว 4,780,000 ล้านบาท)

จึงสรุปได้ว่า หาก Brexit ส่งผลให้การค้าขายระหว่างอังกฤษและ EU เกิดกำแพงภาษีขึ้นมา เมืองผู้ดีนี่ละที่จะเข้าเนื้อก่อน ไม่เพียงแค่นั้น BMW ยังส่งสัญญาณในวันจันทร์ที่ผ่านมาด้วยว่า บริษัทอาจปิดโรงงานในอังกฤษที่มีไว้ผลิต MINI และ Rolls-Royce หากพบว่า Brexit ส่งผลให้เกิดผลกระทบร้ายแรง ต่อการนำเข้าชิ้นส่วนสำหรับประกอบรถยนต์ เห็นทีรถยนต์จากประเทศอังกฤษ อาจเป็นสิ่งที่หายากในอนาคตเสียแล้ว !?

 

ที่มา: Europe.autonews