หนึ่งในรถยนต์ที่คนไม่สนใจเรื่องยานยนต์ก็รู้จักอย่างรถเต่า หรือ Volkswagen Beetle ได้มาถึงบทสุดท้ายอีกครั้ง เนื่องจากรุ่นล่าสุดซึ่งถือเป็น Generation ที่ 3 ได้ออกจากโรงงานที่ Puebla ประเทศเม็กซิโกแล้วในวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยในวันดังกล่าวมีพิธีเฉลิมฉลองส่งท้าย ร่วมด้วยผู้บริหารและพนักงานเนืองแน่น

  • Generation ที่ 1 : 1938 – 2003 ยอดผลิตประมาณ 21,500,000 คัน
  • Generation ที่ 2 : 1997 – 2013 ยอดผลิตประมาณ 1,200,000 คัน
  • Generation ที่ 3 : 2013 – 2019 ยอดผลิตประมาณ 500,000 คัน

Volkswagen Beetle คันสุดท้ายมาในตัวถัง Coupe สีฟ้า Denim Blue และจะถูกส่งไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ของบริษัทใน Puebla นอกจากนั้น ยังมีการแบ่งคันท้ายๆ ของการผลิตเป็นรุ่นพิเศษ แบ่งเป็น 65 คันสุดท้ายของการผลิต จะขายให้กับลูกค้าชาวเม็กซิโกผ่าน Amazon และยังมี 2 คันสุดท้าย ที่เป็นสเปคสหรัฐฯ มาในสีแดง King Red พร้อมแดชบอร์ด, กุญแจ และเบาะแบบพิเศษ โดยคู่นี้จะถูกส่งไปไว้พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐฯ

ส่วนโรงงานในเม็กซิโกจะคงอยู่ต่อไป โดยส่วนที่เคยผลิต Volkswagen Beetle จะเปลี่ยนไปผลิต SUV รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดอเมริกาเหนือ วางตำแหน่งไว้รองจาก Tiguan ส่วนตัวแทนของรถเต่านั้น ยังไม่แน่ชัดว่าบริษัทจะหวนกลับมาทำอีกหรือไม่ เนื่องจากแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าหน้าตาเรโทร หลังปี 2022 จะเริ่มต้นกับคันผลิตจริงของ I.D. Buzz Concept ก่อนซึ่งเป็นภาคต่อของรถตู้ Microbus ในอดีต

เช่นนั้นแล้ว Volkswagen Beetle อาจกลับมาอีกก็เป็นได้ หากรถตู้ใส่ถ่านหน้าตาย้อนยุคประสบความสำเร็จ สำหรับยอดขายสะสมที่ผ่านมานั้น ต้องยอมรับตามตรงว่า Generation ที่ 3 ไม่ประสบความสำเร็จเท่ารุ่นพี่ เนื่องจากมียอดขายสะสมราว 500,000 คันเท่านั้น ส่วน Generation ที่ 1 กวาดยอดขายสะสมมากกว่า 21,500,000 และ Generation ที่ 2 เพียง 1,200,000 คัน รวมอายุอานามของ Beetle นั้น กว่า 80 ปี มียอดสะสมกว่า 23 ล้านคัน

ยังมีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจอีกประเด็นว่าถึง Volkswagen Beetle โฉมสุดท้ายจะเป็นรถยนต์ยุคใหม่ แต่มีการแฝงความย้อนยุคเอาไว้ในขั้นตอนการผลิต เนื่องจาก Volkswagen รุ่นอื่นอย่าง Golf, Jetta และ Tiguan ใช้หุ่นยนต์ประกอบรถยนต์ราว 70% ตลอดขั้นตอน ต่างกับ Beetle ที่ใช้เพียง 48% ดังนั้นรถเต่าจึงต้องใช้แรงงานคนมากกว่า นำไปสู่การสร้างงานสร้างรายได้ ถือว่าสมกับแนวคิด “รถยนต์ของประชาชน” เสียจริง

ที่มา: caranddriver, digitaltrends