ค่ายรถยนต์ตรา “ หัวเสือ “ อย่าง Jaguar ได้ออกมาทำการปล่อยอัปเดตเพิ่มความสดใหม่ให้กับ รถ Compact Sedan ของค่ายอย่าง Jaguar XE ในรุ่นโฉม Minorchange กันทั้งภายนอก-ภายใน โดยคู่แข่งรายสำคัญจากทางฝั่งเยอรมนีนั้น ก็เตรียมต้อนรับ เสืออังกฤษ ตัวนี้อย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็น BMW 3-Series, Mercedes-Benz C-Class และ Audi A4

เราจะเริ่มต้นกันที่รายละเอียดภายนอกตัวรถ ซึ่งได้รับการปรับเปลี่ยนที่สามารถสังเกตได้เลยก็คือ ส่วนของชุดโคมไฟหน้า LED ดีไซน์ใหม่ ที่มีแรงบันดาลใจส่งต่อมาจากรถสปอร์ตคันงามของค่ายอย่าง F-Type โดยมาพร้อมกับทรวดทรงที่เพรียวบางมากขึ้น ตลอดจนการเพิ่มขนาดของช่องดักลมทางด้านหน้าให้มีขนาดใหญ่โด เพื่อความดุดัน ทั้งยังส่งผลในเรื่องของหลัก Aerodynamic ที่จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

บริเวณด้านท้าย ก็ถูกปรับปรุงมาใช้ ชุดโคมไฟท้ายแบบ LED แล้วเช่นกัน โดยมีการดีไซน์กรอบตัวโคมที่ได้อิทธิพลมาจาก F-Type เช่นเดียวกับไฟหน้า รวมไปถึง ลวดลายกราฟิกใหม่ เพื่อความทันสมัยและสดใหม่มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ตัวกันชนหลังไล่ลงไปจนถึงแผง Diffuser มีการออกแบบใหม่ที่เน้นความเป็นเหลี่ยมสัน ให้ความบึกบึนและสปอร์ต ควบคู่ไปในเวลาเดียวกัน

รายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับเวอร์ชั่น R-Dynamic ตกแต่งเน้นความสปอร์ต ได้เพิ่มลักษณะงานดีไซน์ทางด้านหน้า-หลัง ด้วยลวดลายซี่ตระแกรงสีดำ ประกอบกับ วงล้ออัลลอย ใหม่ ดีไซน์เฉพาะตัว

  

ภายในห้องโดยสาร เพิ่มความพรีเมี่ยมในการเลือกใช้วัสดุมากขึ้น โดยได้นำวัสดุผิวสัมผัสแบบ Soft Touch มาใช้ ในหลายส่วน ตลอดจน คอนโซลกลางที่ได้ต้อนรับการกลับมาของ คันเกียร์ SportShift ที่มีลักษณะแบบดั้งเดิม แทนการใช้ปุ่มหมุน Rotary Dial ในรุ่นก่อน และยังมีปุ่มควบคุมโหมดการขับขี่ Jaguar Drive บริเวณตำแหน่งที่ใกล้ๆกัน

สำหรับ วงพวงมาลัย มาพร้อมกับหน้าตาใหม่ ซึ่งมีดีไซน์ที่ดูพลิ้วไหวและทันสมัยมากยิ่งขึ้น และมองลึกเข้าไปก็จะพบกับ หน้าปัดมาตรวัดแบบ Full Digital Display ที่สามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับ หน้าจอสัมผัส Touch Pro Duo ตรงกลางแดชบอร์ด ที่หยิบยืมมาจาก รถพลังไฟฟ้ารุ่นบุกเบิกของค่ายอย่าง I-Pace โดยการทำงานจะถูกแบ่งออกเป็น 2 จอ เพื่อใช้ควบคุมระบบความบันเทิง และระบบปรับอากาศ

ในส่วนของกระจกมองใช้ ก็ได้นำเทคโนโลยี ClearSight ซึ่งได้รวบรวมการทำงานของกล้องมองหลังมุมกว้าง ให้สามารถดูสิ่งกีดขวางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ภายใต้ฝากระโปรง ได้นำขุมพลังมาใช้ทั้งหมด 3 บล็อก จากรุ่นเดิม ซึ่งได้แก่

เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ (P250)

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร ที่ 1,300-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ 4 ล้อ AWD

อัตราเร่ง 0-100 km/h : 6.5 วินาที ความเร็วสูงสุด : 250 km/h

เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ (P300)

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ที่ 1,500-4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ 4 ล้อ AWD

อัตราเร่ง 0-100 km/h : 5.9 วินาที (RWD), 5.7 วินาที (AWD) ความเร็วสูงสุด : 250 km/h

ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ (D180)

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,999 ซีซี. เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ 4 ล้อ AWD

อัตราเร่ง 0-100 km/h : 8.4 วินาที (RWD), 8.1 วินาที (AWD) ความเร็วสูงสุด : 222 km/h (RWD), 228 km/h (AWD)

ทั้งนี้ Jaguar XE Minorchange ได้เปิดให้สั่งจองกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยออกสตาร์ทด้วยค่าตัวเริ่มต้น 33,915 ปอนด์ (ราว บาท) อย่างไรก็ดี ก็คงไม่ต้องอดใจรอชมโฉมรถคันจริงในงาน Geneva Motor Show 2019 เพราะว่าปีนี้ ทางเครือ Jaguar Land Rover (JRL) ไม่ได้ตบเท้าเข้าร่วมในงานดังกล่าว

ที่มา : motor1