Mitsubishi Eclipse Cross มีรุ่น Minorchange ตามมาแล้วในวันที่ 15 ตุลาคม 2020 โดยไม่ได้ทำตลาดในญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ยังจะเปิดตัวที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ด้วยขุมพลังเบนซินในเดือนพฤศจิกายน ก่อนจะส่งรุ่น PHEV ไปบุกในปี 2021 ทั้งยังมีแผนส่งรุ่นเบนซินไปอเมริกา ในไตรมาสแรกของปี 2021

ภายนอกของ Mitsubishi Eclipse Cross Minorchange ยังคงใช้เอกลักษณ์ Dynamic Shield ที่พัฒนาต่อยอดจากเดิม ด้วยการปรับไฟหน้าและกันชนหน้าใหม่ ส่วนด้านหลังเปลี่ยนฝาท้ายทั้งบาน ดีไซน์ให้ดูเป็นสามมิติแบบหกเหลี่ยม รวมถึงเปลี่ยนกระจกหลังเพื่อให้ทัศนวิสัยดีขึ้น โดยยังคงเอกลักษณ์เส้นสายตัวถังของรุ่นเอาไว้ปิดท้ายด้วยสีตัวถังของเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ประกอบด้วย

  • สีขาว White Diamond (สีใหม่)
  • สีแดง Red Diamond (สีใหม่)
  • สีน้ำเงิน Light Blue Mica
  • สีบรอนซ์ Bronze Metallic
  • สีเงิน Sterling Silver Metallic
  • สีเทา Titanium Gray Metallic
  • สีดำ Black Mica

ห้องโดยสารเพิ่มแบบสีดำตัดด้วยสีเงิน และ ยังมีรุ่นที่ใช้หนังสีเทาอ่อนมาด้วย โดยแผงประตูจะใช้สีเดียวกับเบาะให้ดูเข้ากัน หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วเป็นของใหม่ ติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ใช้งานง่ายขึ้นและมองเห็นดีกว่าเดิม จัดวางให้เอื้อมถึงง่ายทั้งยังปรับปุ่มหมุนใหม่ ส่วน touchpad ไว้ควบคุมระบบต่างๆ จากส่วนกลาง ถูกถอดออกจากรุ่นก่อนหน้า เพื่อให้คอลโซลกลางมีพื้นที่มากขึ้น

ขุมพลังของ Mitsubishi Eclipse Cross Minorchange มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือกสองแบบ ดังรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้

1.5 เทอร์โบ (ใช้ร่วมกับรุ่นก่อนหน้า)

แบบ 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบ MIVEC Direct Injection จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ล็อคพูลเล่ย์ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ

2.4 PHEV : Plug-in Hybrid (ใช้ร่วมกับ Outlander PHEV)

แบบ 4 สูบ ขนาด 2.4 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ติดตั้งด้านหน้าและด้านหลังอย่างละตัว จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติจังหวะเดียว ขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมช่องจ่ายกระแสไฟฟ้าออกสู่เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนได้สูงสุด 10 วัน หากเชื้อเพลิงเต็มทั้งน้ำมันและไฟฟ้า


ช่วงล่างด้านหน้าเป็นแบบ MacPherson strut ด้านหลังเป็นแบบ multi-link ทั้งยังมีการปรับโช๊คอัพหลังให้ใหญ่ขึ้นด้วย ด้านการขับขี่มีระบบ S-AWC มาเสริมความมั่นใจ ปิดท้ายด้วยกำหนดการเปิดรับจองซึ่งเริ่มขึ้นแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนถึงกำหนดเปิดตัวอีกครั้งช่วงปลายปีนี้ แต่ละขุมพลังมีสามรุ่นย่อยให้เลือก ประกอบด้วย M, G และ P ส่วนราคาจำหน่ายเริ่มต้นโดยที่ยังไม่รวม ภาษีนำเข้าของประเทศไทยมีรายงานว่าอยู่ที่

  • 1.5 เทอร์โบ ราคาอาจอยู่ที่ 2,550,000 – 3,350,000 เยน (ราว 754,000 – 991,000 บาท)
  • 2.4 PHEV ราคาอาจอยู่ที่ 3,850,000 – 4,500,000 เยน (ราว 1,139,000 – 1,332,000 บาท)

 

ที่มา : Mitsubishi, car.watch.impress