Range Rover Sport Plug-in Hybrid ถือเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid คันแรกของค่าย Jaguar Land Rover ในรหัส P400e ซึ่งผู้ผลิตถือว่า SUV รุ่นนี้ได้เปิดศักราชใหม่ของสมรรถนะการขับขี่ที่ยั่งยืน ด้วยขุมพลังเบนซิน 2.0 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดรวมกัน 404 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดรวมกัน 640 แรงม้า
ภายนอกของ Range Rover Sport Plug-in Hybrid มาพร้อมกับไฟหน้า Pixel-laser LED กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบใหม่ ที่ช่วยปรับภาพลักษณ์ให้พร้อมลุยมากขึ้น ส่วนล้อมี 3 ลายใหม่ให้เลือก ทั้งยังเลือกสีได้ว่าจะเอาสีเงิน ปัดเงา หรือดำ
ภายในของ Range Rover Sport Plug-in Hybrid มาพร้อมกับระบบเชื่อมต่อ Touch Pro Duo ที่มีชื่อเรียกว่า Blade ประกอบไปด้วย หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงขนาด 10 นิ้ว 2 จอ ติดตั้งอยู่กลางแผงแดชบอร์ดภายใต้แนวคิด Minimalist ในห้องโดยสารยังมีจุดชาร์จไฟอีก 14 ตำแหน่ง สำหรับชาร์จมือถือและแลปทอปด้วย
ขุมพลังของ Range Rover Sport Plug-in Hybrid เป็นเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร Ingenium ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุดรวมกัน 404 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 จังหวะ ส่งกำลังลงพื้นผ่านระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ full-time ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 220 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Range Rover Sport Plug-in Hybrid สามารถเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เป็นระยะทางสูงสุด 51 กิโลเมตร สำหรับรูปแบบการขับขี่สามารถปรับได้ 2 รูปแบบหลักคือ
- Parallel Hybrid แบ่งเป็น SAVE function ซึ่งจะรักษาระดับแบตเตอรี่เอาไว้ให้อยู่ที่เท่าเดิม และ Predictive Energy Optimisation (PEO) ที่ปรับการทำงานตามสภาพการจราจรใน GPS
- EV ขับเคลื่อนรถยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว
ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จไฟจนเต็มของของ Range Rover Sport Plug-in Hybrid อยู่ที่ 7 ชั่วโมง 30 นาทีหากใช้ไฟบ้าน และจะลดลงเหลือ 2 ชั่วโมง 45 นาที เมื่อชาร์จไฟผ่านแท่นชาร์จแบบ Quick Charge ส่วนตำแหน่งจุดชาร์จอยู่ที่กระจังหน้าใต้โลโก้ Land Rover และผู้ใช้งานยังสามารถดูสถานะการชาร์จผ่านมือถือ และกราฟฟิกรอบเบ้าชาร์จได้ด้วย
Range Rover Sport Plug-in Hybrid จะผลิตที่โรงงาน Solihull ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ เปิดรับจองแล้ววันนี้ และมีกำหนดการส่งมอบให้กับลูกค้าคนแรกในปลายปี 2017
ที่มา: landrover