พันธมิตร Renault – Nissan – Mitsubishi ประกาศเพิ่มวงเงินมูลค่า 1,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 32,000 ล้านบาท) ไว้ลงทุนในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยจะครอบคลุมในเรื่องของรถยนต์ไฟฟ้า, ระบบขับขี่อัตโนมัติ, ระบบเชื่อมต่อ และปัญญาประดิษฐ์ AI ซึ่งสิ่งแรกที่พวกเขาจะลงทุนนั้น คือบริษัทพัฒนาแบตเตอรี่จากสหรัฐฯ นาม Ionic Materials

พันธมิตร Renault – Nissan – Mitsubishi ระบุว่าในปีแรกจะมีการลงทุนในวงเงิน 200 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ราว 6,400 ล้านบาท) ในธุรกิจ start-up และบริษัทที่พัฒนานวัตกรรมใหม่ โดยสิ่งที่บริษัทที่พันธมิตรไปลงทุนด้วยจะได้รับ คือผลตอบแทนด้านการเงิน และการขยายตลาดสู่ระดับโลก เนื่องจากพันธมิตร 3 สหาย มีรถยนต์ออกจำหน่ายถึง 10 ยี่ห้อ ทั่วโลก

ส่วนบริษัทแรกที่พันธมิตร Renault – Nissan – Mitsubishi เลือกที่จะลงทุนด้วยเป็นบริษัทแรกคือ Ionic Materials จากสหรัฐฯ เป็นบริษัทที่กำลังพัฒนาแบตเตอรี่ที่ปราศจาก Cobalt ทั้งยังเป็นผู้พัฒนา Solid Polymer Electrolyte สำหรับแบตเตอรี่ความจุสูง ให้มีสมรรถนะที่ดีขึ้น และยังช่วยต้นทุนให้ต่ำลงด้วย

สำหรับเม็ดเงินลงทุนในครั้งนี้จะมาจากทั้ง 3 บริษัท โดยมาจาก Renault และ Nissan บริษัทละ 40% ส่วนที่เหลืออีก 20% มาจาก Mitsubishi พันธมิตรยังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อทำหน้าหน้าที่ตัดสินใจ และ ติดตามผลงาน ซึ่งล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากทั้ง 3 บริษัท นำโดย Francois Dossa ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Nissan Brazil ที่จะเข้ามาควบคุมส่วนนี้ ที่เรียกว่า Alliance Ventures

พันธมิตรยังตั้งเป้าที่จะขยายทีมงานและพัฒนา platform ของ Alliance Ventures ไว้สำหรับอนาคต พร้อมคาดหวังที่จะขยายสาขาไปตั้งที่ Silicon Valley, Paris, Yokohama และ Beijing ซึ่งล้วนแล้วแต่ใกล้กับที่ตั้งของศูนย์ R&D ในเครือของพันธมิตร Renault – Nissan – Mitsubishi เพื่อให้การพัฒนานวัตกรรมใหม่เป็นไปอย่างง่ายดายขึ้น

Alliance Ventures ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการ เปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบบ Pure EV จำนวน 20 รุ่น และรถยนต์ที่ขับขี่ได้ด้วยตัวเองอีก 40 รุ่น จึงกล่าวได้ว่าการลงทุนนี้ นำผลประโยชน์มาสู่ทุกฝ่าย กล่าวคือพันธมิตร Renault – Nissan – Mitsubishi เข้าถึงนวัตกรรมใหม่, บริษัทเจ้าของนวัตกรรมได้รับการสนับสนุนด้านการเงิน และผู้บริโภคอย่างเราได้ใช้ลูกเล่นใหม่ในรถยนต์ ซึ่งจะเป็นอะไรนั้น ต้องติดตามชม

 

ที่มา: renault