ไปชม Toyota Commuter ที่ออกจำหน่ายในประเทศอินโดนีเซียด้วยชื่อ Toyota Hiace และได้เพิ่มรุ่นย่อยใหม่ในชื่อ Luxury มาพร้อมกับเบาะหลังแบบ Captain Seat รองรับผู้โดยสาร 11 ที่นั่ง ส่วนขุมพลังคงเดิมและมีให้เลือกแบบเดียวกับ เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.5 ลิตร ส่วนรายละเอียดมิติตัวถัง มีดังนี้

  • ยาว x กว้าง x สูง : 5,380 x 1,880 x 2,285 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 3,110 มิลลิเมตร

ภายนอกของ Toyota Hiace Luxury มีอุปกรณ์เฉพาะรุ่นหลายรายการทั้ง ไฟหน้า, ไฟตัดหมอก, กระจังหน้าโครเมี่ยม, ไฟตัดหมอกหน้า, ล้อขนาด 15 นิ้ว, กรอบกระจกและมือเปิดประตูนอกโครเมี่ยม ส่วนสีตัวถัง มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ประกอบด้วย สีเงิน Silver Metallic, สีขาว White และ สีน้ำเงิน Blue Metallic

ห้องโดยสารตอนหลัง เปลี่ยนไปใช้เบาะแบบ Premium Captain Seat หุ้มหนังสีดำ – น้ำตาล ปรับได้ 4 ทิศทาง ทำให้ความจุผู้โดยสารลดลงเหลือ 11 ที่นั่ง ส่วนทางเดินระหว่างแถว 2 และ แถว 3 มีโต๊ะพร้อมที่วางแก้วแบบพับได้ นอกจากนั้น ยังมีหน้าจอแสดงผลขนาด 6 นิ้ว และระบบปรับอากาศแบบเฉพาะรุ่น

ขุมพลังของ Toyota Hiace Luxury เป็นเครื่องยนต์ดีเซล D-4D รหัส 2KD-FTV แบบ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร 2,494 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 92.0 x 93.8 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 2,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ

Toyota Hiace Luxury ออกจำหน่ายแล้วที่อินโดนีเซีย สนนราคาที่ยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทยที่ 436,250,000 อินโดนีเซียรูปี (ราว 945,000 บาท)

ส่วนในบ้านเรา Toyota ประเทศไทย เตรียมปรับอุปกรณ์ให้กับ Commuter โดยติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว VSC และ ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC เร็วๆนี้ อีกไม่นานเกินรอ

ที่มา: Toyota