รายชื่อผู้ชนะหนึ่งเดียวของรางวัล European Car of The Year 2017 – 2018 ถูกประกาศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็คือ Volvo XC40 ที่เอาชนะรถยนต์ที่ผ่านเกณฑ์เข้ารับรางวัลในปีนี้ ทั้งหมด 37 รุ่น ด้วยกัน ทั้งยังถือเป็น รถยนต์คันแรกของผู้ผลิตสัญชาติสวีเดน ที่สามารถคว้ารางวัลดังกล่าวเป็นครั้งแรก หลังมีการก่อตั้งรางวัลนี้เมื่อ 55 ปีก่อน
โดยในปีที่ผ่านมา 2016 – 2017 รถยนต์ที่ได้รางวัล European Car of The Year คือ Peugeot 3008
European Car of The Year 2017 – 2018 ระบุว่า Volvo XC40 ถือเป็นรถยนต์ Premium Compact SUV ที่เจริญรอยตามรุ่นพี่อย่าง XC60 ได้อย่างถูกต้อง ด้วยการออกแบบใหม่ทั้งหมด เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีระยะฐานล้อและส่วนสูงที่น้อยกว่า ทำให้ขับขี่ได้อย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ T5 ที่ให้กำลังสูงสุด 247 แรงม้า
Volvo XC40 ไม่ได้มอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีบนทางเรียบเท่านั้น แต่ยังทำได้ดีบนทางขรุขระ เนื่องจากยังมี Ground Clearance ที่เหมาะสม พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่าย ที่สำคัญระบบความปลอดภัยยังเหนือกว่าคู่แข่ง เนื่องจากผู้ผลิตได้ติดตั้งอุปกรณ์ Active Safety และ Passive Safety มาให้หลายรายการเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในส่วนของการออกแบบของ Volvo XC40 คณะกรรมการเห็นว่าดูดีใช้ได้สำหรับภายนอก ส่วนภายในถือว่ากว้างขวาง ทั้งยังมีอุปกรณ์มาตรฐานมาให้ครบครัน แม้ในรุ่นเริ่มต้น เช่น ไฟหน้า LED, ระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone และเซนเซอร์ถอยหลัง ส่วนลูกเล่นแพรวพราวในรุ่นท็อป ถือว่าน่าประทับใจไม่น้อย เช่น ล้อขนาด 19 – 20 นิ้ว, หน้าจอแสดงผลขนาด 9 นิ้ว พร้อมระบบ Sensus และวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยมอื่นๆ
ด้วยเหตุผลทั้งหมด Volvo XC40 จึงกวาดคะแนนจากคณะกรรมการ จนได้ตำแหน่งผู้ชนะรางวัล European Car of The Year 2017 – 2018 ไปครอง ส่วนลำดับคะแนนของผู้ผ่านเข้ารอบ 7 คันสุดท้าย มีดังนี้
- Volvo XC40 325 คะแนน
- Seat Ibiza 242 คะแนน
- BMW 5-Series 226 คะแนน
- Kia Stinger 204 คะแนน
- Citroën C3 Aircross 171 คะแนน
- Audi A8 169 คะแนน
- Alfa Romeo Stelvio 163 คะแนน
คณะกรรมการและเกณฑ์การตัดสิน
คณะกรรมการรางวัล European Car of The Year 2017 – 2018 ประกอบไปด้วย สมาชิก 60 คน ทั้งหมดเป็นสื่อวงการรถยนต์จาก 23 ประเทศในทวีปยุโรป โดยจะมีจำนวนตัวแทนจากแต่ละประเทศแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดของตลาดรถยนต์และการให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ ส่วนประเทศที่มีตัวแทนจากแต่ละประเทศสูงสุดอยู่ที่ 6 คน ประกอบไปด้วย ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษ อิตาลี่ และสเปน
ในไตรมาสสุดท้ายของปี คณะกรรมการจะรวบรวมรายชื่อรถยนต์ที่ออกจำหน่ายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรถยนต์ที่ผ่านเกณฑ์จะต้องออกจำหน่ายอย่างน้อยใน 5 ประเทศของทวีปยุโรป ทั้งยังจะต้องเป็นรถยนต์ประเภท All NEW เท่านั้น ไม่นับรวมรถยนต์รุ่น Minorchange หรือแม้แต่รุ่นที่มีการเปลี่ยนเพียงแต่เครื่องยนต์และเกียร์ โดยในปีนี้ มีรถยนต์ผ่านเกณฑ์รอบแรกทั้งสิ้น 37 รุ่น
ต่อมา คณะกรรมการ European Car of The Year 2017 – 2018 จะนับคะแนนเสียง เพื่อหาผู้เข้ารอบต่อไปจำนวน 7 รุ่น หลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการให้คะแนน โดยแต่ละคนจะมีคะแนนคนละ 25 คะแนน สามารถให้คะแนนรถยนต์ได้สูงสุด 5 รุ่น ต่อคน และให้คะแนนได้ไม่เกิน 10 คะแนน ต่อรถยนต์ 1 รุ่น
ส่วนเกณฑ์การตัดสินนั้น ครอบคลุมทั้ง การออกแบบ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย ความประหยัด การขับขี่ สมรรถนะ การใช้สอย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความพึงพอใจของคนขับ ราคา นวัตกรรม และความคุ้มค่า
อ่านข่าว รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ 7 คันสุดท้าย เข้าชิงรางวัล European Car of The Year 2017 – 2018 ได้ที่ >> http://www.headlightmag.com/news-nominee-list-of-european-car-of-the-year-2017/
รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ 7 คันสุดท้าย เข้าชิงรางวัล European Car of The Year 2017 – 2018