Nissan ประเทศไทย เปิดตัวรถรุ่นใหม่ NEW Model / Modelchange หรือ การปรับดีไซน์แบบ Minorchane ครั้งล่าสุด กับ Nissan NOTE เมื่อเดือน มกราคม 2017 หรือล่วงเลยมา 1 ปีกว่าๆแล้ว ที่ไม่มีการอัพเดตรถยนต์ใหม่ๆเลย มีเพียงการปรับอุปกรณ์เล็กๆน้อยๆ แบบ Model Year (MY) เท่านั้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทำให้สถานการณ์ – บรรยากาศของค่ายดูจะเงียบเหงา ไม่คึกคักเท่าไรนัก

หลังจากการเปลี่ยนแปลงประธาน Nissan ประเทศไทย เมื่อ พฤศจิกายน 2016 แบบสายฟ้าแล่บ เป็น มร.อันตวน บาร์เตส (President Antoine Barthes) จากนั้นเป็นต้นมา ก็พอจะเห็นความเปลี่ยนแปลงในค่ายนี้บ้าง ทั้งด้านการจัดการภายในองค์กร การเปลี่ยนแปลงด้านผู้แทนจำหน่าย แต่ทางด้านสินค้า หรือ รถที่ออกจำหน่าย ดูเหมือนจะยังคงไม่ก้าวเร็วอย่างที่ใจคิด

 

จากข้อมูลล่าสุดที่ Headlightmag.com มี ภายในปีงบประมาณ 2018 นี้ (นับตั้งแต่เดือน เมษายน 2018 – มีนาคม 2019) Nissan ประเทศไทย จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ด้วยกันถึง 4 รุ่ ” คาดว่า ” ถ้าข้อมูลนี้ถูกต้อง Nissan ประเทศไทย น่าจะมีความคึกคักกลับคืนมาบ้าง จากที่เงียบเหงาไปนานพอสมควร

รถยนต์ใหม่ 4 รุ่น ที่ ” คาดว่า ” Nissan ประเทศไทย จะเปิดตัวภายในปีงบประมาณ 2018 มีดังนี้

  • Nissan TERRA 
  • Nissan X-TRAIL Minorchange
  • Nissan LEAF
  • Nissan NOTE e-Power

 

Nissan TERRA

Nissan TERRA (เทอร์ร่า) หรือก็คือ Navara PPV เป็น SUV ที่มีพื้นฐานมาจากกระบะ Nissan Navara เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศจีน วางเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร มาในรูปแบบเบาะ 2 แถว 5 ที่นั่ง แต่สำหรับตลาดอาเซียน จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล และ เบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง จะเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคที่ประเทศฟิลิปปินส์ วันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ก่อนจะมาเปิดตัวในไทย ภายในปี 2018 นี้

 

Dimension มิติตัวรถ

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,882 x 1,850 x 1,835 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ : 2,850 มิลลิเมตร
  • ระยะ Ground Clearance : 225 มิลลิเมตร
  • ระยะมุมเงย Approach Angle : 33 องศา
  • ระยะมุมจาก Departure Angle : 26 องศา

เมื่อเทียบกับคู่แข่ง

  • Nissan TERRA : 4,882 x 1,850 x 1,835 มม. / ฐานล้อ 2,850 มม.
  • Ford Everest : 4,893 x 1,862 x 1,837 มม. / ฐานล้อ 2,850 มม.
  • Chevrolet Trailblazer : 4,887 x 1,902 x 1,852 มม. / ฐานล้อ 2,845 มม.
  • Isuzu MU-X : 4,825 x 1,860 x 1,860 มม. / ฐานล้อ 2,845 มม.
  • Mitsubishi Pajero Sport : 4,785 x 1,815 x 1,805 มม. / ฐานล้อ 2,800 มม.
  • Toyota Fortuner : 4,795 x 1,855 x 1,835 มม. / ฐานล้อ 2,750 มม.

 

เครื่องยนต์ของ Nissan TERRA ในตลาดโลก จะมีให้เลือกด้วยกันหลายรูปแบบ แตกต่างกันตามภูมิภาคต่างๆ ทั้งเบนซิน 2.5 ลิตร, ดีเซล 2.5 ลิตร, ดีเซล 2.3 ลิตร และ ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่

เบนซิน 2.5 ลิตร 

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. DOHC Twin C-VTC กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.1 : 1 กำลังสูงสุด 184 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 236 นิวตันเมตร (251 นิวตันเมตรในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ) ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ดีเซล 2.5 ลิตร

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบแถวเรียง รหัส YD25DDTi ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. Commonrail เทอร์โบแปรผัน VGS อินเตอร์คูลเลอร์ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.0 : 1 กำลังสูงสุด 163 – 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 – 450 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ พร้อม Manual Mode

 

ดีเซล 2.3 ลิตร

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส YS23DDT ขนาด 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี. DOHC Turbo Intercooler กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 85.0 x 101.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.4 : 1 กำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

ดีเซล 2.3 ลิตร เทอร์โบคู่

เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ รหัส YS23DDTT ขนาด 2.3 ลิตร 2,298 ซีซี. DOHC Twin-Turbo Intercooler (เทอร์โบคู่) กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 85.0 x 101.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.4 : 1 กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือ เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

 

Nissan Terra เวอร์ชั่นไทย จะมาพร้อมเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง เหมือนกับ PPV ค่ายอื่น และ จะติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล รายละเอียดอุปกรณ์ต่างๆที่จะใส่เข้ามา รวมถึงการตั้งราคาจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในอีกไม่นานนัก


 

Nissan X-Trail Minorchange

Nissan X-Trail เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อ 18 พฤศจิกายน 2014 ให้หลังจากนั้น 1 ปี พอดิบพอดี ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2015 ก็ได้เปิดตัว X-Trail Hybrid ตามมา ผ่านไปเกือบ 4 ปี ตั้งแต่เปิดตัวแทบไม่มีการอัพเดตจากรุ่นนี้อีกเลย ในตลาดโลกเองมีการเปิด X-Trail Minorchange กันไปแล้วตั้งแต่ปี 2017

ความเปลี่ยนแปลงทางด้านงานดีไซน์ทั้งภายนอก – ภายในห้องโดยสาร มีดังนี้

กระจังหน้า และ ชุดกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้า V-Shape ที่ขยายขนาดให้ใหญ่โตขึ้น คล้ายกับรุ่นพี่ Murano ส่วนไฟหน้าที่ดูเหมือนว่าจะทรงเดิม แต่ลองมองในรายละเอียดดีๆจะพบว่า มีการปรับเส้นสายของไฟหน้าเล็กน้อย เพิ่มขยัก และ เหลี่ยมมุม รวมถึงปรับภายในตัวโคม เป็นแบบ Projector Lens คู่ ตัวไฟ Daytime Running Light ในแนวนอนย่อขนาดลงให้กระชับมากขึ้น มาพร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA) อีกด้วย

กันชนหน้าถูกออกแบบใหม่ ให้รับกับกระจังหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป เพิ่มเส้นสายเหลี่ยมมุม ให้ดูบึกบึนเปลี่ยนชุดไฟตัดหมอกคู่หน้า จากเดิมเป็นรูปทรงวงกลม ก็กลายเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน มีการใช้แนวเส้นตั้ง ตัดรับลากยาวขึ้นไปที่มุมซ้าย-ขวา


ชายล่างของกันชนยังคงเป็นสีดำเหมือนเคย แต่แนวด้านข้างรถ มีการใช้แถบโครเมียม มาตกแต่งเพิ่มเติมลากยาวจาก ประตูหน้า – หลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ สีทูโทน ขนาด 19 นิ้ว ยกมาจาก Qashqai ที่ขายในยุโรป

ส่วนด้านท้ายรถเปลี่ยนชุดกันชนหลังใหม่ เพิ่มพื้นที่ส่วนชายล่างกันชนยกขึ้นมา พร้อมคาดแถบโครเมียมเข้าไปตรงกลาง เสริมแนวสันเหลี่ยมมุมขอบกันชนซ้าย-ขวา ล้อดีไซน์ด้านหน้าไฟท้ายโคมสีรมดำปรับรายละเอียดในตัวโคมใหม่ แต่ยังคงลวดลายเดิมเอาไว้ ส่วนที่เป็นไฟหรี่มัลติรีเฟลกเตอร์ทรงบูมเมอแรง ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นแถบ LED


ภายในห้องโดยสารถูกปรับโทนสีใหม่ จากเดิมสีดำ เป็นโทนสีน้ำตาลอิฐเหมือนที่พบเห็นใน Crossover รุ่นน้องอย่าง Kicks พวงมาลัยที่หลายคนไม่ชอบดีไซน์เหมือนมดลูก หรือ ทรงกางเกงใน ก็ถูกเปลี่ยนเช่นกัน คาดว่านี่จะเป็นดีไซน์พวงมาลัยทรงสปอร์ตท้ายตัดใหม่ตกแต่งด้วยโครงสีเงินอลูมิเนียม ที่ถูกนำมาใส่รถ SUV / Crossover ของ Nissan ทุกๆรุ่นนับต่อจากนี้เป็นต้นไป

แผงแดชบอร์ดหน้ายังคงเป็นดีไซน์เดิม แต่เสริมความหรูหรามากขึ้น จากเดิมที่เป็นแถบลายคาร์บอน ก็เอาแผ่นหุ้มหนังสีน้ำตาลอิฐเหมือนเบาะนั่ง จัดการเดินตะเข็บด้ายมาแปะไว้แทนที่ วัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์จากขอบสีเงิน ถูกเปลี่ยนมาใช้ขอบสีดำเงา

เบาะนั่ง และ วัสดุหุ้มที่วางแขนแผงประตูต่างๆ รวมถึงคอนโซลกลาง ใช้โทนสีน้ำตาลอิฐ มีการหุ้มหนังสีเดียวกันนี้ที่บริเวณคอนโซลเกียร์เพิ่มเข้ามาจากรุ่นเดิม อีกทั้งหัวเกียร์เปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา Piano Black และ ตัดด้วยเส้นสีเงิน ฐานเกียร์ก็เปลี่ยนใหม่เป็นแบบถุงหุ้มเช่นเดียวกัน

ตัวเบาะนั่งเย็บด้วยลวดลายใหม่ คล้ายแผงลวดให้ความร้อน ทั้งส่วนเบาะรองนั่ง และ พนักพิงหลังตัดขอบด้วยสีดำ เย็บตะเข็บด้ายสีน้ำตาลอิฐ ส่วนของวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารลายคาร์บอนก็ถูกลดทอนลายละเอียด เป็นวัสดุสีดำเงา Piano Black ทั้งหมด


ขุมพลังปัจจุบันของ Nissan X-Trail มีให้เลือกกันถึง 3 รูปแบบด้วยกัน

เบนซิน 2.0 ลิตร

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส MR20DD 4 สูบ DOHC Direct Injection Twin C-VTC ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.1 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

เบนซิน 2.5 ลิตร

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส QR25DE 4 สูบ DOHC Direct Injection Twin C-VTC ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ

เบนซิน 2.0 HYBRID

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส MR20DD Hybrid 4 สูบ DOHC Twin C-VTC ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.1 มิลลิเมตร กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor กำลังสูงสุด 41 แรงม้า 160 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Li-ion แรงดันไฟฟ้า 202 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 887 วัตต์-ชั่วโมง รวมพละกำลังสูงสุด 179 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ

แต่ที่ออสเตรเลียมีการเปิดตัว X-Trail Minorchange เครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 ลิตร เทอร์โบ

ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส M9R 4 สูบ DOHC Commonrail ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ

Nissan X-Trail Minorchange เวอร์ชั่นไทย น่าจะมาพร้อมระบบความปลอดภัยเต็มพิกัด สิ่งที่ต้องรอลุ้นกันต่อไปคือ เครื่องยนต์ จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจากเดิมหรือไม่ จะมีเพิ่มเข้ามาใหม่ หรือ เครื่องยนต์ไหนจะหายไป ?! เพราะมีการนำรถติดแผ่นป้ายทะเบียน TC หรือ Test Car พรางตัววิ่งทดสอบอยู่ก่อนหน้านี้ คงต้องรอติดตามชมกันอย่างใกล้ชิด


 

Nissan LEAF

” ผมเชื่อว่า รถยนต์ไฟฟ้า EV จะเป็นอีกหนึ่งยานยนต์ที่เพิ่มสีสันให้กับ รถยนต์รุ่นต่างๆของ Nissan ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย “ เป็นคำกล่าวของ มร.อันตวน บาร์เตส ประธาน Nissan ประเทศไทย เคยพูดเอาไว้ ณ งานเปิดตัว Nissan LEAF ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเดือน กันยายน 2017 ที่ผ่านมา และ แน่นอนว่าเจ้ารถรุ่นนี้จะมาเปิดตัวในไทยอย่างแน่นอน แต่เดือนไหน ยังไม่มีใครทราบ ณ ตอนนี้ ปล่อยให้ Hyundai เปิดตัว IONIQ ตัดหน้าไปแบบงงๆ เมื่องาน Motor Show 2018 ที่ผ่านมา

 

LEAF เป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า AC Synchronous electric motor รหัส EM57 กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 3,283 – 9,795 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,283 รอบ/นาที ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ Single Speed ปล่อย CO2 0g./km. (Zero Emission)

(NEW LEAF 2ndGen มีพละกำลังมากกว่ารุ่นเดิมถึง 38 แรงม้า 66 นิวตันเมตร : LEAF 1stGen 109 แรงม้า 254 นิวตันเมตร)

แบตเตอรี่ Advanced Lithium-ion (Li-ion) ขนาด 40 kWh เติมพลังงานด้วยการเสียบปลั๊กชาร์จไฟ

ระยะทางวิ่งต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ได้สูงสุดถึง 400 กิโลเมตร (มาตรฐาน JC08, Japan) / 240 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA, USA)

  • ชาร์จปกติ 3 kW onboard Charger ใช้เวลา 16 ชั่วโมง
  • ชาร์จปกติ 6 kW onboard Charger ใช้เวลา 8 ชั่วโมง
  • ชาร์จด่วน Quick Charging ใช้เวลา 40 นาที (ชาร์จ 80%)



Dimension มิติตัวถังของ NEW Nissan LEAF (เทียบเท่ารถ C-Segment Hatchback)

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,480 x 1,790 x 1,560 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ (Wheelbase) : 2,700 มิลลิเมตร
  • ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน : cd=0.28
  • ที่เก็บสัมภาระ ขนาด 435 ลิตร
   

Nissan LEAF เวอร์ชั่นไทย จะเปิดตัวเมื่อไหร่ สเป็คอุปกรณ์ต่างๆจะเป็นอย่างไร จะมาในฐานะรถนำเข้าทั้งคัน (CBU) หรือ รถประกอบในประเทศ ก็ยังไม่มีใครทราบ ณ ตอนนี้ รวมถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ” ราคาจำหน่าย หรือ ราคาขายจะหยุดอยู่ที่เท่าไร ?! ” คงต้องรอลุ้นกัน เพราะ Hyundai เอง เปิดตัวมาเป็นรถนำเข้าทั้งคัน CBU ราคาเคาะที่ 1,749,000 บาท แต่ความจุแบตเตอรี่จะอยู่ที่ 28 kWh ในขณะที่ LEAF อยู่ที่ 40 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางที่มากกว่า


 

Nissan NOTE e-Power

เทคโนโลยี e-Power คือระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพละกำลังสูงแบบเดียวกับรถไฟฟ้า EV โดยนำเทคโนโลยีรถไฟฟ้าจาก Nissan Leaf มาประยุกต์กับเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปที่ไม่เชื่อมต่อกับล้อ เครื่องยนต์ใช้สำหรับปั่นไฟฟ้าลงสู่แบตเตอรี่ แตกต่างจากรถ Hybrid ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์ส่งพละกำลังลงสู่ล้อด้วย

พูดง่ายๆก็คือ ” เครื่องยนต์เสมือนทำงานในรอบเดินเบา ทำหน้าที่ปั่นไฟเก็บเข้าแบตเตอรี่อย่างเดียว ตัวรถจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่เดิมน้ำมันได้แบบรถปกติทั่วไป “

161102-01-29-1200x822
161102-01-30-1200x820

ขุมพลังของ NOTE e-Power

เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ (เครื่องยนต์ไม่มีหน้าที่ขับเคลื่อนส่งพละกำลังลงสู่ล้อ)

เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานให้มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 High Power พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,008 – 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,008 รอบ/นาที

67541bc5d8dd4e18006a44ffa74248ece1c88ec3  

ช่วงที่ผ่านมา อาจมีข่าวคราวว่า Nissan ประเทศไทย คงจะถอดใจกับ Note e-Power ไปแล้ว เนื่องจากต้องการดันให้ e-Power เข้าหลักเกณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ในความเป็นจริงรถที่มีเครื่องยนต์ไม่สามารถเข้าหลักเกณฑ์รถ EV ได้ ถึงแม้ e-Power จะใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟ ไม่ได้ขับเคลื่อนก็ตาม แต่มีการปล่อย CO2 จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว

แต่ดูเหมือนว่าจะมีข่าวคราวกลับมาอีกครั้ง เมื่อ Headlightmag ได้รับข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการมาว่า Nissan ประเทศไทย สามารถหาโรงงานผลิตแบตเตอรี่ในประเทศได้แล้ว เพื่อผลิตแบตเตอรี่ให้กับ Note e-Power ซึ่งถ้าหาก Nissan Note e-Power ทำตลาดในประเทศไทยภายในปีงบประมาณ 2018 นี้ ก็คาดว่าน่าจะเข้าเกณฑ์ภาษีสรรพสามิต รถยนต์ Hybrid อยู่ที่ 4% เมื่อเข้าโครงการส่งเสริมการลงทุนของ BoI รอดูกันว่าเมื่อถึง ณ เวลานั้น ราคาของ Note e-Power จะเป็นอย่างไร


เรียบเรียงข้อมูลทั้งหมดโดย www.headlightmag.com


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/65328.0


* ปีงบประมาณ 2018 (นับตั้งแต่เดือน เมษายน 2018 – มีนาคม 2019)