Nissan X-Trail รุ่นที่ 3 นี้ มีรหัสตัวถัง T32 เริ่มเผยโฉมครั้งแรกทั่วโลก เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2013 ก่อนจะเริ่มเผยสเป็คเวอร์ชันญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก เมื่อ 24 ตุลาคม 2013 จากนั้น จึงเปิดตัวในตลาดเมืองจีน เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2014 และในที่สุดก็มาเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2014 ให้หลังจากนั้น 1 ปี พอดิบพอดี ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2015 ก็ได้เปิดตัว X-Trail Hybrid ตามมาในไทย

ณ ตอนนี้ข่าวคราวของ X-Trail Minorchange ในประเทศไทย ยังคงเงียบอยู่ แต่บ้านใกล้เรือนเคียงของเรามีการเปิดตัวไปแล้ว เราลองไปส่องสเป็คของประเทศใกล้เคียงอย่าง ออสเตรเลียกันก่อน เปิดตัวไปเมื่อเดือน พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมา จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปชมกันเลยครับ

ดีไซน์ด้านหน้า ของ X-Trail / Rouge Minorchange สิ่งที่เห็นได้เด่นชัด ถึงความเปลี่ยนแปลงก็คือ กระจังหน้า และ ชุดกันชนหน้าใหม่ กระจังหน้า V-Shape ที่ขยายขนาดให้ใหญ่โตขึ้น คล้ายกับรุ่นพี่ Murano ส่วนไฟหน้าที่ดูเหมือนว่าจะทรงเดิม แต่ลองมองในรายละเอียดดีๆจะพบว่า มีการปรับเส้นสายของไฟหน้าเล็กน้อย เพิ่มขยัก และ เหลี่ยมมุม รวมถึงปรับภายในตัวโคม เป็นแบบ Projector Lens คู่ ตัวไฟ Daytime Running Light ในแนวนอนย่อขนาดลงให้กระชับมากขึ้น มาพร้อมระบบไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist (HBA) อีกด้วย

กันชนหน้าถูกออกแบบใหม่ ให้รับกับกระจังหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป เพิ่มเส้นสายเหลี่ยมมุม ให้ดูบึกบึนเปลี่ยนชุดไฟตัดหมอกคู่หน้า จากเดิมเป็นรูปทรงวงกลม ก็กลายเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวนอน มีการใช้แนวเส้นตั้ง ตัดรับลากยาวขึ้นไปที่มุมซ้าย-ขวา

ชายล่างของกันชนยังคงเป็นสีดำเหมือนเคย แต่แนวด้านข้างรถ มีการใช้แถบโครเมียม มาตกแต่งเพิ่มเติมลากยาวจาก ประตูหน้า – หลัง ล้ออัลลอยลายใหม่ สีทูโทน ขนาด 19 นิ้ว ยกมาจาก Qashqai ที่ขายในยุโรป

ส่วนด้านท้ายรถเปลี่ยนชุดกันชนหลังใหม่ เพิ่มพื้นที่ส่วนชายล่างกันชนยกขึ้นมา พร้อมคาดแถบโครเมียมเข้าไปตรงกลาง เสริมแนวสันเหลี่ยมมุมขอบกันชนซ้าย-ขวา ล้อดีไซน์ด้านหน้าไฟท้ายโคมสีรมดำปรับรายละเอียดในตัวโคมใหม่ แต่ยังคงลวดลายเดิมเอาไว้ ส่วนที่เป็นไฟหรี่มัลติรีเฟลกเตอร์ทรงบูมเมอแรง ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นแถบ LED

ภายในห้องโดยสารถูกปรับโทนสีใหม่ จากเดิมสีดำ เป็นโทนสีน้ำตาลอิฐเหมือนที่พบเห็นใน Crossover รุ่นน้องอย่าง Kicks พวงมาลัยที่หลายคนไม่ชอบดีไซน์เหมือนมดลูก หรือ ทรงกางเกงใน ก็ถูกเปลี่ยนเช่นกัน คาดว่านี่จะเป็นดีไซน์พวงมาลัยทรงสปอร์ตท้ายตัดใหม่ตกแต่งด้วยโครงสีเงินอลูมิเนียม ที่ถูกนำมาใส่รถ SUV / Crossover ของ Nissan ทุกๆรุ่นนับต่อจากนี้เป็นต้นไป

แผงแดชบอร์ดหน้ายังคงเป็นดีไซน์เดิม แต่เสริมความหรูหรามากขึ้น จากเดิมที่เป็นแถบลายคาร์บอน ก็เอาแผ่นหุ้มหนังสีน้ำตาลอิฐเหมือนเบาะนั่ง จัดการเดินตะเข็บด้ายมาแปะไว้แทนที่ วัสดุตกแต่งกรอบช่องแอร์จากขอบสีเงิน ถูกเปลี่ยนมาใช้ขอบสีดำเงา

เบาะนั่ง และ วัสดุหุ้มที่วางแขนแผงประตูต่างๆ รวมถึงคอนโซลกลาง ใช้โทนสีน้ำตาลอิฐ มีการหุ้มหนังสีเดียวกันนี้ที่บริเวณคอนโซลเกียร์เพิ่มเข้ามาจากรุ่นเดิม อีกทั้งหัวเกียร์เปลี่ยนดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา Piano Black และ ตัดด้วยเส้นสีเงิน ฐานเกียร์ก็เปลี่ยนใหม่เป็นแบบถุงหุ้มเช่นเดียวกัน

ตัวเบาะนั่งเย็บด้วยลวดลายใหม่ คล้ายแผงลวดให้ความร้อน ทั้งส่วนเบาะรองนั่ง และ พนักพิงหลังตัดขอบด้วยสีดำ เย็บตะเข็บด้ายสีน้ำตาลอิฐ ส่วนของวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารลายคาร์บอนก็ถูกลดทอนลายละเอียด เป็นวัสดุสีดำเงา Piano Black ทั้งหมด

สำหรับ Option ที่น่าสนใจของ X-Trail Minorchange เวอร์ชั่นออสเตรเลีย

  • ไฟหน้า Projector Lens คู่ แบบ LED ปรับระดับอัตโนมัติ
  • ไฟหน้าปรับองศาตามการเลี้ยว Adaptive Front-Lighting System
  • ระบบไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist
  • ไฟท้าย LED พร้อม LED Light Guide
  • หลังคากระจก Panoramic Sunroof เปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ Advanced Drive-Assist Display
  • กุญแจ Intelligent Key
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • เบาะนั่งปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง / ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง (ด้านคนนั่ง)
  • พวงมาลัยพร้อมระบบอุ่นมือ Heated Steering Wheel
  • ที่วางแก้วน้ำแบบรักษาอุณหภูมิ Heated and Cooled cup holders
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องแอร์ด้านหลัง
  • กล้องมองภาพ 360 องศา Around View Monitor
  • ระบบตรวจจับวัตถุรอบรถ Moving Object Detection
  • หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 7.0 นิ้ว
  • ระบบเสียงรอบทิศทาง BOSE 8 ลำโพง
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้มือ Motion-activated
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
  • ระบบรักษาความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Intelligent Cruise Control
  • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Vehicle Dynamic Control
  • ระบบป้องกันการลื่นไถลบนถนนลื่น Active Brake Limited Slip
  • ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติขณะถอนคันเร่ง หรือเข้าโค้ง Active Engine Brake
  • ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ Intelligent Ride Control
  • ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง Intelligent Trace Control
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist
  • ระบบช่วยลงทางลาดชัน Hill Descent Control
  • ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Emergency Braking with Pedestrian detection
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Warning
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับขณะถอยหลัง Rear Cross Traffic Alert
  • ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องจราจร Lane Departure Warning
  • ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร Intelligent Lane Intervention
  • ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง คู่หน้า – ด้านข้าง – ม่านนิรภัย

เครื่องยนต์ของ X-Trail Minorchange T32 เวอร์ชั่นออสเตรเลีย มีความน่าสนใจตรงขุมพลังใหม่ ที่มาประจำการ

Gasoline : 2.0 6MT

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส MR20DD 4 สูบ DOHC Direct Injection Twin C-VTC ขนาด 2.0 ลิตร 1,997 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.1 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.2 : 1 กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 200 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ปล่อย CO2 190 g./km.

Gasoline : 2.5 CVT

เครื่องยนต์เบนซิน รหัส QR25DE 4 สูบ DOHC Twin C-VTC ขนาด 2.5 ลิตร 2,488 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก 89.0 x 100.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 10.0 : 1 กำลังสูงสุด 171 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปล่อย CO2 183 – 192 g./km.

ไฮไลต์อยู่ที่ขุมพลังดีเซลใหม่ ที่มาประจำการใน X-Trail Minorchange มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ จากเดิม ดีเซล รหัส R9M ขนาด 1.6 ลิตร 130 แรงม้า 320 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 dCi แทน สเป็คมีดังต่อไปนี้

Diesel Turbo : 2.0 dCi CVT

เครื่องยนต์ดีเซล รหัส M9R 4 สูบ DOHC Commonrail ขนาด 2.0 ลิตร 1,995 ซีซี. เทอร์โบ กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 84.0 x 90.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 15.6 : 1 กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปล่อย CO2 158 – 162 g./km.

Nissan Australia เริ่มส่งมอบ X-Trail Minorchange เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 dCi ได้ในช่วงเดือน กันยายน 2017 นี้ โดยเครื่องยนต์ดีเซล ถูกวางตำแหน่งตลาดเอาไว้เป็นรุ่นท๊อปสุด (Top of the line) โดยค่าตัวนั้นแพงกว่าเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร อยู่ 3,000 AUD (หรือประมาณ 77,500 บาท)

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าหลายคนคงคิดในใจว่า อ้าว ! ออสเตรเลียเปิดแล้ว ไทยก็ต้องเร็วๆนี้สิ เพราะน่าจะนำเข้าจากไทย ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยครับ เพราะ X-trail ที่ผลิตขายในบ้านเรานั้น ผลิตสำหรับไทยเท่านั้น ไม่ได้ส่งออกไปที่ไหน ดังนั้นจึงต้องรอติดตามกันต่อไป ว่าจะมาทำตลาดในไทยหรือไม่สำหรับ X-Trail Minorchange

ส่วนตัวคิดว่าขอเชียร์ให้ Nissan Thailand เอารุ่น Minorchange มาทำตลาดต่อ เพราะ X-Trail นั้น ตัวรถเองมีความน่าสนใจ และสามารถแข่งขันในตลาดกลุ่มนี้ได้เป็นอันดับต้นๆ เมื่อปี 2015 ยอดขายเกือบแซงเจ้าตลาดอย่าง Honda CR-V ได้แบบตามติด จะได้เกิดการแข่งขัน และ มีทางเลือกให้ผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น

 

ที่มา : Nissan Australia