ปี 2017 จะเป็นปีที่ประวัติศาสตร์ยานยนต์โลกต้องจารึก เพราะปีนี้จะเป็นปีที่ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกพร้อมใจกันเปิดตัว B-SUV มากที่สุดโดยมิได้นัดหมายล่วงหน้าแต่อย่างใด และถ้าใครพลาดการเปิดตัวรถยนต์ B-SUV ในปีนี้แล้วล่ะก็บอกได้เลยว่า ค่ายนั้นคงจะพลาดโอกาสในการทำตลาดไปอีกนาน

Hyundai-Kia ก็เป็นอีกค่ายหนึ่งที่เตรียมความพร้อมในการเปิดตัว B-SUV มานานแสนนานเหมือนกัน ทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาไปจนถึงพยายามออกรถต้นแบบต่าง ๆ เพื่อค้นหาทิศทางการออกแบบใหม่ ๆ จนกระทั่ง Hyundai เปิดตัว Kona ที่นำเอาแพลทฟอร์ม i30 มาพัฒนาต่อยอด

และล่าสุด Kia ก็ได้ฤกษ์เปิดตัว Kia Stonic แล้วในวันนี้

Kia ระบุว่า Stonic เป็นรถแบบ Compact Crossover ที่มีรูปแบบดีไซน์คล้ายคลึงกับ SUV มีสายตาที่น่าดึงดูดและมีบุคลิกที่มาดมั่น และ Kia Stonic จะเป็น 1 ในหัวหอกสำคัญของ Kia ภูมิภาคยุโรปเนื่องจากตลาดรถยนต์ครอสโอเวอร์กำลังมาแรงมากในยุโรป

สิ่งที่น่าสนใจคือยอดขายรถยนต์ B-SUV ในยุโรปมีจำนวนมากถึง 1.1 ล้านคันต่อปี มีสัดส่วนมากถึง 7% เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ประเภทอื่น ๆ และมีแนวโน้มว่าตลาด B-SUV จะมียอดขายพุ่งสูงถึง 2 ล้านคันภายในปี 2020 ดังนั้น จังหวะการเปิดตัวของ Kia Stonic อยู่ในจังหวะที่ดีเอามาก ๆ

จุดขายของ Kia Stonic นอกเหนือจากดีไซน์ภายนอกที่น่าดึงดูดแล้ว การรับประกันตัวรถในแบบฉบับ Kia, คุณภาพตัวรถที่ขึ้นชื่อว่ามีคุณภาพ ไว้ใจได้ ทนทาน และมีดีไซน์ร่วมสมัยก็เป็นองค์ประกอบส่งเสริมให้ Kia Stonic ประสบความสำเร็จจนกลายเป็น 1 ในรุ่นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดของ Kia ในอนาคต

Michael Cole ซีโอโอ Kia Motors ยุโรป เปิดเผยข้อมูลว่า ตลาด B-SUV จะมีโอกาสขยายตัวจนมียอดขายมากกว่า C-SUV ภายในปี 2020 รถยนต์ B-SUV มีโอกาสที่จะได้ลูกค้าวงกว้างมากกว่า โดย 21% มาจากลูกค้าที่เคยรถยนต์ซูเปอร์มินิ (B-Segment มาตรฐาน) และอีก 15% จะเป็นการดาวน์เกรดจากลูกค้าที่เคยรถยนต์ขนาดคอมแพคท์ และนอกจากนี้ Kia Stonic ยังสามารถดักลูกค้าที่กำลังมองหารถใหม่มาแทนที่มินิแวนคันเก่าอีกด้วย

จุดขายด่านแรกคือดีไซน์ภายนอกที่มีจุดจดจำด้วยกระจังหน้า Tiger Nose แบบใหม่, ประยุกต์เส้นเฉียบคมให้เข้ากับพื้นผิวตัวถังที่ดูอ่อนละมุน จุดเด่นที่แตกต่างจากค่ายอื่นคือการออกแบบสีสันตัวรถทูโทนแบบ Targa-Roof แตกต่างจาก Floating Roof ทั่ว ๆ ไป

ภายในห้องโดยสารใช้ชิ้นส่วนร่วมกับ Kia Rio ใหม่เป็นจำนวนมาก แต่เปลี่ยนการตกแต่งและวัสดุภายในที่ดูอัพเกรดขึ้น เน้นสีสันของภายในให้สอดคล้องกับภายนอก โดยหน้าจอสัมผัสรองรับ Apple Carplay, Android Auto และการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนโดยตรงได้

แม้ Kia Stonic เกิดมาในยุคที่แม้ผู้ผลิตรถฝรั่งก็พยายามชูจุดขายด้านความกว้างขวางของภายในห้องโดยสาร แต่ Stonic ก็ยังมีจุดเด่นด้านนี้ด้วยเช่นกันคือ Kia เคลมว่ารถคันนี้มันมีเนื้อที่หัวไหล่ใหญ่ที่สุดในบรรดารถระดับเดียวกัน พร้อมพื้นที่วางขาและเนื้อที่เหนือศีรษะอันโอ่โถง และมีห้องสัมภาระท้ายที่จุได้ 352 ลิตร

นอกจากนี้ยังติดตั้งออพชั่นเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม อาทิ เบาะนั่งคู่หน้าสามารถปรับอุ่นได้, Cruise Control และระบบ Keyless Entry

Kia Stonic ถูกจูนช่วงล่างและพวงมาลัยเพื่อเอาใจรสนิยมชาวยุโรปโดยเฉพาะ รองรับการขับขี่อันน่าตื่นเต้น, มีการบังคับควบคุมที่เฉียบคมและสามารถขับขี่อย่างมีเสถียรภาพได้ โดยติดตั้งระบบช่วยเหลือการทรงตัว Electronic Stability Control (ESC) และระบบจัดการการทรงตัวของรถ Vehicle Stability Management (VSM) ที่ประกอบไปด้วย

  • ระบบควบคุมการทรงตัวโดยอาศัยเบรกช่วย
  • ระบบเพิ่มความเสถียรภาพขณะวิ่งทางตรง
  • ระบบควบคุมการเข้าโค้งด้วยเบรก
    ให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่น

Kia Stonic มีเครื่องยนต์ให้เลือก 4 แบบ ดังนี้

  • เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว 998 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 71 x 84 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.1 : 1 T-GDI (Turbocharger Gasoline Direct Injection) 120 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 172 นิวตัน-เมตร (17.52 กก.-ม.) ที่ 1,500 – 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 10.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 185 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,248 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 71 x 78.8 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.5 : 1 หัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ 84 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 122 นิวตัน-เมตร (12.43 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 13.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 165 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,368 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 72 x 84 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.5 : 1 หัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ 99 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 133 นิวตัน-เมตร (13.55 กก.-ม.) ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 12.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 172 กิโลเมตร/ชั่วโมง
  • Diesel 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1,582 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก 77.2 x 84.5 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.1 : 1 CRDI (Common-Rail Direct Injection) พ่วง Turbocharger 110 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร (26.49 กก.-ม.) ที่ 1,500 – 2,750 รอบ/นาที จาก Kia C’eed ในตลาดยุโรป ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 11.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ตัวรถถูกสร้างขึ้นบนแพลทฟอร์มที่แข็งแกร่ง, ปลอดภัยและน้ำหนักเบา โดยใช้เหล็กกล้าทนต่อการบิดตัวสูงพิเศษมากถึง 51% ทำให้มั่นใจได้ว่าโครงสร้างตัวถังสามารถรองรับการขับขี่ด้วยความมั่นใจ, ผู้โดยสารต่างรู้สึกสะดวกสบายและสามารถขับขี่ในทุกสภาวะ

พิเศษสุด Kia Stonic ยังติดตั้งระบบช่วยเหลือความปลอดภัย Active Safety เพิ่มเติม อาทิ

  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ
  • ระบบเตือนจุดบอดพร้อมระบบเตือนกำลังจะกีดขวางขณะถอยหลัง
  • ระบบเตือนหากมีการเปลี่ยนเลนกะทันหัน
  • ระบบเปิด-ปิด ไฟสูงอัตโนมัติ
  • ระบบเชคความพร้อมของผู้ขับขี่

Kia มอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้าที่ซื้อ Stonic ด้วยการรับประกันตัวรถยาวนานถึง 7 ปีหรือ 100,000 ไมล์

Kia Stonic พร้อมส่งขึ้นโชว์รูมทั่วยุโรปภายในไตรมาส 3 ของปี2017 นี้

ที่มา : Motor1