Mercedes-Benz S-Class ถือเป็น Flagship Model ที่แทบทุกคนรู้จัก ด้วยชื่อชั้นที่สะสมมาอย่างยาวนาน ชื่อของ S-Class นั้น ในภาษาเยอรมัน “ S-Klasse ” ย่อมาจาก “ Sonderklasse ” หรือ Special Class เริ่มรุ่นแรกเมื่อปี 1972 หรือกว่า 47 ปีมาแล้ว เริ่มแรกผลิตที่ Sindelfingen, Germany สำหรับ Mercedes-Benz แล้ว S-Class ถือเป็นรุ่นสำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางงานออกแบบ และ เทคโนโลยีต่างๆ สำหรับรุ่นที่เล็กลงมาจาก E-Class หรือ C-Class รุ่นถัดไปอีกด้วย

วันนี้ 2 กันยายน 2020 Daimler AG ได้ฤกษ์เปิดตัว The All New Mercedes-Benz S-CLASS อย่างเป็นทางการ โดยใช้รหัสตัวถัง W223 นับเป็น รุ่นที่ 7 ของตระกูล S-Class

  • 1st Generation | ปี 1972 : W116
  • 2nd Generation | ปี 1979 : W126
  • 3rd Generation | ปี 1991 : W140
  • 4th Generation | ปี 1998 : W220
  • 5th Generation | ปี 2005 : W221
  • 6th Generation | ปี 2013 : W222
  • 7th Generation | ปี 2020 : W223

Highlights สำคัญของ All NEW Mercedes-Benz S-Class W223

  • Rear Airbags ถุงลมนิรภัยด้านหน้า สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ครั้งแรกในโลก

มีการติดตั้งถุงลมนิรภัยด้านหน้า สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มาใช้เป็นครั้งแรกของโลก โดยติดตั้งไว้ที่ด้านหลังของเบาะคู่หน้ามีลักษณะเป็นรูปทรงตัว U ทำงานเมื่อมีการชนด้านหน้า โดยถุงลมนี้แตกต่างจากถุงลมนิรภัยด้านหน้าทั่วไป และ สามารถทำงานร่วมกับเบาะนั่งเด็ก (Child’s Seat) ได้

  • PRE-SAFE Impulse Side function ระบบตรวจจับความเป็นไปได้ ที่มีรถจะมาชนด้านข้าง

เซนเซอร์เรดาร์ในการตรวจจับความเป็นไปได้ ที่จะถูกชนด้านข้าง หากพบระบบจะปรับเบาะผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร ให้เอนจนคนนั่งไหลเข้ามาทางกลางรถ เพื่อเพิ่มระยะห่างของคนจากประตูฝั่งที่มีโอกาสถูกชน พร้อมกันนี้ระบบจะสั่งการให้ E-Active Body Control ยกความสูงของช่วงล่างขึ้นทั้งหมด เตรียมรับแรงปะทะ เพื่อให้ส่วนของตัวถังที่แข็งแรงกว่าซึ่งอยู่ใต้พื้นรถ ซับแรงชนให้ได้มากที่สุด



Highlights สำคัญของ All NEW Mercedes-Benz S-Class W223

  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Lights ประกอบด้วย LED จำนวน 250 หลอด
  • ระบบเลี้ยว 4 ล้อ Rear-Axle ทำให้วงเลี้ยวแคบลงกว่าเดิมถึง 2 เมตร
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียง Hey Mercedes รองรับ 27 ภาษา
  • ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester high-end 4D Surround Sound 31 ลำโพง
  • ระบบมอเตอร์ที่ควบคุมเบาะนั่งรวมทั้งหมด 19 ตัว
    • 8 ตัว สำหรับปรับองศา
    • 4 ตัว สำหรับระบบนวด
    • 5 ตัว สำหรับระบบระบายอากาศ
    • 1 ตัว สำหรับ ระบบดันหลัง
    • 1 ตัว สำหรับการปรับหน้าจอของเบาะนั่ง
  • ระบบโปรแกรมนวดเบาะนั่ง 10 รูปแบบ

Highlights สำคัญของ All NEW Mercedes-Benz S-Class W223

  • ระบบไฟหน้า DIGITAL LIGHT ประกอบด้วย LEDs ข้างละ 1.3 ล้าน micro-mirrors
  • รุ่น Plug-in Hybrid วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทางสูงสุด 100 กิโลเมตร
  • ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย เพิ่มขึ้น 20 ลิตร เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม รวมเป็น 550 ลิตร
  • ค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทาน ต่ำเพียง cd = 0.22
  • ระบบ E-ACTIVE BODY CONTROL ปรับตัวถังให้สูงขึ้นสูงสุด 80 มิลลิเมตร
  • ระบบประมวลผลของ E-ACTIVE BODY ประเมินสภาพถนน ปรับช่วงล่าง 1,000 ครั้ง ต่อวินาที
  • ระบบปรับอากาศ แยกอิสระ 4-Zones Climate Control
  • ระบบหน้าจอกลาง OLED 239.06 x 218.8 mm. ขนาด 12.8 นิ้ว
  • หน้าจอมาตรวัด OLED 291.6 x 109.4 mm. ขนาด 12.3 นิ้ว

beige/magma grey

Engine เครื่องยนต์

S 450 4MATIC

เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง รหัส M256 ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. กำลังสูงสุด 367 แรงม้า ที่ 5,500 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic พ่วงระบบ EQ Boost 22 แรงม้า เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน

S 500 4MATIC

เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง รหัส M256 ขนาด 3.0 ลิตร 2,999 ซีซี. กำลังสูงสุด 435 แรงม้า ที่ 5,900 – 6,100 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 520 นิวตันเมตร ที่ 1,800 -5,500 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic พ่วงระบบ EQ Boost 22 แรงม้า เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน

S 350d / S 350d 4MATIC

เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ รหัส OM656 ขนาด 3.0 ลิตร 2,925 ซีซี. พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า ที่ 3,400 – 4,600 มิลลิเมตร แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1,200 – 3,200 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic

S 400d 4MATIC

เครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบ รหัส OM656 ขนาด 3.0 ลิตร 2,925 ซีซี. พละกำลังสูงสุด 330 แรงม้า ที่ 3,600 – 4,200 มิลลิเมตร แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร ที่ 1,200 – 3,200 รอบ/นาที จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ 9G-Tronic


รายละเอียดเพิ่มเติมของ All NEW Mercedes-Benz S-Class W223 ติดตามได้เร็วๆนี้ ทาง Headlightmag.com