Ferrari 812 GTS

ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU)

  • 812 GTS  เริ่มต้น 34,700,000 บาท

โดย Cavallino Motors Co. Ltd, ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ Ferrari อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ และ โปรแกรมบริการดูแลรักษา 7 ปี ตามระยะทาง 20,000 กิโลเมตร หรือ ปีละ 1 ครั้ง

Engine เครื่องยนต์

เครื่องยนต์เบนซิน V12 สูบ ขนาด 6.5 ลิตร 6,496 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 94.0 x 78.0 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.6 : 1  กำลังสูงสุด 800 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 718 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ Dual Clutch 7 จังหวะ

ตัวเลขจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายในเวลาต่ำกว่า 3 วินาที
  • อัตราเร่ง 0-200 km/h ภายใน 8.3 วินาที
  • Top Speed ความเร็วสูงสุด 340 km/h

Dimension มิติตัวถัง

  • ยาว  4,693 มิลลิเมตร
  • กว้าง  1,971 มิลลิเมตร
  • สูง  1,276 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase  2,720 มิลลิเมตร
  • ที่เก็บสัมภาระ  210 ลิตร
  • อัตราส่วนกระจายน้ำหนักหน้า-หลัง  47% – 53%
  • ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 92 ลิตร

หลังคาแข็งแบบพับเก็บได้ (RHT – Retractable Hard Top) ใช้เวลาเพียง 14 วินาทีในการเก็บเข้าที่ และ ทำงานได้ขณะรถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุด 45 km/h กระจกหลังควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า

812 GTS มาพร้อมกับล้อ Forged น้ำหนักเบา มีให้เลือก 3 สี คือ Diamond-Finish, Liquid Silver และ Grigio Scuro

  • ล้อคู่หน้า ขนาด 20 นิ้ว 10J x 20″ พร้อมยาง 275/35 ZR20
  • ล้อคู่หลัง ขนาด 20 นิ้ว 11.5J x 20″ พร้อมยาง 315/35 ZR20
  • เบรกหน้า ขนาด 398 มิลลิเมตร หนา 38 มิลลิเมตร
  • เบรกหลัง ขนาด 360 มิลลิเมตร หนา 32 มิลลิเมตร

ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยแรงดันสูง ทำให้เชื้อเพลิงที่ฉีดพ่นออกมา เป็นฝอยละอองขนาดเล็กมากขึ้น ขณะที่ตัวกรองอนุภาคน้ำมันเบนซิน (GPF – Gasoline Particulate Filter) รวมถึงระบบ Stop & Start On the Move จะหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ขณะรถจอด และ ติดเครื่องโดยอัตโนมัติอีกครั้งเมื่อรถต้องเคลื่อนที่ ปรับปรุงการทำงานของโหมดต่างๆ ในระบบ Manettino แรงบิดมีให้ใช้งานที่รอบต่ำเพียง 3,500 รอบ/นาที

ระบบระบายไอเสียได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่ม และ ปรับสมดุลของเสียงเครื่องยนต์ และ เสียงที่ดังออกมาจากปลายท่อ สร้างสรรค์เสียงคำรามที่ดุดันสไตล์สปอร์ต ทุกท่อของท่อร่วมไอเสียแบบ 6-1 (6 ท่อ รวมเข้ามาเป็น 1 ท่อ) ก่อนต่อมายังตัวกรองไอเสีย

  • Ferrari Peak Performance (FPP) : ในขณะกำลังเข้าโค้ง แรงหน่วงจากพวงมาลัยจะช่วยให้ผู้ขับขี่ทราบว่ารถกำลังเข้าใกล้ขีดจำกัดของการยึดเกาะถนน ช่วยให้ระบบควบคุมเสถียรภาพต่างๆ เริ่มทำงาน
  • Ferrari Power Oversteer (FPO) – ในกรณีที่เกิดอาการท้ายปัด (Oversteer) ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อเร่งออกจากโค้ง พวงมาลัยจะหน่วงกลับไปยังทิศทางที่ถูกต้องสอดคล้องกับทิศทางของรถ