Toyota Corolla ALTIS 1.8 Hybrid High (TNGA)

ราคาอย่างเป็นทางการ

  • 1.8 Hybrid High  1,099,000 บาท

มาพร้อมเงื่อนไข Ultimate Ownership การรับประกันตัวรถ, ระบบ Hybrid

  • ทุกรุ่น ฟรีค่าแรงเช็คระยะ นาน 5 ปี
  • ทุกรุ่น ขยายเวลารับประกันคุณภาพรถใหม่ Warranty เป็น 5 ปี หรือ 150,000 กม.
  • รุ่น Hybrid รับประกันระบบ Hybrid นาน 5 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง
  • รุ่น Hybrid รับประกันแบตเตอรี่ Hybrid 10 ปี โดยไม่จำกัดระยะทาง

Dimension มิติตัวถัง

All NEW Toyota Corolla Altis (TNGA Platform)

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,630 x 1,780 x 1,435 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,700 มิลลิเมตร
  • ระยะห่างล้อคู่หน้า / คู่หลัง :
  • ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย : 470 ลิตร

Toyota Corolla Altis (รุ่นปัจจุบัน)

  • ยาว x กว้าง x สูง : 4,620 x 1,775 x 1,460 มิลลิเมตร
  • ระยะฐานล้อ wheelbase : 2,700 มิลลิเมตร

All NEW Corolla Altis (TNGA) เมื่อเทียบกับรุ่นเดิมพบว่า ยาวขึ้น 10 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 5 มิลลิเมตร เตี้ยลง 25 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อเท่าเดิม

Engine เครื่องยนต์

เบนซิน 1.8 Hybrid

เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ รหัส 2ZR-FXE Atkinson cycle ขนาด 1.8 ลิตร 1,798 ซีซี. VVT-i กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 13.0 : 1 ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้า ที่ 5,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตร ที่ 3,600 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor แรงดันไฟฟ้า 600 โวลต์ ให้กำลังสูงสุด 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร แบตเตอรี่แบบ Nickel metal Hydride (Ni-MH) แรงดันไฟฟ้า 201.6 โวลต์ 28 Modules 6.5 Ah

รวมพละกำลังจากทั้งเครื่องยนต์ และ มอเตอร์ไฟฟ้าให้ กำลังสูงสุด 122 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ แบบ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า ความจุถังน้ำมัน 43 ลิตร

1.8 Hybrid High  1,099,000 บาท

Engine & Engineering เครื่องยนต์ และ งานวิศวกรรม

  • เครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า 122 แรงม้า
  • รองรับน้ำมันสูงสุด E20
  • เกียร์อัตโนมัติ E-CVT
  • ช่วงล่างด้านหน้า : MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ช่วงล่างด้านหลัง : Multi-link Double Wishbone พร้อมเหล็กกันโคลง
  • ดิสก์เบรกหน้า / ดิสก์เบรกหลัง
  • พวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า EPS

Exterior ภายนอก

  • ล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 225/45 R17
  • ล้ออะไหล่แบบ Full Size
  • ไฟหน้า Projector Lens LED แบบรุ่น Hybrid
  • ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ
  • ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ
  • ไฟ Daytime Running Light แบบ LED
  • ระบบไฟหน้า Follow-me-home
  • ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED
  • ไฟท้าย Full LED
  • กระจกบังลมหน้า แบบกันเสียงรบกวน Acoustic Glass
  • ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor
  • กระจังหน้าสีดำเงา Piano Black
  • มือเปิดประตูภายนอก แบบโครเมียม
  • กระจกมองข้าง พร้อมไฟเลี้ยวในตัว
  • กระจกมองข้าง ปรับและพับ ด้วยไฟฟ้า
  • กระจกมองข้าง ปรับระดับอัตโนมัติ เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง
  • กระจกมองข้าง พับเก็บอัตโนมัติ เมื่อล็อครถ

Interior ภายในห้องโดยสาร

  • ภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ
  • วัสดุตกแต่งแผงประตูสีดำเงา Piano Black / สีเงิน
  • วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสาร สีดำเงา Piano Black
  • พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง (ขึ้น-ลง-เข้า-ออก)
  • พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง
  • หัวเกียร์หุ้มด้วยหนัง
  • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
  • ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
  • ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
  • ระบบปรับสมดุลในอากาศ Nanoe
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up Display
  • ชุดมาตรวัด Optitron แบบครึ่งวงกลม
  • หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แบบสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
  • ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
  • ช่องชาร์จไฟ USB ด้านหน้า
  • ช่องชาร์จไฟ USB ที่เก็บของคอนโซลกลาง
  • ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charging
  • กระจกหน้าต่างไฟฟ้าขึ้น-ลงอัตโนมัติ 4 บาน พร้อมระบบป้องกันการหนีบ
  • ม่านบังแดดที่กระจกบังลมหลัง
  • ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
  • ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB
  • ระบบ Auto Brake Hold
  • ที่บังแดดคู่หน้า พร้อมกระจก และ ไฟส่องสว่าง

Seating เบาะนั่ง

  • เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสีดำ
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า
  • เบาะนั่งคนขับ ปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support
  • เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
  • ที่วางแขนตรงกลางเบาะนั่งด้านหลัง
  • ช่องใส่เอกสารด้านหลังเบาะนั่งคนขับ
  • ช่องใส่เอกสารด้านหลัง เบาะผู้โดยสารตอนหน้า
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า
  • เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับดันหลังไฟฟ้า Lumbar Support


Entertainment ระบบความบันเทิง

  • สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย
  • เครื่องเสียงวิทยุ AM/FM CD
  • หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว
  • รองรับ Apple CarPlay / Android Auto
  • ช่องเชื่อมต่อ USB
  • ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth
  • ลำโพง 6 ตำแหน่ง
  • ระบบนำทาง Navigation System
  • ระบบ T-Connect Telematics
    • Find My Car เช็คตำแหน่งตัวรถผ่าน Application Find My Car หรือ Apple Watch
    • Service Reminder ระบบแจ้งเตือนการบำรุงรักษารถยนต์ เมื่อถึงรอบตามระยะ
    • Service Appointment บริการนัดหมายเข้าศูนย์บริการผ่านระบบออนไลน์
    • My Message แจ้งข่าวสาร ข้อมูลส่วนลด พร้อมสิทธิพิเศษจากโครงการ Toyota Privilege
    • Parking Alert ระบบแจ้งเตือนผ่าน Notification เมื่อรถถูกสตาร์ท หรือ เคลื่อนที่
    • Stolen Vehicle Tracking ระบบตรวจสอบตำแหน่งรถยนต์ เมื่อถูกโจรกรรม
    • My Toyota Wi-Fi กระจายสัญญาณ เชื่อมต่อความบันเทิงได้พร้อมกันสูงสุด 9 อุปกรณ์
    • OPS (Operation Service) ผู้ช่วยค้นหาเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการจองร้านอาหาร
    • SOS ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง
    • Roadside Service บริการประสานงานไปยังผู้แทนจำหน่ายใกล้เคียง เพื่อขอรับความช่วยเหลือบนท้องถนน
    • Health บริการประสานงานแจ้งเหตุฉุกเฉินด้านการแพทย์ โดยการส่งตำแหน่งที่คุณอยู่ไปยังสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)


 

Safety ระบบความปลอดภัย

  • ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ABS
  • ระบบกระจายแรงเบรก EBD
  • ระบบเสริมแรงเบรก BA
  • ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
  • ระบบป้องกันการลื่นไถล TRC
  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC
  • ระบบไฟฉุกเฉินเมื่อเบรกกะทันหัน ESS
  • ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM
  • ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถตัดผ่านขณะถอยหลัง RCTA
  • ระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง TPMS
  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beam Control
  • ระบบเตือนเมื่อผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า Driver Assist Alert
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน และ เบรกอัตโนมัติ Pre-Collision System
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมหน่วงพวงมาลัยอัตโนมัติ Lane Departure Warning With Steering Assist
  • ระบบประคองรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Tracing Assist
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-Speed
  • ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง
    • คู่หน้า 2 ตำแหน่ง
    • ด้านข้าง 2 ตำแหน่ง
    • ม่านนิรภัย 2 ตำแหน่ง
    • หัวเข่าคนขับ 1 ตำแหน่ง
  • กล้องมองภาพขณะถอยจอด
  • ระบบกุญแจ Immobilizer
  • เซนเซอร์กะระยะช่วยจอด ด้านหลัง

สีตัวถังภายนอก มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี

  • สีน้ำตาล Phantom Brown
  • สีดำ Attitude Black
  • สีเงิน Silver Metallic
  • สีแดง Red Mica
  • สีเทา Celesite Gray
  • สีขาวมุก White Pearl

อัตราเร่ง Toyota Corolla Altis Hybrid High

Normal Mode

  • อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 10.96 วินาที
  • อัตราเร่ง 80-120 km/h ภายใน 7.79 วินาที

Top Speed

  • ความเร็วสูงสุด 173 km/h @ – (locked)

Toyota Corolla Altis Hybrid High  1,099,000 บาท

Short Review by Pan Paitoonpong

ในขณะที่ Mazda 3 ทำตัวเหมือน Superstar ที่เจิดจรัสท่ามกลาง Spotlight อีกฝั่ง Toyota Coroll Altis Hybrid ดูเหมือนคนที่ชอบมีชีวิตอยู่เงียบๆในมุมของตนเอง พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อยู่ในมุมที่ห่างจากกล้อง และ ไมโครโฟนของผู้สื่อข่าว น่าตลกก็คือความเป็นจริง เรามีคนแบบนี้อยู่รอบตัวเรามากกว่าเหล่าดารา, Celeb หรือ บุคคลในแวดวงสังคม เพียงแต่เราอาจจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเขาเท่าไหร่นัก

Altis Hybrid รุ่นใหม่ มีหน้าตาที่ดูคมคายดุดันขึ้น สังเกตได้ว่าผู้ออกแบบพยายามให้ตัวรถมีมาดที่คล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง มากกว่ารุ่นเดิม แต่ก็ยังไม่วายรักษาเอกลักษณ์หลักของ Toyota คือ หน้าโฉบ ท้ายเฉี่ยว แต่ส่วนกลางลำตัวจืดสนิท แถมยังดูแล้วพาลนึกถึง Altis รุ่นที่แล้วเสียด้วยซ้ำ ยังดีที่รุ่น Hybrid ได้ล้อ 17 นิ้ว แต่ไม่ต้องใส่ชุดกันชนหน้า หรือ กระจังหน้าสไตล์เดียวกับรุ่น GR Sport ทำให้มันยังหามุมมองสวยๆสำหรับการถ่ายภาพได้บ้าง

ส่วนภายในห้องโดยสารนั้น จืดเช่นกัน แม้ว่าจะมีความพยายามเล่นลวดลายบนแดชบอร์ดให้ดูหวือหวา อย่างไรก็ตาม มันเป็นรถที่คุณสามารถขึ้นลงได้ง่ายกว่า Mazda 3 และ แน่นอนว่า การออกแบบภายใน ก็ทำให้รถที่ขนาดตัวเท่ากัน มีพื้นที่สำหรับการขยับตัวเปลี่ยนอิริยาบทได้มากกว่า ทั้งนี้ ผมก็ไม่อยากมองมันเป็นพัฒนาการที่ดีไปเสียหมด เพราะรุ่นเก่า มีเบาะที่นั่งสบายกว่า พนักพิงศีรษะดันหัวน้อยกว่า มีพื้นที่เหนือศีรษะสำหรับผู้โดยสารหลังมากกว่า ยิ่งถ้าพูดเรื่องการเก็บเสียงแล้ว อยากจะบอกว่าถอยหลังลงจากรุ่นเดิม เพราะเสียงลม และ เสียงยางดังเข้ามามากกว่าคู่แข่ง

ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรดีใน Altis Hybrid ใหม่ แต่ถ้าได้ลองสัมผัสช่วงล่าง และ การขับขี่ คุณอาจจะหันกลับมามองมัน Toyota ไม่เคยทำช่วงล่างได้ดีใกล้เคียง Mazda ขนาดนี้มาก่อน มีความนุ่มนวลมากกว่า Mazda และ อยู่ในระดับที่สามารถพาคนชรานั่งโดยสารไปด้วยได้ ในขณะเดียวกัน ก็สามารถควบคุมอาการยุบยวบระหว่างหักเลี้ยวได้ดี วิ่งมา 120 km/h แล้วเจอนน้องหมาตัดหน้า คุณกระทืบเบรกเต็มพร้อมหักหลบได้อย่างมั่นใจ แถมยังเป็นรถที่เล่นกับโค้งได้สนุก หน้ากับท้าย บาลานซ์ทิศทาง และ การไถลได้ดี แต่เมื่อเทียบกับ C-HR อาจจะไม่ได้ดีต่างกันมากอย่างที่คาดหวังจากบอดี้ที่เตี้ยกับยางที่แก้มบางกว่า

น้ำหนักพวงมาลัยออกจะเบา และมีช่วงฟรีในบางจังหวะ เหมือนกับทำมาเพื่อเอาใจสุภาพสตรี ไม่คมเท่า Mazda และไม่หน่วงมือเท่า C-HR เวลาวิ่งความเร็วสูงก็กลับมีระยะฟรีน้อย หักนิดเดียวถลาไปทั้งลำ นักขับสายมุดจะชอบ แต่คนขับทางไกลเร็วๆอาจจะเกร็งบ้าง แป้นเบรกให้ความรู้สึกเหมือนเหยียบฟองน้ำแบบรถไฮบริด อาการไหลบ้างหน่วงบ้างตามอารมณ์ก็ยังมีให้เห็น แค่ไม่ถึงขั้นแย่จนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ

อัตราเร่งที่ได้จากขุมพลัง 1.8 Hybrid ใน Corolla Altis ทำตัวเลขออกมาได้สวยกว่า C-HR Hybrid แบบรู้สึกได้ มันเป็นความแรงแบบที่ไม่ได้ถึงกับกดมิดแล้วยิ้ม แต่ถ้าคุณขับ C-HR Hybrid มาก่อน แล้วบ่นว่าไม่ค่อยทันใจ มาขับ Altis Hybrid คุณจะพบว่ามันดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ แม้ว่าตัวเลขผลรวมพละกำลังจะเท่ากันก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ถ้ากดคันเร่งแบบน้อย หรือแบบครึ่งๆกลางๆ จะกลับกลายเป็นว่ามีแรงดี ทะยานเหมือนรถความจุ 2.0 – 2.2 ลิตร ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า การวัดอัตราเร่งค่อนข้างลำบากมากสำหรับ Altis Hybrid เพราะบางครั้งช้า บางครั้งเร็ว บางครั้งแม้แบตจะมีเกือบเต็มหม้อ แต่กลับเร่งแล้วช้า เข้าใจว่า ECU คุมเครื่อง อาจพิจารณาจากพฤติกรรมการขับ และ ความร้อนของระบบ Hybrid ประกอบไปด้วย ไม่ใช่ว่าไฟเต็มหม้อ แล้วจะแรงเสมอไป ใน C-HR คุณได้ตัวเลขอัตราเร่ง 12.xx วินาที แต่ใน Altis คุณจะเห็น 10.xx วินาทีอย่างแน่นอน

อุปกรณ์ต่างๆ มีมาให้ในระดับที่สูสีคู่แข่ง ไม่มีกล้องรอบคัน ไม่มีเครื่องเสียงพรีเมียมคุณภาพดีๆแบบ Mazda แต่อุปกรณ์ระบบช่วยการขับขี่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเตือนรถในมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) หรือ ระบบเตือนการชน มีมาให้ครบหมด ในราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งเกือบ 1 แสนบาท+ ใช่ครับ คุณฟังไม่ผิด Toyota ให้ Option มากกว่าคู่แข่ง และ ยังขายถูกกว่า มันเป็นผลจากการใช้ขุมพลัง Hybrid ทำให้ราคา และ อุปกรณ์ออกมาน่ารัก สมเหตุสมผล

และ ที่ชอบมากคือระบบ Radar Cruise Control All-Speed ที่สามารถปรับความเร็วได้จนกระทั่งเหลือ 0 km/h มีระบบ Stop and Go ซึ่ง Mazda จะไม่มี ดังนั้น ในถนนเปิดโล่ง ทางโค้งและ ภูเขา Mazda อาจจะชนะ แต่ในยามรถติดหรือขยับสลับหยุดที่คุณไม่มีสิทธิ์จะหาความสนุก Toyota กลับเป็นรถที่สบายกว่า เพราะ มีระบบนี้มาให้

ในภาพรวม เมื่อเทียบกับรถของคู่แข่งในระดับราคาใกล้เคียง Altis Hybrid เป็นรถที่มีจุดเด่นเรื่องช่วงล่างที่ดีกว่า Civic มาก และ ไม่แข็งเท่า Mazda 3 แต่หักหลบฉุกเฉินได้ดีไม่แพ้ Mazda 3 มีความประหยัดเชื้อเพลิงที่ได้จากขุมพลัง Hybrid ขับเหยียบๆเร่งเต็มที่บ้าง แช่ 120 km/h บ้าง แถมเจอรถติดยังเห็น 15 – 16 km/l ได้ง่ายดาย เป็นรถที่ใช้ง่าย เข้าใจง่าย มีรูปแบบต่างๆดูเรียบอนุรักษ์นิยม มันคือรถที่เหมาะสำหรับลูกค้าประเภทคนทั่วไป ต้องการรถสักคันที่ประหยัดน้ำมัน เร่งได้อย่างสบายใจ แอร์เย็น (และ มีฮีตเตอร์แล้ว) ขับสบายในวันที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน แต่ถ้าเป็นสายบู๊ หรือนักแต่งรถ ชีวิตคุณจะมีความสุขกับ Mazda 3 หรือ Honda Civic Turbo มากกว่า


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/73482.0