Sales Report เจาะลึกยอดขายรถยนต์ ตุลาคม 60 แบ่งตาม Segment

สถิติยอดขายรถยนต์ภายในประเทศปี 2012 –  2017

  • ปี 2012 / 2555  ยอดรวม 1,436,335 คัน
  • ปี 2013 / 2556  ยอดรวม 1,330,668 คัน (ลดลง 105,667 คัน – 7.3 %)
  • ปี 2014 / 2557  ยอดรวม 881,832 คัน (ลดลง 448,836 คัน – 33.7 %)
  • ปี 2015 / 2558  ยอดรวม 799,594 คัน (ลดลง 82,238 คัน – 9.3 %)
  • ปี 2016 / 2559  ยอดรวม 768,788 คัน (ลดลง 30,806 คัน – 3.9 %)
  • ปี 2017 / 2560 มกราคม – ตุลาคม  ยอดสะสม 689,263 คัน

ภาพรวมของตลาดรถยนต์ภายในประเทศ ปี 2017 นี้ 10 เดือนแรก ทำยอดสะสมรวมไปได้ 689,263 คัน มีการปรับเป้าประมาณการยอดขายรถยนต์ปี 2017 เพิ่มขึ้น จาก 800,000 – 810,000 คัน เป็น 830,000 คัน เหลืออีก 2 เดือนข้างหน้า เป้าที่จะไปถึงต้องทำให้ได้เฉลี่ยอย่างน้อย เดือนละ 70,000 คันขึ้นไป รอติดตามชมกันว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศ จะทำได้ตามเป้าประมาณการหรือไม่

หลายท่านที่ติดตามเป็นประจำจะทราบดีว่า แหล่งข้อมูลเราที่ได้มานั้น ค่ายรถยนต์ไม่ได้เป็นผู้ส่งยอดมาให้เราโดยตรง แต่เป็นการรวบรวมจากสมาคมผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นในประเทศไทย (JAMA) ทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวม โดยการส่งรายงานตัวเลขจากทุกค่ายแลกเปลี่ยนกันเข้ามาที่ส่วนกลาง แล้วจึงสรุปออกมานำเสนอให้ชมกันครับ

ครั้นจะเอาตัวเลขจดทะเบียนจากกรมขนส่งทางบกมานำเสนอ ในทางปฏิบัติจริง ตัวเลขอาจจะมีความคลาดเคลื่อนค่อนข้างสูง เนื่องจากการจดทะเบียน บางครั้ง อย่างที่รู้กันว่ามีการลากจด รอทะเบียนประมูล หรือบางครั้งจดทะเบียนคาบเกี่ยวกันระหว่างเดือนครับ

** MG สามารถขึ้นมาอยู่ในตาราง Top 10 ได้เป็นครั้งแรก นับจากเริ่มขายรถยนต์ในประเทศไทย

ภาพรวมของตลาดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้า 11.7 % จากเดือน ตุลาคม ที่เป็นช่วงเดือนแห่งการสูญเสีย และ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.1 %

 

ยอดขายแยกตามแต่ละแบรนด์
(เรียงตามยอดขายสะสม เดือนมกราคม – ธันวาคม 60)

มาดูยอดขายในแต่ละ Segment กันบ้างครับ ไล่เรียงกันลงไปตามนี้

  • Eco Car
  • B-Segment
  • C-Segment
  • D-Segment
  • Mini MPV
  • MPV
  • B-SUV/Crossover
  • C-SUV
  • Pick-up
  • PPV
  • Van (6-7Seats)
  • Van (11Seats+)
  • Commercial Van

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม ECO CAR

แท็กทีมกันมาเป็นคู่สำหรับ Eco Car จาก Toyota ทั้ง Yaris ATIV และ Yaris Hatchback ที่ส่งมอบได้เต็มเดือนทั้งคู่ กวาดยอดในกลุ่มนี้กันไปรุ่นละ 3,000 กว่าคัน รวม 2 รุ่นก็เกือบๆ 7,000 คันเลยทีเดียว

ในกลุ่มนี้นอกเหนือจากเจ้าตลาด ก็มี Suzuki ที่ปรับอุปกรณ์ให้กับ Ciaz RS เพิ่มช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และ ช่องชาร์จไฟ 12V เพิ่มเข้ามา ในราคาเดิม อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/official-price-suzuki-ciaz-rs-rear-air-2017/

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม B-Segment

Toyota Vios ยังคงทำตลาดต่อไป แต่ลดกำลังการผลิตลงเพื่อเดินกำลัง ผลิตสองศรีพี่น้อง Yaris และ Yaris ATIV ให้ทันความต้องการของลูกค้า ต้องรอดูท่าทีจาก Toyota ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับ Vios 1.5 ลิตร เพื่อไม่ให้ชื่อที่สร้างมานานต้องหายไปจากตลาด

ส่วน Mazda 2 เดือนนี้ก็หล่นลงสู่อันดับ 2 หลังจากที่ขึ้นอันดับ 1 ได้ 2 เดือนติดต่อกัน โดยยอดรุ่นเบนซิน 1.3 ลิตร ทำยอดไปได้กว่า 80% ของยอดรวมทั้งหมด อาจจะด้วยเพราะรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล มีข่าวปัญหาออกมาให้ได้ยินอยู่บ้าง ทางด้าน Honda City ก็กลับขึ้นมาอันดับ 1 อีกครั้ง ควงคู่ Honda Jazz ที่อยู่อันดับ 3 เมื่อรวม B-Car ของ Honda ยอดรวมกันเกือบ 5,000 คันเลยทีเดียว

MG 3 ยังคงทำยอดได้อย่างต่อเนื่อง ในปีหน้า 2018 เตรียมเปิดตัวรุ่น Minorchange ที่เปลี่ยนเกียร์จาก AMT Selematic เป็น เกียร์อัตโนมัติแบบปกติ 4 จังหวะแทน

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม C-Segment

กลุ่ม C-Segment ก็เริ่มกลับมามีความเคลื่อนไหวอีกครั้ง ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา เมื่อ Toyota Corolla Altis เปิดตัวรุ่น Minorchange ด้วยการใส่ถุงลมนิรภัยมาให้ 7 ตำแหน่งเป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย เพื่อมารับมือกับ Honda Civic ที่กระแสดีฉุดไม่อยู่ แถมยังส่งรุ่นตัวถัง Hatchback ตามมาสมทบอีก ครั้งแรกในรอบ 23 ปี นอกจากนี้ในเดือน พฤศจิกายน เพิ่มสีตัวถังภายนอก สีแดง Rallye Red ในรุ่น Sedan 1.8 EL / 1.5 Turbo RS อีกด้วย อ่านข้อมูลได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/honda-civic-thailand-rallye-red/

Mazda 3 รุ่น Minorchange ก็ตามมาในช่วงต้นปี หลังจากเลื่อนการเปิดตัวมาจากปลายปีที่แล้ว เพิ่มระบบ Active Safety : i-Activsense มาให้เต็มพิกัด และ Ford Focus ที่เพิ่มรุ่น Trend+ กระตุ้นตลาดในช่วงงาน Motor Show 2017 ก็กลับมาทำให้กลุ่มนี้ดูจะมีสีสันมากขึ้น ถึงแม้ Honda Civic ดูเหมือนจะครองตลาดนี้ไปยาวๆ

Nissan เอง ก็มีการแนะนำรุ่น MY2017 ออกสู่ตลาด เปลี่ยนแค่ดีไซน์กันชนหน้า และ เพิ่มอุปกรณ์ในรุ่น V และ SV ซึ่งก็เงียบเหงาไปตามระเบียบ (อ่านข้อมูลได้ที่นี่)

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม D-Segment

เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยทั้ง 2 เจ้าตลาด D-Segment ทั้ง All NEW Toyota Camry (อ่านข้อมูลได้ที่นี่) และ All NEW Honda Accord (อ่านข้อมูลได้ที่นี่) การมาทำตลาดของทั้งคู่ น่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยไล่เลี่ยกัน คือ ช่วงปี 2018 เรามารอดูกันว่า เครื่องยนต์ และ Option ของทั้งคู่จะมาสู้ศึกกันอย่างไร และ ปล่อยให้ Teana อยู่ในมุมเงียบๆ ต้องรอการเปิดตัวของ All NEW Nissan Teana ว่าจะมีไม้เด็ดมาสู้กับ 2 เจ้าตลาดนี้อย่างไร

เดือน สิงหาคม Camry มีการปรับอุปกรณ์ MY2017 เปลี่ยนโทนสีภายในห้องโดยสารใหม่ เป็นสีน้ำตาล Kogane ทุกรุ่นย่อย (ยกเว้น Extremo, ESport) อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ กลับมาเริ่มส่งมอบได้อีกครั้ง ทำให้เดือน กันยายน ยอดกลับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 อีกครั้ง

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม Mini MPV

Honda เปิดตัว Mobilio Minorchange แบบไม่มีข่าวคราวมาก่อนหน้านี้เลย ทำเอาแปลกใจกันไปไม่น้อย การมาของ Mobilio Minorchange แน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อ BR-V พี่น้องร่วมค่ายอย่างแน่นอน เพราะคราวนี้ภายในห้องโดยสารก็ปรับแดชบอร์ดมาเหมือนกันแล้ว ที่ก่อนหน้านี้เป็นงานดีไซน์ที่เป็นจุดอ่อนของ Mobilio ก็นำพาเอายอดกลับมาให้อีกครั้งขึ้นสู่อันดับ 2

ในช่วงต้นปีหน้า 2018 จะมีสมาชิกหน้าใหม่มาร่วมแบ่งเค้กในกลุ่มนี้ คือ Mitsubishi Xpander อ่านรายละเอียดเบื้องต้นได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/mitsubishi-xpander-minimpv-official-launch-indonesia/

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม MPV

Toyota Innova ดูจะไม่มีคู่แข่งตรงรุ่นในตลาดเลยในตอนนี้ แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า รถในกลุ่ม PPV ก็มาเป็นคู่แข่งทางอ้อม เพราะมีเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลเช่นเดียวกัน หากใครต้องการเบาะแถว 3 ที่นั่งสบายหากเทียบกับรถระดับราคาเดียวกัน คงต้องหันมามอง Innova Crysta นี้เป็นตัวเลือกด้วย ทำให้ยอดขายเป็นไปได้เรื่อยๆ

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม SubCompact SUV (B-SUV)

Honda BR-V ได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากการมาของ Mobilio Minorchange นอกเหนือจากนั้น กลุ่มนี้ก็ยังคงขายกันไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ช่วงปี 2016 ที่ผ่านมาไม่มีการขยับปรับเปลี่ยนอะไรมากนักสำหรับสมาชิกในกลุ่มนี้ เห็นจะมีก็แต่ Mazda CX-3 MY2017 ที่ปรับตาม Mazda 2 ไป กระตุ้นความสดใหม่ แต่ความสนุกจะเริ่มต้นในช่วงปลายปีนี้ ถึง ต้นปีหน้า เมื่อจะมีสมาชิกใหม่อย่าง MG ZS, Subaru XV และ Toyota C-HR เปิดตัวในไทย และ อาจจะรวมไปถึง HR-V Minorchange ด้วยเช่นกันในช่วงต้นปีหน้า มาเติมความสดใหม่แข่งกับสมาชิกหน้าใหม่

MG ZS เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยราคาที่คุ้มค่า ดีไซน์ที่ลงตัว ห้องโดยสารที่กว้างขวาง วัสดุสมราคาตัวรถ ดีกว่าคู่แข่งหลายๆคันในตลาด และ ชูจุดเด่นระบบ i-Smart สั่งงานด้วยเสียงภาษาไทยเป็นครั้งแรก แต่จะเป็นจุดเด่นหรือจุดด้อยนั้นต้องรอติดตามดูกันอย่างใกล้ชิด อ่านรายละเอียดเบื้องต้นได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/official-price-the-new-mg-zs-thai/

ทางด้าน Toyota C-HR ก็เผยรายละเอียดเวอร์ชั่นไทย นำตัวรถคันจริงมาให้ชมกัน ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการต้นปี 2018 อ่านรายละเอียดเบื้องต้นได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/brief-spec-toyota-c-hr-thai-version/

ส่วน Nissan Juke ยุติการนำเข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้องรอ Nissan Kicks มาแทน ในช่วงปี 2018 – 2019

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม SUV

Honda CR-V Gen5 เริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ หลังเปิดตัวไปได้ 3 เดือน เคลียร์ยอดค้างส่งมอบ Back Order ไปได้เรียบร้อย จุดที่น่าสนใจของ CR-V คือ สัดส่วนระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน และ ดีเซล ตั้งแต่เริ่มส่งมอบเครื่องยนต์ดีเซลได้ ก็มียอดมากกว่าเบนซิน 2 เดือนติดต่อกันแล้ว ผ่านพ้นมาเดือนที่ 5 รุ่นเบนซินกลับมามียอดสูงกว่าเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

Mazda CX-5 เดือน ตุลาคม ถือว่าอยู่ในช่วงปลายอายุตลาดพอดี เมื่อ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ Generation ที่ 2 อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/spec-option-the-all-new-mazda-cx-5-thai/ คงต้องรอดูยอดขายของเดือน พฤศจิกายน ว่า CX-5 จะสามารถแย่งยอดกลับมาจาก CR-V ได้มากน้อยแค่ไหน

MG GS กู้ยอดขายขึ้นมาได้จากรุ่น 1.5 Turbo ทำให้ GS กลับมาน่าสนใจอีกครั้งด้วยราคาที่น่าคบหา 890,000 – 990,000 บาท สำหรับ GS Minorchange คงเจอกันภายในปีหน้า 2018

Nissan X-Trail เจอปัญหาจากเกียร์ของรุ่น Hybrid ส่งผลให้ยอดขายรุ่นนี้ ลดลงอย่างชัดเจน ตอนนี้ Nissan Thailand ได้ทราบปัญหาแล้ว และ ดำเนินการแก้ไขอยู่ โดยลูกค้าบางรายจะได้รับจดหมายการรับประกันในส่วนเกียร์เพิ่มเติม ทั้งนี้ลูกค้าที่รถมีปัญหาก็สามารถเข้าไปเคลมเกียร์ล็อตใหม่ๆได้ ส่วนใครที่รอรุ่น Minorchange มาแน่ๆสำหรับเวอร์ชั่นไทย เจอกันปี 2018 แต่จะครึ่งปีแรก หรือ ครึ่งปีหลัง คงต้องติดตามกันอีกที

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม กระบะ 1 ตัน (1-Ton Pick-up)

*ยอดรวมทุกตัวถัง Single Cab / Space Cab / Double Cab

Isuzu D-max ยังคงครองแชมป์ยอดขายกระบะเหมือนเช่นเคย ตามด้วย Toyota Hilux Revo โดยในเดือน พฤศจิกายนนี้ ทั้ง 2 เจ้าตลาด ยอดขายชะลอตัวลงเนื่องจากเตรียมเปิดตัวรุ่น Minorchange เช่นเดียวกับค่ายอื่นๆในตลาดทั้งหมด ที่ยอดขายลดลงด้วยเช่นกัน เพราะลูกค้าบางส่วนรอดูท่าที และ โปรโมชั่นจากงาน Motor Expo 2017 ช่วงเดือน พฤศจิกายน

5 ค่าย ปรับทัพอัพเดตก่อนเข้างาน Motor Expo 2017 (ยกเว้น Ford Ranger, Mazda BT-50 Pro และ Tata Xenon ที่ไม่มีการปรับ)

ส่วน Ford Ranger ในช่วงปีหน้า 2018 จะมีรุ่นย่อยใหม่ Ranger RAPTOR ตัวลุย มาเสริมทัพ Top of the line ให้สูงขึ้นไปอีกระดับ อ่านข้อมูลเบื้องต้นได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/ford-ranger-raptor-new-engine-ecoblue-panther/

* Tata Xenon 42 คัน / Foton Tunland ไม่มีรายงานตัวเลขยอดขาย

 

ทำไมตัวเลขถึงไม่ตรงกับบนเว็บไซต์ของ Toyota ?
http://www.toyota.co.th/sale-volume.php?

คำถาม :

ทำไม ยอดขายกระบะ 1 ตัน บนเว็บไซต์ Toyota ที่รวบรวมยอดขายเอาไว้ ไม่ตรงกับที่ Headlightmag.com รายงานล่ะ ?

คำตอบ :

ในหมวดหมู่ กระบะ 1 ตัน บนเว็บไซต์ของ Toyota เป็นการรวมเอายอดของรถกระบะ 1 ตัน (Single cab, Space cab, Double cab) และ PPV (SUV 7 ที่นั่ง พื้นฐานกระบะ) เข้าไว้ด้วยกัน จะสังเกตได้จากเมื่อเอายอดขายที่ Headlightmag รายงานทั้ง 2 กลุ่ม บวกกันก็จะได้ตัวเลขตรงกันกับบนเว็บไซต์ของ Toyota ครับ

 

ยอดขายรถยนต์กลุ่ม PPV (SUV พื้นฐานกระบะ)

Toyota Fortuner MY2017 เริ่มส่งมอบได้ตั้งแต่ สิงหาคมเป็นต้นมา มีการปรับอุปกรณ์เพิ่มเติม เช่น ดิสก์เบรกหลัง, เบาะปรับไฟฟ้าผู้โดยสารตอนหน้า, ไฟตัดหมอก LED, บันไดข้างสีเงิน ฯลฯ อ่านรายละเอียดได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/toyota-fortuner-my2017-official-spec-price/ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ 2.4 V ขับเคลื่อน 4 ล้อมาเสริมทัพ

อันดับ 2 ในเดือนนี้กลับมาเป็นของ Mitsubishi Pajero Sport ด้วยแคมเปญแรง ฟรีค่าแรง และ ค่าเช็คระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร คล้ายกับ BSI ของ BMW นั่นเอง

ตามมาด้วย Isuzu MU-X ที่มาแบบเรื่อยๆ บางเดือนขึ้นอันดับ 2 บ้าง เราต้องคอยติดตามสถานการณ์กันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร เพราะอันดับที่ 4 อย่าง Ford Everest ก็เข้ามาประชิดไม่ห่างกันมากนัก

ส่วน Chevrolet Trailblazer ที่เพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ Z71 4WD ตกแต่งด้วยสีดำรอบคัน และได้เลือก ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ มาเป็น Brand Ambassador อ่านรายละเอียดอ่านได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/chevrolet-trailblazer-z71-4wd-official/

 

ยอดขายกลุ่ม Van (6-7 Seats)

กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มี 6-7 ที่นั่ง ราคาไล่เลี่ยกัน แข่งกันโดยตรงมีแค่ Hyundai Grand Starex และ Mitsubishi Delica เท่านั้น

อ้าว !!! แล้ว Alphard, Vellfire, Estima, Odyssey หายไปไหน ? ก็ต้องขอแจ้ง ดังนี้ครับ รถรุ่นที่ว่ามายอดขายส่วนใหญ่ตกไปอยู่กับผู้นำเข้าอิสระ หรือเกรย์ ซึ่ง เราไม่มียอดและไม่สามารถหายอดขายมาได้ในส่วนนี้ครับ ครั้นจะแสดงยอดเฉพาะของ Toyota Motor Thailand ก็ดูจะไม่ยุติธรรมสักเท่าไหร่ เลยขอนำเสนอยอดขาย แค่เพียง 2 รุ่นนี้เท่านั้นครับ

Hyundai Grand Starex ที่ถึงแม้จะปรับราคาไปแตะ 2,300,000 บาท มีการปรับ อุปกรณ์ติดรถให้หรูหรา รวมถึง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่มากขึ้น ก็ยังทำให้ลูกค้าตกลงปลงใจกับ รถ MPV จากแดนกิมจิเข้ามาอยู่เรื่อยๆ

Mitsubishi Delica ก็ไม่นำเข้ามาขายเพิ่มเติมอีกแล้วตั้งแต่ช่วงปลายปี 2016 จึงขอเอาออกจากตารางนี้ไปครับ แต่ดูเหมือนจะมี Kia Grand Carnival รุ่น 7 ที่นั่ง 2,990,000 บาท เข้ามาขอร่วมในกลุ่มนี้ และ อีก 1 รายก็คือ MG GV ก็อาจจะมาร่วมแจมในกลุ่มนี้เช่นกัน สำหรับรุ่น 7 ที่นั่ง ที่รอเปิดตัวอยู่

 

ยอดขายกลุ่ม Van (11Seats+)

มีหนุ่มเกาหลีถึง 3 รายอยู่ใน Segment นี้ !!! ไม่ว่าจะเป็น Hyundai H-1, Kia Grand Carnival และ Ssangyong Stavic รวมถึงหนุ่มญี่ปุ่น 1 เดียวนั่นก็คือ Toyota Ventury

Hyundai มีการปรับ Minorchange ให้กับ H-1 เพิ่มประตู Slide ไฟฟ้า เบาะหัว Micky Mouse ดูท่าทางคงครองอันดับ 1 ไปยาวๆ (ยอดขายหลักของ Hyundai เค้าล่ะ) ยอดทิ้งห่าง Toyota Ventury ถึง 8 เท่าตัว

Kia Grand Carnival ก็ขายดีมาเรื่อยๆ ด้วยรูปทรง งานดีไซน์ ราคา ดูน่าดึงดูดใจไม่น้อย ส่วน MG GV ถูกเลื่อนกำหนดการเปิดตัวออกไป จากเดิมจะต้องเปิดตัวในงาน Motor Show 2017 หากมีความคืบหน้าจะมารายงานให้ทราบกันอีกครั้งครับ คาดว่าจะมีให้เลือกทั้งแบบ 7 ที่นั่ง และ 11 ที่นั่ง

 

ยอดขายกลุ่ม Commercial Van

เป็นกลุ่มสุดท้ายของซีรีส์รถตู้ เน้นไปที่ Commercial เป็นหลัก ใช้งานรถร่วมบริการใช้ในการท่องเที่ยว รถตู้วิน รถรับส่งพนักงาน และอื่นๆอีกมากมาย โดยมีคู่แข่งหลัก อยู่เพียง 2 รุ่น นั่นก็คือ Toyota Commuter และ Nissan Big Urvan

ในส่วนของรถตู้ Toyota อันที่จริงจะมีอีก 1 รุ่น คือ Hiace แต่เนื่องด้วยไม่มีคู่แข่งที่ตรงรุ่น เลยไม่ขอนับยอดมารวมด้วยนะครับ เอาเฉพาะ Commuter เพื่อเปรียบเทียบอย่างยุติธรรมสำหรับคู่ชกอย่าง Nissan Big Urvan (ในญี่ปุ่นมีการเปิดตัว Urvan Minorchange เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อ่านได้ที่นี่ ในไทยคงต้องรอความเคลื่อนไหวกันต่อไปจาก Nissan)

สำหรับ Commuter / HiAce เอง Toyota มีแผนจะเปิดตัวรุ่นใหม่ หลังรอมานานกว่า 14 ปี ในช่วงปี 2018 นี้ รายละเอียดข่าวรุ่นใหม่ ติดตามได้ที่นี่

** Toyota Hiace  33 คัน

 

ปล. *สำหรับท่านใดที่ Save รูปไปแชร์ รบกวนเอาข้อความอธิบายในแต่ละ Segment ไปด้วยนะครับ เพราะบางครั้งเอาแต่รูปยอดขายไปแชร์ดูแต่ตัวเลขอย่างเดียว ก็ทำให้เกิดคำถามขึ้นเยอะ ว่าทำไมเป็นอย่างนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น ขอความร่วมมือนำข้อความไปด้วยนะครับผม (แต่ทางที่ดีที่สุด แชร์ link หรือ แชร์จากหน้า Fanpage ไปดีกว่าครับ จะได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนกันทุกท่าน)

ขอบคุณครับ


เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่ >> กระทู้แสดงความคิดเห็น Sales Report เดือน ตุลาคม 60 แบ่งตาม Segment


บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้องและน่าสนใจ

ปี 2557 / 2014

ปี 2558 / 2015

ปี 2559 / 2016

10 อันดับ รถที่มียอดขายสูงที่สุดในประเทศไทย ประจำปี 2016 / 2559
http://www.headlightmag.com/10-best-selling-in-thailand-2016/

ปี 2560 / 2017