นับตั้งแต่ Volkswagen Group ให้ความสำคัญกับแบรนด์ Skoda ในฐานะแบรนด์รถยนต์ที่ช่วยทำกำไรให้แก่บริษัท ก็ยิ่งทำให้ Skoda โดดเดนขึ้นทุกวัน ด้วยจุดขายตัวรถที่มาแนวเรียบง่ายคลาสสิค แต่เพิ่มรายละเอียดที่ดูสดใหม่ด้วยเส้นสาย Crystal Line บาดคมจนลูกค้าชาวยุโรปตะวันออกอดใจแทบไม่ไหว

2016_05_19_Skoda_Karoq_1

ล่าสุด Skoda Karoq ได้ออกมาตอกย้ำจุดยืนของ New Skoda รถยนต์บุคลิกคลาสสิค เน้นความง่ายในเส้นสายและการใช้งาน และเป็นการย้ำความสำเร็จของ Skoda Kodiaq เอสยูวีขนาดกลางใหญ่ติดตั้งเบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง

ขนาดมิติตัวถัง Skoda Karoq
ยาว x กว้าง x สูง : 4,382 x 1,841 x 1,605 มิลลิเมตร
ความยาวฐานล้อ : 2,638 มิลลิเมตร

2016_05_19_Skoda_Karoq_2

การเปิดตัว Skoda Karoq จะเป็นการขับเคลื่อนสำเร็จให้แก่แบรนด์ในอนาคตตามวิสัยทัศน์ 2025 Strategy โดยมีปัจจัยที่นำพาความสำเร็จคือ ดีไซน์ ที่ปราดเปรียวและเร้าใจ ด้วยเส้นสายที่เฉียบคมแบบ Crystal Line อันเป็น Design Language ล่าสุด

เส้นสายและการคอนทัวร์ (โปรดนึกถึงการแต่งหน้าที่เป็นเฉดมิติของสาว ๆ ซึ่งจะแสดงผลลัพธ์มิติที่แตกต่างกัน) ขอบต่าง ๆ จะออกแบบแนว 3 มิติ ด้านหน้าโดดเด่นด้วยการรูปร่างของเลขาคณิตมาประกอบกัน สัดส่วนรถยนต์มีความสมดุล มีระยะฐานล้อที่ดูยาวเพราะระยะโอเวอร์แฮงค์รอบคันสั้น

2016_05_19_Skoda_Karoq_3

จุดขายใหม่ของ Skoda Karoq ก็คือระบบการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตที่ก้าวไปสู่อีกระดับ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ Infotainment เจเนเรชั่นใหม่, รองรับ Wi-Fi Hotspot/LTE (4G) ที่รวดเร็วขึ้นจนสามารถฟังวิทยุผ่านออนไลน์ได้สบาย ๆ

นอกจากนี้ยังระบบเชื่อมต่อใหม่ยังลิงค์ฟังก์ชันเรียกหน่วยรถฉุกเฉินหากเกิดเหตุไม่คาดฝันและจะเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับตลาดยุโรปภายในปี 2018 นอกจากนี้ยังสามารถโหลดแอพพลิเคชั่นเพื่อสามารถตรวจเช็ครถยนต์และสามารถหาตำแหน่งรถผ่านสมาร์ทโฟน

ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เพื่อความปลอดภัยก็เป็นจุดขายสำคัญ อาทิ ระบบช่วยถอยจอดอัตโนมัติ, ระบบป้องกันการขับขี่ออกนอกเลนพร้อมระบบขับขี่อัตโนมัติขณะขับขี่บนจราจรติดขัด, ระบบตรวจจับจุดบอด, ระบบช่วยตรวจจับคนเดินทางเท้าและระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ

Skoda Karoq ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้วยเครื่องยนต์ใหม่ 5 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร TSI 115 แรงม้า (PS) แรงบิด 175 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 187 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 10.6 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียง 117 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร TSI 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 250 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 204 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.4 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.1 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียง 119 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร TDI 115 แรงม้า (PS) แรงบิด 250 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 188 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 10.7 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 4.5 ลิตรต่อ กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียง 118 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDI 150 แรงม้า (PS) แรงบิด 340 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 207 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 8.9 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 4.4 ลิตรต่อ กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียง 115 กรัมต่อกิโลเมตร

เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร TDI 190 แรงม้า (PS) แรงบิด 400 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 211 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 7.8 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 5.3 ลิตรต่อ กิโลเมตร ปล่อยค่าไอเสีย CO2 เพียง 138 กรัมต่อกิโลเมตร

2016_05_19_Skoda_Karoq_4
Skoda Karoq จะเตรียมส่งขึ้นโชว์รูมทั่วยุโรปในช่วงครึ่งปีหลัง 2017 นี้

ที่มา : Motor1