ทันทีที่อ่านหัวข้อข่าวนี้แล้ว เชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยว่า ในเมื่อตลาดรถยนต์เมืองจีนถือเป็น 1 ในตลาดรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ทำไม Suzuki ถึงมีความคิดจะถอนตัวออกจากตลาดที่ใหญ่ขนาดนี้ได้?

เราลองมาสำรวจยอดขายรถยนต์ Suzuki ในตลาดจีนนับตั้งแต่ปี 2003-2017 ดูว่ามีความเปลี่ยนแปลงอย่างไร?

 

ปี ยอดขาย ส่วนแบ่งการตลาด
2017 118.706 0,49%
2016 156.324 0,66%
2015 199.210 0,99%
2014 262.209 1,42%
2013 229.535 1,41%
2012 253.556 1,92%
2011 301.552 2,46%
2010 275.672 2,46%
2009 230.946 2,79%
2008 184.232 3,39%
2007 161.659 3,06%
2006 157.841 3,76%
2005 117.789 3,66%
2004 131.156 5,33%
2003 136.412 6,37%

 

จะสังเกตได้ว่า ยอดขายรถยนต์ Suzuki ที่ดีที่สุดคือยอดขายในปี 2011 แต่ทว่ายอดขายที่เติบโตมันกลับสวนทางกับส่วนแบ่งการตลาดของมัน เราจะพบว่านับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นไป รถยนต์ Suzuki ไม่เคยมีส่วนแบ่งการตลาดเติบโตขึ้นมาเลย และนับวันจะมีส่วนแบ่งลดน้อยลงเรื่อย ๆ นี่อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทแม่ต้องตัดสินใจขั้นเด็ดขาด

แหล่งข่าวแจ้งว่า ผู้บริหารระดับสูงจาก Suzuki Motor ญี่ปุ่นกำลังเจรจากับบริษัทพันธมิตร Changan Automobile ถึงการยุติการทำตลาดรถยนต์ Suzuki ในประเทศจีน พร้อมทั้ง Suzuki Motor ก็ยกเลิกความร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรรายอื่นในประเทศจีนด้วย

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ Suzuki ลดลงตลอด เนื่องจากลูกค้าชาวจีนต้องการรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่และหรูหราขึ้น ตามสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมีแนวโน้มว่ายอดขายรถยนต์ขนาดเล็กอาจจะน้อยลง

และข้อสำคัญอีกประการคือ รัฐบาลจีนบังคับให้ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ตามสัดส่วนที่รัฐฯ กำหนด ซึ่ง Suzuki ไม่สามารถตอบสนองนโยบายรัฐได้ทันที เพราะ Suzuki ไม่ได้เตรียมแผนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า EV ไว้ล่วงหน้า

อย่างไรก็ตามเมื่อ Suzuki ถอนทัพออกจากตลาดจีนแล้ว Suzuki ก็จะทุ่มสรรพกำลังยังตลาดอินเดียซึ่งเป็นตลาดที่ Suzuki ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในโลกแทน

ที่มา :  NHK World / Carsalesbase