เรื่องตลกเกี่ยวกับชื่อ Scala มีอยู่ว่า ชื่อของ Scala มันเคยเป็นชื่อที่ใช้ในรถยนต์ Renault B-Segment Sedan รุ่นหนึ่งซึ่งเป็นการนำ Nissan Almera ที่จำหน่ายในไทยมาแปลงดีไซน์รอบคันสำหรับทำตลาดในอินเดีย เปิดตัวในปี 2012 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจนต้องยกเลิกการผลิตในปี 2017 และคาดว่า Renault คงจะปล่อยชื่อ Scala ให้หลุดลอยไปจากระเบียนเครื่องหมายทางการค้าของโลก

และน่าแปลกใจซ้ำสองคือชื่อ Scala มันก็พ้องกับโรงภาพยนตร์สกาล่าชื่อดังในประเทศไทยซึ่งจะกลายเป็นตำนานในอนาคตข้างหน้า

เชื่อว่า Skoda น่าจะมองเห็นว่าชื่อ Scala นั้นยังเป็นชื่อที่ดีอยู่ เพราะมันมีความหมายในภาษาอิตาลีแปลว่า “บันได” ที่สามารถตีความได้ถึงการก้าวต่อไปสู่สิ่งที่ดีกว่าของรถยนต์ Skoda ดังนั้นพวกเขาจึงนำชื่อนี้มาประทับลงบนรถยนต์ระดับ C-Segment Hatchback คันใหม่ ที่จะมาแทนที่ Skoda Rapid

Skoda Scala เป็นรถยนต์ที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ MQB A0 ร่วมกับ Volkswagen Polo ถ้าให้พูดกันง่าย ๆ ก็คือ พวกเขานำพื้นตัวถังระดับ B-Segment มาขยายร่างเพื่อให้กลายเป็นรถขนาด C-Segment เต็มตัว ซึ่งมันก็สามารถตอบโจทย์ลูกค้าและการลงทุนของบริษัท เพราะเมื่อใช้ Modular Platform สำหรับรถเล็ก ก็จะอยู่ในขนาดที่จำกัดและต้นทุนที่ไม่แพงมากนัก เมื่อนำมาขยายสัดส่วนตัวถังก็สามารถเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร ได้เหนือกว่ารถ C-Segment ตัวจริงในหลาย ๆ รุ่น

จุดขายสำคัญมาก ๆ ของ Skoda Scala ก็คือ ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางมากเทียบเท่ากับ Skoda Octavia ภายใต้มิติตัวถังภายนอกยาว 4,362 มิลลิเมตร กว้าง 1,793 มิลลิเมตร สูง 1,471 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,649 มิลลิเมตร พร้อมพื้นที่ห้องสัมภาระ 467 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังทั้งหมดจะมีเนื้อที่มากถึง 1,410 ลิตร

จุดขายสำคัญคือการออกแบบที่ได้รับอิทธิพลจากรถต้นแบบ VISION RS Concept ที่มีเส้นสายเฉียบคมและมีขนาดตัวถังที่ดูค่อนข้างใหญ่

เครื่องยนต์มีให้เลือกถึง 5 แบบ ตั้งแต่ 90 แรงม้า (PS) ไปจนถึง 150 แรงม้า (PS)

ต้องจับตาดูว่า Skoda จะวางราคา Scala ไว้เทียบเท่าหรือต่ำกว่าเมื่อกับ C-Segment Hatchback ที่สร้างขึ้นบนพื้นตัวถังที่มีต้นทุนแพงกว่า

ที่มา : Carscoops