ยังมีบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นรายใดที่ยังไม่กล้าพัฒนารถที่มีคุณภาพการขับขี่เทียบชั้นกับ
รถยุโรปการขับขี่เทพ ๆ อย่าง Volkswagen บ้าง? เพราะแทบทุกบริษัทรถญี่ปุ่นต่าง
ก็เคยตั้งแนวคิดการพัฒนารถยนต์ของตัวเองให้มีการขับขี่ที่เทียบชั้นกับรถยุโรปกันเยอะ
มาก ๆ เพียงแต่ผลลัพธ์มันออกมาดี, ดีกว่าหรือแย่กว่า Benchmark หลัก อันนี้ก็ต้อง
ใช้วิจารณญาณและความรู้สึกตัดสินกันเอาเอง

2016_04_15_Toyota_CHR

ล่าสุด ทีมวิศวกร Toyota มีความมุ่งมั่นในการพัฒนา C-HR ครอสโอเวอร์ระดับ
C-Segment ให้มีสมรรถนะการขับขี่เทียบชั้นได้กับ Audi Q3 และ Volkswagen Golf
ได้ (อันที่จริงแม้กระทั่งค่ายรถยุโรปหลายค่ายต่างพัฒนารถ C-Segment ของตัวเองให้
สามารถสู้กับ Golf กันไม่น้อย ) ในขณะเดียวกับทีมวิศวกรก็นำฟีลลี่งการบังคับพวงมาลัย
มาจาก Skoda Yeti มาด้วย

Hiro Koba หัวหน้าโปรเจคท์การพัฒนา Toyota C-HR ตั้งใจออกแบบให้รถทรงเด่น
สะดุดตาคันนี้มีสมรรถนะการเข้าโค้งที่สมดุลราวกับขับรถแฮทช์แบคทั่วไป และยืนยัน
ได้ว่ามันมีสมรรถนะที่ดีรองรับการขับขึ้นเขาฝรั่งเศสได้อีกด้วย

ถึงแม้ภายในห้องโดยสารจะยังคงถูกปกปิดเป็นปริศนา แต่คอลัมนิสต์นิตยสาร Autocar
ก็ยืนยันว่ามันมีเบาะนั่งที่สบาย, มีตำแหน่งที่สูงเพียงพอมองเห็นพื้นถนนด้านหน้าชัดเจน
และที่สำคัญห้องโดยสารตอนหลังมีพื้นที่วางขาเพียงพอสำหรับผู้โดยสารผู้ใหญ่
แต่ผู้โดยสารตัวสูง ๆ อาจจะมีปัญหาศีรษะไปสีกับเพดานห้องโดยสารที่ลาดเอียง

Toyota C-HR มีพื้นที่ห้องสัมภาระท้ายประมาณ 370 ลิตร มากกว่า Nissan Juke 354 ลิตร
แต่ก็น้อยกว่า Nissan Qashqai ที่จุได้ 430 ลิตร

Toyota C-HR เวอร์ชันยุโรปจะมี 3 ขุมพลังให้เลือกนั่นก็คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.2
ลิตรเทอร์โบ, ขุมพลัง Hybrid ที่ยกมาจาก Prius และเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ
สำหรับตลาดรัสเซีย

สำหรับ Toyota C-HR ในเมืองไทยคงต้องรอลุ้นรูปแบบขุมพลังว่าจะเลือกอะไรดีระหว่าง
1.2 ลิตรเทอร์โบกับเครื่อง 1.8 ลิตรใน Corolla Altis หรืออาจจะเป็น 2.0 ลิตร

ที่มา : Autocar