โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ ชูจุดขายวิวัฒนาการ 6 ชนิด แยกจำแนก 33 รุ่นย่อยมีราคาระหว่าง 5.69 แสนจนถึง 1.139 ล้านบาท

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_02_EDIT
2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Smart_Cab_1 2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_07

ในที่สุด Toyota ก็เปิดตัวและเผยโฉมรถกระบะ Toyota Hilux Revo (อ่านว่า ไฮลักซ์ รีโว่) ออกมาเสียที หลังจากมีภาพ
หลุด(เหมือนจะ)บังเอิญและยังใจดีปล่อยให้พนักงานประจำดีลเลอร์สร้างกระแส (คงเพราะด้วยความรู้ไม่ถึงการณ์หรือมี
เจตนาดีก็ตาม) จนทำให้หลายคนแทบไม่ต้องลุ้นกับรูปโฉมกันเลย เพราะได้เห็นเต็มตาก่อนถึงวันงานเปิดตัว (21
พฤษภาคม 2015)

Toyota Hilux Revo ลงทุนจัดงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ใครที่ไม่มีรถก็
เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้า (แต่ก็ต้องจากสถานีแล้วปีนข้ามรั้วแล้วเดินเข้ามาตึกเชื่อมเข้าศูนย์ฯอีกยาวไกลมาก) ก็ถือเป็น
การประกาศศักดาความเป็นเจ้าตลาดรถกระบะอันดับ 1 ของเมืองไทยอย่างชัดเจน

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_PreRunner3

ชื่อย่อของ Revo ก็ง่าย ๆ เลยครับมันย่อมาจากคำว่า Revolution ที่แปลกว่าการปฏิวัติ ในที่นี้ Toyota ประเทศไทยเขา
ให้คำนิยาม Hilux Revo ว่าเป็นรถกระบะที่สะท้อนภาพกระบะยุคใหม่ พร้อมชูจุดขายหลัก 6 อย่างที่คิดว่าคนไทยน่าจะ
Wow กัน

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Toyota Hilux Revo มันก็ยังเป็นรถกระบะที่นำเอาโครงสร้างตัวถังพื้นฐานและแชสซีส์จาก Hilux Vigo
เดิมมาปรับปรุงและต่อยอดใหม่ แบบเดียวกับที่พวกเราเห็นใน Nissan NP300 Navara ที่นำพื้นฐาน Navara รุ่นเดิมมา
พัฒนาใหม่(และลดต้นทุนการผลิตลง) และ Mitsubishi Triton โฉมใหม่ที่ยังเอาตัวถังและแชสซีส์เดิมมาใช้อยู่ นั่นเป็น
เพราะว่าการลงทุนพัฒนางานวิศวกรรมของรถกระบะหรือรถเพื่อการพาณิชย์ใช้เงินลงทุนสูงมาก อีกทั้งวิวัฒนาการของรถ
เพื่อการพาณิชย์ในเชิงงานวิศวกรรมพื้นตัวถังก็ไม่ได้ก้าวกระโดดเหมือนกับฝั่งรถยนต์นั่งมากนัก ถ้าหากนำโครงสร้าง
พื้นฐานของรุ่นเดิมที่ดีอยู่แล้วมาพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ คุ้มต้นทุนมากขึ้น และนำเงินที่เหลือมาอัดฟังก์ชันให้โดดเด่นเข้า
กับยุคสมัย มันก็จะดีต่อการขายในระยะยาวมากกว่า

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_10

 

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Single_Cab_01_EDIT

Toyota Hilux Revo ถือเป็นรถกระบะตระกูล Hilux เจเนเรชั่นที่ 8 และยังเป็นรถกระบะเพื่อการพาณิชย์ที่ถูกพัฒนาขึ้น
ภายใต้โครงการ “IMV: Innovative International Multi-Purpose Vehicle” โครงการที่ 2 ซึ่งเป็นการต่อยอดให้
ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกรถกระบะแทนประเทศญี่ปุ่น

เหตุผลสำคัญที่ทำให้ Toyota ไม่กล้าทิ้งชื่อตระกูล Hilux ออกจากสาระบบ เนื่องจาก Toyota ได้แนะนำตระกูลรถกระบะ
Hilux ครั้งแรกในปีพ.ศ. 2511 หรือปีค.ศ. 1968 จนมียอดขายสะสมจนถึงปัจจุบัน 16 ล้านกว่าคันและยังจำหน่ายยัง
180 ประเทศทั่วโลก

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Single_Cab_02

และสิ่งที่น่าภูมิใจมากที่สุดคือ Toyota Hilux Vigo กระบะ Hilux เจเนเรชั่นที่ 7 ถือเป็นรถกระบะตระกูล Hilux ที่ประสบ
ความสำเร็จเท่าที่เคยมีมา ด้วยยอดขายในประเทศไทยสูงถึง 1,650,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2004 สามารถครอง
ตำแหน่งยอดขายรถกระบะอันดับ 1 ในไทยยาวนาน 9 ปีซ้อน และสามารถส่งออกรถยนต์ภายใต้โครงการ IMV ไปกว่า
2,400,000 คัน

เมื่อหมดเวลาของ Toyota Hilux Vigo ก็ถึงเวลาของ Toyota Hilux Revo

มร.ฮิโรกิ นาคาจิมะ หัวหน้าวิศวกรอาวุโส เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Toyota Motor Corporation จำกัด เปิดเผยว่า “ทีม
วิศวกรโตโยต้าได้สร้างสรรค์ Hilux REVO ด้วยแรงบันดาลใจในการออกแบบและพัฒนา เพื่อให้ Hilux REVO เป็นรถ
กระบะผู้กำหนดนิยามใหม่แห่ง “ความแกร่ง” สะท้อนภาพลักษณ์ตามแนวคิด “ยุคใหม่แห่งกระบะ ทุกตารางนิ้วต้องไฮ
ลักซ์” ด้วยเครื่องยนต์ใหม่บนโครงสร้างแชสซีส์ใหม่กับแรงบิดที่สูงขึ้น ลดระดับเสียงรบกวนจากการทำงานของเครื่องยนต์
พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง – ระบบเกียร์แบบ 6 สปีดใหม่ที่ช่วยปลดปล่อยศักยภาพของ
เครื่องยนต์ใหม่อย่างเต็มสมรรถนะ – ระบบกันสะเทือนใหม่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น ถูกออกแบบเป็นพิเศษให้เหมาะกับสภาพถนน
ของประเทศไทยโดยเฉพาะ ให้ความนุ่มนวลในการขับขี่เฉกเช่นรถ SUV ระดับหรู – ดีไซน์ใหม่ที่แข็งแกร่งและเต็มเปี่ยมไป
ด้วยอารมณ์ – ระบบความปลอดภัยเหนือระดับกว่ารถรุ่นเดียวกัน”

Toyota Hilux Revo น่าเป็นจะเป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยอีกครั้งหนึ่งเมื่อ Toyota กล้าลงทุนใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ
(Local Content) สูงถึง 95-96% เมื่อเทียบกับ Hilux Vigo รุ่นเดิมที่ใช้ชิ้นส่วน 93%

 

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Single_Cab_05

แม้ Toyota Hilux Revo ยังใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกับ Vigo เดิม แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะต้องใช้ของเก่าหากินกันได้ตลอด
พวกเขาก็ต้องพัฒนาสิ่งใหม่ให้ลูกค้าชาวไทยได้รักได้หลงกันต่อเนื่อง ด้วยจุดขายหลัก 6 ประการ

จุดขายแรก – เครื่องยนต์ใหม่ตระกูล GD มาแทนที่เครื่องตระกูล KD ที่รับใช้ลูกค้าทั่วโลกยาวนาน 10 กว่าปี เครื่องยนต์
GD เป็นเครื่องยนต์ดีเซลระบบคอมมอนเรล เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด (GD Efficient Boost) เพิ่มประสิทธิภาพในการเผา
ไหม้ ให้แรงบิดสูงสุดในช่วงรอบกว้าง (Flat torque) ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งออกตัวและเร่งแซงที่ Toyota เคลมว่า
ประหยัดน้ำมัน, เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไอเสียต่ำเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้รับมาตรฐาน Euro 4 (ก็ยังแปลกใจว่าทำไม
ยังได้แค่ Euro 4 อยู่)

เครื่องยนต์ GD ใหม่ยังติดตั้ง Roller Rocker Arm with Valve Lash Adjuster ออกแบบพิเศษเพื่อลดแรงเสียดทาน
ระหว่างลูกเบี้ยวและกระเดื่องวาล์วในจังหวะของการเปิด-ปิดวาล์ว พร้อมระบบปรับตั้งวาล์วอัตโนมัติเพื่อกำจัดช่องว่าง
ของการสึกหรอที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่มีการรั่วไหลของไอน้ำมันแม้ใช้งานอย่างยาวนาน ผลลัพธ์คือเครื่องยนต์เดินเงียบ อีกทั้ง
ยังประหยัดน้ำมัน และประหยัดค่าบำรุงรักษาตลอดอายุการใช้งาน

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Single_Cab_04

แต่งานนี้ผู้เขียนถึงขั้น Surprise เพราะ Toyota ลงทุนติดตั้งระบบ Stop & start System เมื่อรถหยุดนิ่ง ระบบจะตัด
การทำงานของเครื่องยนต์ชั่วขณะ และจะสตาร์ทเครื่องยนต์ขึ้นใหม่โดยอัตโนมัติเมื่อแตะคันเร่ง จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมัน
และลดไอเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในระหว่างที่เครื่องยนต์หยุดการทำงานเครื่องปรับอากาศจะยังคงส่งลมเย็น
อย่างต่อเนื่อง

ลูกค้าสามารถเลือกขุมพลัง Toyota Hilux Revo ได้ถึง 3 เครื่อง 6 ความแรง (เครื่องดีเซลรองรับ B20) ได้แก่

– เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร
– เครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร (High) 150 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตร
– เครื่องยนต์เบนซิน 2.7 ลิตร 166 แรงม้า แรงบิด 245 นิวตันเมตร
– เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร 170 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร
– เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (High) 177 แรงม้า แรงบิด 420 นิวตันเมตร
– เครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร (High) 177 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตันเมตร

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_08
จุดขาย 2 – ความพยายามจะปฏิวัติเรื่องการทรงตัว อันเป็นจุดที่หลายคนยังรู้สึกว่า Vigo เดิมยังตอบสนองได้ไม่เต็มที่นัก
งานนี้ Toyota พยายามปรับปรุงและพยายามใช้ศัพท์ทางการตลาดสวยหรู แต่ชาวบ้านเข้าใจได้ง่ายมาก ๆ นั่นก็คือระบบ
ควบคุมช่วงล่างใหม่แบบพลวัต DCS (Dynamic Control Suspension) ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนใหม่และโครงสร้าง
แชสซีส์ใหม่ FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism)

โครงสร้างแชสซีส์ใหม่ FIRM (Frame with Integrated Rigidity Mechanism) ก็คือการความแข็งแกร่งของโครงสร้าง
แชสซีส์มากถึง 20% โดยการเพิ่มขนาดพื้นที่ตัดขวางของแชสซีส์ให้ใหญ่ขึ้น เพิ่มจุดเชื่อมต่อของคานเหล็กแนวขวางให้
แข็งแรงกว่าเดิม ช่วยให้ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้มากกว่า ทรงตัวดีขึ้น รองรับน้ำหนักบรรทุกได้เต็มประสิทธิภาพและแชส
ซีส์ใหม่ถูกออกแบบให้ดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้ดีกว่าเดิมถึง 15%

งานนี้ Toyota ถึงขั้นเคลมเลยว่า สามารถขับได้ทุกถนนทรหด แต่มีความนุ่มนวลคล้ายรถ SUV ระดับหรู มีความสามารถ
ในการทรงตัวดีขึ้น นั่นเป็นเพราะ แหนบถูกออกแบบให้ยาวขึ้น สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดียิ่งกว่า ให้ความนุ่มนวล
ดุจรถยนต์นั่ง และระยะห่างของแหนบซ้าย-ขวา ถูกขยายให้กว้างกว่าเดิม เพิ่มเสถียรภาพการทรงตัวทั้งแนวเส้นตรงและ
ขณะเข้าโค้ง รวมถึงโช๊คอัพถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบแปลก ๆ ระบบควบคุมเสถียรภาพของห้องโดยสาร (Body Control with Torque
Demand) ระบบจะทำการควบคุมแรงบิด ช่วยลดการกระพือของห้องโดยสารอันเนื่องมาจากสภาพถนน ให้การขับขี่
ราบเรียบ และนุ่มนวลยิ่งขึ้น *เฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_05

จุดขาย 3 – ความพยายามปฏิวัติเรื่องการควบคุม ด้วยระบบเกียร์ธรรมดาอัจฉริยะ iMT 6 สปีดในรถกระบะและล่าสุด
เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะมีสวิตช์ปรับรูปแบบการขับขี่ (Drive Mode Switch) สามารถเลือกรูปแบบสมรรถนะการขับขี่ได้
ตามต้องการ ทั้งแบบประหยัด (ECO Mode) และ แบบสมรรถนะสูง (Power Mode)

มาพร้อมกับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ A-TRC (Active Traction Control) พัฒนาเพื่อการขับขี่สไตล์ Off
Road อย่างแท้จริง ระบบจะทำงานผสานกันระหว่างเครื่องยนต์และระบบเบรก เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่าล้อใด เริ่ม
สูญเสียแรงขับเคลื่อนขณะรถวิ่งผ่านพื้นผิวลื่น ระบบ A-TRC จะลดแรงขับที่ส่งไปยังล้อนั้น เพื่อป้องกันล้อหมุนฟรี และเพิ่ม
แรงขับไปยังล้อที่เหลือ เพื่อให้รถสามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้อย่างราบรื่น และระบบล็อกเฟืองท้ายควบคุมการทำงานด้วย
ไฟฟ้า

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_PreRunner4

จุดขาย 4 – ความพยายามปฏิวัติเรื่องรูปร่างหน้าตา Toyota กล่าวว่า Hilux Revo มีรูปลักษณ์ดูแข็งแกร่ง, ดุดัน แต่มีเส้น
โฉบเฉี่ยวพลิ้วไหวทั้งภายนอกและภายใน

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_PreRunner5 2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_PreRunner6

จุดขาย 5 – ความพยายามปฏิวัติความสะดวกสบายภายในห้องโดยสาร ถึงขั้นเพิ่มฟีเจอร์ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
(Cruise Control), ระบบเครื่องเสียงพร้อมเนวิเกเตอร์ แบบหน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว … รองรับระบบนำทาง T-Connect
และการเชื่อมต่อ USB / AUX / Bluetooth พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง, Push Start/Smart Entry

พร้อมติดตั้งวัสดุซับเสียงขนาดใหญ่, ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V, กล่องเก็บของพร้อมระบบรักษาความ
เย็นหน้าคอนโซลรถ แถมยังมีแอร์หลังให้คนนั่งหลังนั่งชื่นใจหน่อย

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_04

จุดขาย 6 – ระบบความปลอดภัยที่อัดแน่นเพื่อลบข้อครหาว่า Vigo เป็นรถไม่ปลอดภัยด้วยฟังก์ชันดังต่อไปนี้

ระบบป้องกัน Active Safety
-ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control) … ป้องกันการเกิดอาการล้อหมุนฟรี เมื่อขับอยู่บนผิวถนนที่ลื่น ซึ่งเป็น
สาเหตุของการลื่นไถลทำให้รถเสียการทรงตัว
-ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) … ขณะเข้าโค้งบนถนนที่เปียกลื่น ระบบจะควบคุมกำลัง
เครื่องยนต์ และส่งแรงเบรกไปยังล้อแต่ละล้อแบบอัตโนมัติ เพื่อป้องกันภาวะมุดโค้ง (Understeer) หรือแหกโค้ง
(Oversteer) จึงช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำและมั่นคงขึ้น
-ระบบป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System)
-ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) โดยระบบช่วยกระจายแรงเบรกในแต่ละล้อ
อย่างสมดุล เพื่อป้องกันอาการท้ายสะบัดและกระจายแรงเบรกล้อซ้าย-ขวาในขณะเข้าโค้ง เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้น
-ระบบเสริมแรงเบรก BA (Brake Assist)
-ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย TSC (Trailer Sway Control) … เมื่อวิ่งบนพื้นถนนขรุขระ หรือใช้งานลากจูง
และต้องเผชิญลมพัดขวางรุนแรง เซ็นเซอร์จะปรับแรงดันเบรกและกำลังของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมช่วยรักษาเสถียรภาพ
ป้องกันรถส่ายหรือเสียการทรงตัว
-ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC(Hill-start assist control) … เมื่อต้องออกตัวบนทางลื่นและลาดชันระบบจะ
เพิ่มแรงดันเบรกไปยังล้อทั้ง 4 อัตโนมัติ เพื่อป้องกันลื่นไถลลงเนินชันในจังหวะที่ผู้ขับขี่ถอนเท้าจากแป้นเบรกไปเหยียบ
คันเร่ง ช่วยให้ผู้ขับขี่ขับสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นคง
-ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน DAC (Downhill Assist Control) … เมื่อต้องขับเคลื่อนลงเนินชัน ระบบจะ
ควบคุมแรงดันเบรกที่ล้ออัตโนมัติ โดยผู้ขับขี่ไม่จำเป็นต้องแตะเบรก ช่วยให้เคลื่อนที่ลงเนินชันด้วยความเร็วสม่ำเสมอ
ควบคุมได้อย่างมั่นใจ
-กล้องมองหลัง … ระบบจะแสดงภาพบริเวณมุมมองด้านหลังของรถผ่านจอ LCD เมื่อเข้าเกียร์ถอย

ระบบปกป้อง Passive Safety
-ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่งรอบคัน (จะมีกระบะคันไหนให้มากกว่านี้ไหม?)
-โครงสร้างตัวถังนิรภัย …โครงสร้างห้องโดยสาร ได้รับการพัฒนาเป็นพิเศษให้แกร่งยิ่งขึ้นโดยการใช้เหล็กกล้าแรงดึงสูง
(High Tensile Strength Steel) เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับและกระจายแรงกระแทกจากการชนได้อย่างดีเยี่ยม

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Single_Cab_07

แนวคิดการสื่อสารทางการตลาด Toyota Hilux Revo คือ “ไฮลักซ์ รีโว่ ปฏิวัติทุกมิติ แห่งกระบะอนาคต” โดยใช้กลยุทธ์
ทางการตลาดที่มุ่งเน้นให้เกิดการรับรู้แบรนด์สูงสุด ด้วยแผนการสื่อสารการตลาดที่ครอบคลุมทุกช่องทาง พร้อมการ
ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ รวมทั้งสื่อดิจิตอลในเว็ปไซต์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่วันนี้เป็น
ต้นไป

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_03

และเพื่อให้ Toyota Hilux Revo โด่งดังไปทั่วไทย Toyota จึงจัดกิจกรรมเปิดตัว Hilux REVO อย่างเป็นทางการที่ ศูนย์
นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ พร้อมงานเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใน 4 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งที่โชว์
รูม Toyota 427 แห่งทั่วประเทศ ในวันที่ 22 – 24 พฤษภาคมนี้ ซึ่ง Toyota ได้จัดเตรียมรถทดลองขับไว้ให้ลูกค้าได้สัมผัส
กันอย่างทั่วถึง โดยหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Toyota จะไปสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าทุกภูมิภาคให้สัมผัส
Hilux REVO ด้วยกิจกรรมคาราวาน “Hilux REVO โชว์ถึงถิ่นทั่วประเทศ”

ยังไม่พอ Toyota จะเปิดสนามทดลองขับ Toyota ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นสนามทดลองขับมาตรฐาน ซึ่งลูกค้าที่สนใจ
สามารถมาร่วมสัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่เพื่อพิสูจน์สมรรถนะกับ Hilux REVO ด้วยตัวของเขาเอง

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_PreRunner2

Hilux REVO มีให้เลือกถึง 3 รุ่น 33 แบบ โดยเพิ่มสายผลิตภัณฑ์ใหม่ในรุ่นมาตรฐานขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั้งนี้ Hilux REVO
รุ่นดับเบิ้ลแค็บ และรุ่นมาตรฐาน พร้อมส่งมอบให้คนที่สนใจตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สำหรับรุ่นสมาร์ทแค็บ สามารถจับจอง
เป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันนี้ โดยเริ่มทำการส่งมอบได้ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน เป็นต้นไป

2015_05_21_Toyota_Hilux_Revo_Double_Cab_07

พร้อมกันนี้ Hilux REVO มีสีให้เลือกทั้งสิ้น 7 สี โดยเป็นสีใหม่ด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Nebula Blue สีแดง Crimson
Spark Red และสีขาวมุก White Pearl Crystal ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 569,000 บาท พร้อมเป้าหมายการขายที่ 14,000
คันต่อเดือน”

บทความ First Impression ลองขับ Hilux Revo มาแล้ว! คลิกที่นี่ได้เลย