ประเทศอังกฤษเปิดเผยว่า มลพิษทางอากาศได้ส่งผลให้ชาวเมือง เสียชีวิตเป็นจำนวนสูงถึง 40,000 คนต่อปี ภาครัฐจึงประกาศเตรียมห้ามจำหน่ายรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน และเครื่องยนต์ดีเซลตั้งแต่ปี 2040 เป็นต้นไป โดยจะมีเพียงรถยนต์ไฟฟ้า EV, รถยนต์ Hybrid และ รถยนต์ Plug-In Hybrid ที่ยังออกขายได้เท่านั้น

นโยบายนี้ถูกประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรโดย Department for Environment, Food and Rural Affairs โดยระบุเอาไว้ด้วยว่าการห้าม (จำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน) ดังกล่าวจะบังคับใช้เป็นระยะเวลาหนึ่งเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ดังนั้นยังมีความเป็นไปได้ที่ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในเพียงอย่างเดียวจะกลับมาอีกครั้ง เมื่อมลพิษทางอากาศลดลง

โฆษกรัฐบาลประเทศอังกฤษระบุว่า มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุด ทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายเป็นมูลค่าสูงถึง 2,700 ล้านปอนด์ต่อปี (ราว 116,100 ล้านบาท) ดังนั้นรัฐจึงต้องการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังโดยเร่งด่วน ทั้งยังมีการตั้งงบประมาณมูลค่า 3,000 ล้านปอนด์ (ราว 129,000 ล้านบาท) เพื่อลดมลพิษจากรถยนต์อีกด้วย

งบประมาณที่ตั้งขึ้นจะนำไปสร้างจุดชาร์จไฟเพิ่ม รวมไปถึงการปรับปรุงระบบขนส่งมวลชนให้มีมลพิษน้อยลง นอกจากนี้ ยังมีการพิจารณากำจัดเนินลูกระนาด, พัฒนาให้การจราจรคล่องตัวขึ้น และทำลายรถยนต์เก่าที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลอีกด้วย

สำหรับสถานการณ์ยอดขายรถยนต์ Plug-in Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็น 4% ของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั้งหมด และเมื่อเจาะลึกลงไปในยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว จะคิดเป็นเพียง 1:4 ส่วนของ 4% แรกเท่านั้น จึงกล่าวได้ว่าสัดส่วนรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอังกฤษยังคงน้อยอยู่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณรถยนต์ Plug-in Hybrid และรถยนต์ไฟฟ้าจะแตะระดับ 1 ล้านคันในปี 2022

ในฟากของผู้ผลิตรถยนต์ ส่วนใหญ่ล้วนเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม Mike Hawes ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของ Society of Motor Manufacturers & Traders ให้ความเห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์ อาจมีเวลาไม่เพียงพอในการปรับตัวเข้ากับนโยบายนี้ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่น่ากังวลทั้งต้นทุนเทคโนโลยี และมุมมองของผู้บริโภคว่าจะรับรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือไม่

Hawes ยังระบุด้วยว่า ในปัจจุบันความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจากตลาดยังเติบโตอย่างช้าๆ เนื่องจากผู้บริโภคยังกังวลเรื่องราคา, ระยะทางที่เดินทางได้ต่อการชาร์จ และจุดชาร์จ ดังนั้นเราต้องติดตามต่อว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนถึงปี 2040 รัฐบาลอังกฤษจะสามารถทำลายจุดที่ผู้บริโภคกังวลอยู่ได้มากน้อยแค่ไหน และโดยวิธีใดเพื่อให้นโยบายแบนรถยนต์ ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ที่มา: autocar, carscoops