ที่งาน IAA Frankfurt Motor Show 2017 นอกเหนือจากการเปิดตัว Porsche 911 GT3 Touring Package แล้ว อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ Porsche ก็คือ การเปิดตัว All NEW Cayenne Turbo ที่มาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน V8 4.0 ลิตร Bi-Turbo สู่สายตาสาธารณชน ที่เข้าชมมหกรรมงานแสดงยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป

All NEW Cayenne Turbo ถือเป็นรถยนต์ SUV สมรรถนะสูง เกรดสูงสุด ณ ตอนนี้ในไลน์อัพของ Cayenne รุ่นปัจจุบัน (3rd Generation) หลังจากก่อนหน้านี้ ได้เปิดตัวไปแล้ว 2 รหัส ได้แก่ Cayenne และ Cayenne S (สามารถดูรายละเอียดได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/all-new-porsche-cayenne-generation3-official/)

เครื่องยนต์อันทรงพลัง ที่ประจำการอยู่ใน All NEW Porsche Cayenne Turbo ถูกยกชุดมากจาก Porsche Panamera Turbo ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

เครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร 3,996 ซีซี. Bi-Turbo กำลังสูงสุด 550 แรงม้า ที่ 5,750 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร ที่ 1,960 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TipTronic S ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ปล่อย CO2 ที่ 267 – 272 g./km. ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 4.1 วินาที (3.9 วินาที ในโหมด Sport Plus) ความเร็วสูงสุด 286 km/h

เมื่อเทียบกับ Cayenne Turbo รุ่นเดิม (2nd Generation) พบว่า มีแรงม้าเพิ่มขึ้น 20 แรงม้า และ แรงบิดเพิ่มขึ้น 20 นิวตันเมตร

ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องยนต์ที่ถูกอัพเกรดขึ้นเท่านั้น การออกแบบตัวถังภายนอก และภายในห้องโดยสาร ยังถูกปรับเปลี่ยน และติดตั้งอุปกรณ์พิเศษเฉพาะรุ่น เพื่อรองรับกับสมรรถนะที่สูงขึ้น รวมถึงสร้างเอกลักษณ์เพื่อบ่งบอกว่าเป็นรุ่นสูงสุดในไลน์อัพของ Cayenne ด้วยเช่นกัน

ด้านหน้ามีการปรับดีไซน์ของชุดกันชนหน้า ให้ดูดุดันขึ้น ขยายช่องดักอากาศซ้าย-ขวา ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม เพื่อส่งผ่านอากาศสู่ห้องเผาไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ด้านหลังมาพร้อมท่อไอเสียคู่ทรงเหลี่ยม สองฝั่งซ้าย-ขวา และเป็นครั้งแรกในรถยนต์ SUV ที่ติดตั้งสปลอยเลอร์เหนือฝากกระโปรงท้าย แบบ Active Aerodynamics ที่สามารถปรับมุมองศาอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มแรงกดอากาศบริเวณท้ายรถ และช่วยเสริมประสิทธิภาพการเบรกจากความเร็วสูง มีการอ้างอิงผลทดสอบเบรกแบบเต็มที่ ที่ความเร็ว 250-0 km/h สามารถลดระยะทางการเบรกได้ถึง 2 เมตร

 

ในส่วนของระบบเบรก มีการใช้เทคโนโลยี Porsche Surface Coated Brake (PSCB) ที่เคลือบ Tungsten carbide บนจานเบรก ติดตั้งเป็นมาตรฐานสำหรับ All NEW Cayenne Turbo และสามารถติดตั้ง Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) หรือเบรกเซรามิก เป็นอุปกรณ์เสริมได้

ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งใหม่ ให้มีความแตกต่างจาก Cayenne รุ่นอื่นๆ ด้วยการใช้โทนสีดำ เพิ่มเบาะนั่งคู่หน้าปรับด้วยไฟฟ้า 18 ทิศทาง ประทับตราสัญลักษณ์ Turbo บริเวณหมอนรองศีรษะ มีระบบอุ่นสำหรับเบาะนั่ง และ พวงมาลัย

นอกจากนั้นยังติดตั้งระบบเครื่องเสียง BOSE® Surround Sound System กำลังขับ 710 วัตต์ เพื่อเอาใจลูกค้าหูเทพด้วยเช่นกัน

สำหรับคนที่ต้องการเป็นเจ้าของ All NEW Porsche Cayenne Turbo สามารถสั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ โดยกำหนดส่งมอบในเยอรมัน อาจจะเริ่มต้นขึ้น ในช่วงปลายปี 2017 ถึง ช่วงต้นปี 2018

ราคาจำหน่ายของ All NEW Porsche Cayenne Turbo ในเยอรมัน (ยังไม่รวมภาษีของประเทศไทย) อยู่ที่ 138,850 ยูโร (ประมาณ 5,500,000 บาท)

ที่มา : Porsche


อ่านรายละเอียดทั้งหมดของ All NEW Porsche Cayenne (3rd Generation) ได้ที่นี่ >> http://www.headlightmag.com/all-new-porsche-cayenne-generation3-official/

ข้อมูลเครื่องยนต์ของ Cayenne ทั้ง 3 รหัส

Cayenne

เครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร 2,995 ซีซี. พ่วงเทอร์โบ กำลังสูงสุด 340 แรงม้า ที่ 5,300 – 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,340 – 5,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TipTronic S ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปล่อย CO2 ที่ 205 – 209 g./km. ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 6.2 วินาที (5.9 วินาที ในโหมด Sport Plus)ความเร็วสูงสุด 245 km/h

Cayenne S

เครื่องยนต์เบนซิน V6 2.9 ลิตร 2,894 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 440 แรงม้า ที่ 5,700 – 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TipTronic S ขับเคลื่อน 4 ล้อ ปล่อย CO2 ที่ 209 – 213 g./km. ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 5.2 วินาที (4.9 วินาที ในโหมด Sport Plus) ความเร็วสูงสุด 265 km/h

Cayenne Turbo

เครื่องยนต์เบนซิน V8 4.0 ลิตร 3,996 ซีซี. Bi-Turbo กำลังสูงสุด 550 แรงม้า ที่ 5,750 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 770 นิวตันเมตร ที่ 1,960 – 4,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TipTronic S ขับเคลื่อน 4 ล้อ All-Wheel Drive ปล่อย CO2 ที่ 267 – 272 g./km. ทำอัตราเร่ง 0-100 km/h ได้ภายใน 4.1 วินาที (3.9 วินาที ในโหมด Sport Plus) ความเร็วสูงสุด 286 km/h