ตามหลังกระบะร่วมสายพันธุ์ Ford Ranger Minorchange มาแบบติดๆ สำหรับ SUV-PPV ที่สร้างขึ้นบนเฟรมแชสซีส์เดียวกันอย่าง Ford Everest Minorchange ที่ตอนนี้เผยข้อมูลแล้วที่ออสเตรเลีย ความเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือการเพิ่มทางเลือกเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.0 Bi-Turbo 213 แรงม้า เหมือนที่อยู่ใน Ranger RAPTOR และ Ranger Minorchange

ข้อมูลต่างๆอย่างเป็นทางการยังไม่ได้เผยออกมามากนัก แต่สิ่งที่สังเกตได้จากภาพภายนอก คือ การเปลี่ยนแปลงงานดีไซน์ด้านหน้าตัวรถ ไล่ตั้งแต่ กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนจากเส้นโครเมียมแถบคู่ขนาดใหญ่ เป็น เส้นโครเมี่ยมที่ดูเบาบางลง แต่เพิ่มจำนวนเป็น 3 แถบ พร้อมตะแกรงรังผึ้งด้านใน กันชนหน้ามีการปรับเปลี่ยนเพิ่มแถบบนสีเงินเมทัลลิคเข้ามา

ในรุ่น Titianium+ ที่เป็นรุ่นท้อปสุดของรุ่น เปลี่ยนลายล้อใหม่เป็นแบบ 6 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ส่วนรุ่น Titanium ยังคงใช้ล้อขนาด 18 นิ้วลายเดิม นอกเหนือจากนี้เห็นทีจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเพิ่มเติมจากเดิมเท่าไรนัก

นอกเหนือจากการปรับปรุงงานดีไซน์ด้านหน้าตัวรถเล็กน้อยแล้ว มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยมีการเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีระบบ Active Safety (ระบบความปลอดภัยก่อนเกิดเหตุ) อยู่แล้ว ก็จะเพิ่มความสามารถในการปกป้องมากขึ้น

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่าง Adaptive Cruise Control
  • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System
  • ระบบเตือนรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keeping System
  • ระบบช่วยเตือนการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ Driver Alert System
  • ระบบเบรกอัตโนมัติ ตรวจจับรถ และ คนเดินถนน AEB : Autonomous Emergency Braking (NEW)

โดยระบบเบรกอัตโนมัติ AEB จะใช้เรดาร์ และ กล้องด้านหน้ารถในการตรวจจับวัตถุด้านหน้า ทำงานเมื่อความเร็วมากกว่า 3.6 km/h (ปกติระบบเดิม เตือนการชนด้านหน้า Forward Collision Warning System จะทำการส่งสัญญาณไฟ และ สัญญาณเสียงเตือนเท่านั้น ไม่ได้ช่วยเบรกอัตโนมัติ)

ภายในห้องโดยสารแม้ยังจะไม่มีภาพอย่างเป็นทางการออกมา แต่ทาง Ford Australia ได้ระบุว่า ภายในห้องโดยสารจะมีการใช้วัสดุบุนุ่ม Soft Touch เพิ่มเติมในหลายๆจุด โดยเฉพาะส่วนที่ร่างกายของผู้ขับขี่ และ ผู้โดยสารจะสัมผัสเวลาโดยสารในรถ โทนสีภายในห้องโดยสาร จะมีการใช้โทนสีน้ำตาลเข้ม Ebony เข้ามา

ด้านระบบอำนวยความสะดวกที่ลูกค้าชาวไทยหลายคนเรียกร้อง และ รอคอย ก็ได้ติดตั้งมาแล้วในรุ่น Minorchange นี้ ได้แก่

  • ระบบกุญแจอัจฉริยะ Smart Keyless Entry (NEW)
  • ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button (NEW)
  • ระบบเปิด-ปิด ฝาท้ายด้วยระบบไฟฟ้า โดยไม่ต้องใช้มือ (เตะเปิด) Hands-Free Tailgate (NEW)

 

หัวใจสำคัญของการปรับเปลี่ยน Minorchange รอบนี้ของ Everest เวอร์ชั่นออสเตรเลีย คือ มีการเพิ่มทางเลือกใหม่ ดีเซล 2.0 ลิตร Bi-Turbo เหมือนใน Ranger RAPTOR / Ranger Minorchange ที่เปิดข้อมูลไปเมื่อไม่กี่วันก่อน

Diesel 2.0 EcoBlue Bi-Turbo (NEW)

เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue TDCi 4 สูบแถวเรียง ขนาด 2.0 ลิตร 1,996 ซีซี. พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 213 แรงม้า (PS) ที่ 3,750 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ พร้อมปุ่มเปลี่ยนเกียร์ Manual Mode + – ที่หัวเกียร์

โดยอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ตัวเลขจากโรงงานของเครื่องยนต์ใหม่ ดีเซล 2.0 Bi-Turbo ใน Ford Everest Minorchange เทียบกับเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตร

  • 3.2 Duratorq 200 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 11.90 km/l (8.4 l/100 km.) *ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ
  • 2.0 Bi-Turbo 213 แรงม้า อัตราสิ้นเปลือง 14.49 km/l (6.9 l/100 km.) *ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ

 

ในขณะที่เครื่องยนต์เดิมอย่าง ดีเซล 3.2 ลิตร ก็ยังคงมีให้เลือกอยู่เหมือนเดิม (Ford Australia แต่เดิมทีไม่มี Everest ดีเซล 2.2 ลิตร จำหน่าย มีเพียงเครื่องยนต์ 3.2 ลิตรเท่านั้น)

3.2 Duratorq

เครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบแถวเรียง 20 วาล์ว Duratorq TDCi ขนาด 3.2 ลิตร 3,198 ซีซี พร้อมเทอร์โบแปรผันแบบมีครีบ VG Turbo พร้อม Intercooler ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ที่ 3,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 470 นิวตันเมตร ที่ 1,750 – 2,500 รอบ/นาที จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ / เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

Ford Everest Minorchange เวอร์ชั่นออสเตรเลีย จะมาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง เริ่มส่งมอบ และ ขึ้นโชว์รูมได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2018 นี้ (เดือน ตุลาคม – ธันวาคม) ตามหลัง Ranger Minorchange ไม่นานนัก

ส่วนในประเทศไทย Ford Everest Minorchange มีกำหนดการเปิดตัวภายในครึ่งปีหลัง ของปี 2018 นี้ พร้อมเครื่องยนต์ 2.0 Bi-Turbo และ น่าจะยังคงเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร และ 3.2 ลิตรเอาไว้ในบางรุ่น ตามหลัง Ranger Minorchange ไม่นานนัก คงต้องรอติดตามชมกันอย่างใกล้ชิด

 

ที่มา : www.whichcar.com.au


แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่ >> community.headlightmag.com/65157.0


บทความที่น่าสนใจ : Ford Ranger Minorchange เปิดตัวที่ออสเตรเลีย 2.0 Bi-Turbo 213 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ >> http://www.headlightmag.com/ford-ranger-minorchange-debut-australia/

Ford Ranger Minorchange เปิดตัวที่ออสเตรเลีย 2.0 Bi-Turbo 213 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ