ถึงแม้ว่า Toyota Camry จะยังคงเป็นรถซีดาน D-Segment ที่ขายดีอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกา (รวมถึงตลาดไทยด้วย)ใน
ปีที่แล้วและปีหน้า แต่ก็ใช่ว่าจะยืนหยัดอยู่ยงเป็นอันดับ 1 ได้สบาย ๆ เหมือนแต่ก่อน เพราะในวันนี้มีคู่แข่งที่โดดเด่นมาก
หน้าหลายตาเกิดขึ้นมาเพียบ และในปีหน้าจะเป็นปีพิสูจน์ความเป็นอันดับ 1 ของ Toyota Camry อย่างแท้จริง

สำนักข่าว Bloomberg ได้รวบรวมประเด็นจากผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์สหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับยอดขายของ Toyota
Camry ในตลาดสหรัฐอเมริกาปี 2014 และหลายฝ่ายก็เชื่อว่า Toyota Camry อาจจะไม่ใช่รถเบอร์ 1 ภายในปี 2014 ก็
เป็นได้

Eric Noble ผู้บริหาร Car Lab บริษัทที่ปรึกษาอุตสาหกรรมกล่าวว่า Camry 2-3 เจเนเรชั่นที่ผ่านมาอยู่ได้เพราะมีจังหวะ
ที่ดีของมัน แต่เมื่อโลกได้เปลี่ยนไปคู่แข่งก็เริ่มทัดเทียมเข้ามามากขึ้น

alt

ปัจจุบัน Toyota Camry ยังครองตำแหน่งรถยนต์นั่ง D-Segment ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 อยู่ ตามมาด้วย Honda
Accord, Nissan Altima (Teana), Ford Fusion (Mondeo) แต่เมื่อดูสถานการณ์การแข่งขันแล้ว Ford ก็เตรียมขยาย
ไลน์ผลิต Fusion ให้มากกว่าเดิม และยังรวมไปถึงการแนะนำตัวของ Chevrolet Malibu รุ่นปรับปรุงโฉมยกใหญ่และ
Hyundai Sonata Modelchange ภายในปี 2014 ก็ยิ่งทำให้สถานการณ์ของ Toyota Camry แข่งขันยากลำบากขึ้น

และถึงแม้ Toyota Camry จะเสียแชมป์ในปีหน้า Toyota ก็คงไม่นิ่งนอนใจที่จะอยู่เฉย ๆ แน่

Jim Lentz ซีอีโอ Toyota อเมริกาได้ลงความเห็นว่า ถ้าลูกค้ามองหารถในกลุ่มนี้ ก็มีรถที่น่าซื้อให้เลือกกันเยอะ หาก
เปรียบเทียบในช่วง 10-15 ปีที่แล้วลูกค้าจะมองกันแค่ 2 รุ่นคือ Camry กับ Accord เท่านั้น

ยอดขายสะสม Toyota Camry ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิงหาคม 2013 มีถึง 287,119 คันเติบโต 22% รองลงมาคือ Honda
Accord 256,926 คันเติบโต 17%, Nissan Altima 228,297 คัน เติบโต 8.9%, Ford Fusion 206,321 คันเติบโต 13% แต่
ไฮไลต์สำคัญคือ Toyota จะต้องลดค่าดำเนินการลง 6.4% ขณะที่ Honda Accord จะสามารถบวกค่าดำเนินการได้อีก
7.7% และ Ford Fusion จะบวกเพิ่มได้ 4.5%

ฐานข้อมูลด้านราคาและข้อมูลจากเว็บไซต์ Edmuns.com ก็ได้แสดงผลออกมาว่า Toyota จำเป็นต้องอัดฉีดเงิน
สนับสนุนการขายเพิ่มเติมจากคันละ 1,879 ดอลลาร์เมื่อต้นปีเป็น 2,560 ดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม 2013 เหนือกว่า
ค่าเฉลี่ยเงินสนับสนุนการขายอยู่คันละ 2,193 ดอลลาร์ เมื่อเฉลี่ยราคาหลังหักเงินสนับสนุนการขายออกไปพบว่า Toyota
Camry จะมีราคาขายต่ำกว่าคู่แข่ง

Stephen Usher นักวิเคราะห์จาก Ji-Asia Research ได้สังเกตการณ์ว่า Toyota Camry ถือเป็นรถซีดานขนาดกลางรุ่น
ใหม่คันแรกที่ใช้กลยุทธ์ด้านราคาเมื่อเปรียบเทียบกับอายุตลาดที่แก่กว่า Accord, Altima, Fusion เพียง 1 ปี

งานวิจัยจาก Strategic Vision ได้แสดงผลว่าลูกค้าใหม่ที่กำลังพิจารณาจะซื้อ Camry ของกลุ่มสำรวจมี 3% (ด้วย
จำนวนกลุ่มสำรวจที่มหาศาลถึง 350,000 คน) แต่เมื่อเทียบกับความสนใจของปีก่อนก็พบว่าลูกค้าสนใจ Camry 4%
ส่วน Honda Accord ลูกค้ามีความสนใจจะซื้อในปีนี้ 4% (ในปี 2012 มีลูกค้าสนใจ 3%) และ Ford Fusion มีลูกค้า
สนใจจะซื้อ 4% จากเดิมที่มีเพียงแค่ 2% เท่านั้น

Christopher Chaney ประธาน Strategic Vision ได้แสดงความคิดเห็นว่าการสำรวจในเบื้องต้นก็จะมีผลต่อยอดขาย
ในอนาคต เมื่อลูกค้าสนใจมากขึ้นก็ต้องมีผลต่อยอดขายโดยตรงแน่นอน มีตัวอย่างให้เห็นแล้วโดยเฉพาะ Ford Fusion
ซึ่ง Ford Fusion มีจุดเด่นเหนือกว่า Toyota Camry ในด้านดีไซน์สไตล์ Aston Martin, มีภายในที่ดูพรีเมี่ยม จนทำให้
ผลิตขายกันไม่ทัน

2013 09 29 Toyota2

Joe Hinrichs ผู้บริหาร Ford อเมริกาเหนือกล่าวว่า หากพวกเขาผลิตได้มากกว่านี้ Ford Fusion จะขายได้มากกว่านี้อีกซึ่ง 
พวกเขาคาดหวังยอดขายในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก และยังคาดหวังยอดขายทั่วโลกอีกด้วย

แต่ Jim Lentz ซีอีโอ Toyota ก็แสดงความคิดเห็นว่า Honda Accord คือคู่แข่งรายสำคัญ ลูกค้า Camry จำนวน 25% ก็
เคยพิจารณาจะซื้อ Accord ด้วยเช่นกัน ส่วนกลุ่มลูกค้าที่จะซื้อ Ford Fusion มีเพียงแค่หลักหน่วยเปอร์เซ็นต์เท่านั้น และ
ยังกล่าวว่าในปี 2012 Toyota พลาดเพราะไม่มีชิ้นส่วนในการผลิต Camry ทำให้ส่งรถไม่ทันขณะที่คู่แข่งพร้อมใจกัน
เปิดตัวรถรุ่นใหม่ถึง 3 รุ่นพอดี

ผู้เข้าแข่งขัน Top4 ก็พร้อมใจกันขยายกำลังการผลิตเหมือนกัน Toyota ก็เร่งผลิต Camry จากโรงงานเคนตั๊กกี้และ
โรงงาน Subaru ในอินเดียน่ามากถึง 500,000 คันต่อปีเพื่อป้อนตลาดอเมริกาเหนือและเม็กซิโกโดยเฉพาะ, Honda
Accord ก็เร่งผลิตมากกว่าปีละ 4 แสนคัน, Nissan Altima ก็มีเป้าหมายเหมือน Honda

Jim Lentz ซีอีโอ Toyota กล่าวว่า Toyota ตั้งเป้าขายบนพื้นฐานของความต้องการจริงและมั่นใจว่าต้องถึงเป้าแน่ หากจะ
มีใครคิดอยากจะแซง พวกเขาต้องมีกำลังอำนาจมากกว่านี้

Bill Fay รองประธาน Toyota สหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า Toyota Camry มีแผนที่จะเปิดตัวรุ่นปรับปรุงโฉมภายใน 6 เดือน
ถึง 1 ปี และยังยืนยันว่า Camry ยังมีคนต้องการอยู่อีกมากเพราะลูกค้าคิดจะซื้อเพราะชอบในตัวรถจริง ๆ

Jessica Caldwell นักวิเคราะห์ยานยนต์อาวุโสแห่ง edmunds.com ได้ลงความเห็นว่า Toyota Camry ยังมีจุดเด่นคือ
ความนิยมแพร่หลายและความน่าเชื่อถือซึ่งพิสูจน์ได้จากประชากร Camry นับล้านคัน คงจะไม่ง่ายที่คู่แข่งขึ้นมาแทนที่ได้
แน่นอนว่า Toyota Camry จะรักษาตำแหน่งแชมป์ได้อย่างลำบากขึ้นแต่ก็ยังมีโอกาสแซงได้อยู่ เพราะรถใหม่กว่า เร้าใจ
กว่า แต่กลุ่มลูกค้าก็ต้องคิดอย่างจริงจัง อีกทั้ง Toyota ก็เล่นกลยุทธ์ด้านราคาเพื่อดึงดูดใจลูกค้าด้วย

ที่มา : http://www.bloomberg.com/news/2013-09-26/toyota-camry-s-run-as-no-1-u-s-sedan-may-end-next-year.html