กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ผู้ใช้รถใช้ถนนส่วนใหญ่ต่างทราบดีว่า วิธีการขับขี่อย่างปลอดภัยนั้นมีอะไรบ้าง แต่บ่อยครั้ง สิ่งที่เหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่พูดง่ายแต่ทำยาก
ดังตัวอย่างที่เห็นได้จากผลการสำรวจที่ฟอร์ดได้มีการสนับสนุนให้จัดทำขึ้นโดยบริษัทวิจัยด้านการตลาด เพนน์ โชเอน เบอร์แลนด์ (Penn Schoen Berland)
ในการสำรวจครั้งนี้ ผู้สำรวจได้สอบถามความคิดเห็นวัยรุ่น 500 คน และผู้ปกครองอีก 500 คนในประเทศสหรัฐ เกี่ยวกับพฤติกรรมและมุมมองด้านการขับขี่
โดยผลการสำรวจครั้งนี้นับว่าน่าสนใจทีเดียว

พฤติกรรมวอกแวกหรือขาดสมาธิระหว่างขับขี่นับเป็นปัญหาที่ผู้ปกครองแสดงความเป็นห่วงอย่างมาก โดยผลการสำรวจระบุว่า กิจกรรมยอดฮิตที่มักทำให้
วัยรุ่นเกิดอาการวอกแวกระหว่างขับขี่นั้น มีสัดส่วนดังนี้  

วัยรุ่น 62 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่าเคยเกิดอาการวอกแวก เพราะถูกรบกวนจากผู้ที่โดยสารมาด้วย
วัยรุ่น 61 เปอร์เซ็นต์ ยอมรับว่าเคยทานอาหารหรือเครื่องดื่มขณะขับรถ
วัยรุ่น 42 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าตนชอบเปิดวิทยุเสียงดังจนกลบเสียงจากรถคันอื่นๆ บนถนน
วัยรุ่น 51 เปอร์เซ็นต์ บอกว่าตนมักฟังเพลงจากไอพอดหรือเอ็มพี 3 ขณะขับรถ

alt

“จากผลสำรวจนี้แสดงเห็นว่า ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำให้รถยนต์ตอบสนองต่อไลฟสไตล์ของผู้ขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น”
นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว  

ระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร ฟอร์ด ซิงค์ ที่ฟอร์ดพัฒนาขึ้นร่วมกับไมโครซอฟท์ เป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารแบบ Hands-free ที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย
จากการช่วยให้ผู้ขับขี่สั่งงานโทรศัพท์เคลื่อนที่หรืออุปกรณ์เพื่อความบันเทิงแบบดิจิทัลแทบทุกชนิดได้ผ่านการเชื่อมต่อสัญญาณบลูทูธหรือช่องเชื่อมต่อยูเอสบี
ผู้ขับขี่จึงสามารถสั่งงานผ่านปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยหรือใช้คำสั่งเสียงควบคุมการทำงานของซิงค์ได้ ปัจจุบัน ฟอร์ด ซิงค์ ติดตั้งอยู่ในรถฟอร์ด โฟกัส ใหม่
และเร็วๆ นี้ ผู้ขับขี่รถยนต์นั่งขนาดเล็กจะได้สัมผัสการทำงานของฟอร์ด ซิงค์ ในรถฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยช่วงปลายปีนี้

จากผลการสำรวจทั้งกลุ่มวัยรุ่นและผู้ปกครองมีความเห็นตรงกันว่า วัยรุ่นหญิงขับรถปลอดภัยกว่าวัยรุ่นชาย ส่วนผลการสำรวจที่น่าสนใจอื่นๆ ระบุว่า   

– วัยรุ่นหญิง 87 เปอร์เซ็นต์ ผู้ปกครอง 78 เปอร์เซ็นต์ และวัยรุ่นชาย 73 เปอร์เซ็นต์ มีความเห็นว่า วัยรุ่นชายมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงบนท้องถนนมากกว่าวัยรุ่นหญิง
– วัยรุ่นหญิง 80 เปอร์เซ็นต์ ผู้ปกครอง 72 เปอร์เซ็นต์ และวัยรุ่นชาย 72 เปอร์เซ็นต์ มีความเห็นว่า วัยรุ่นชายมีแนวโน้มที่จะเมาแล้วขับมากกว่าวัยรุ่นหญิง   
– วัยรุ่นหญิง 81 เปอร์เซ็นต์ วัยรุ่นชาย 77 เปอร์เซ็นต์ และผู้ปกครอง 75 เปอร์เซ็นต์ มีความเห็นว่า วัยรุ่นชายมีแนวโน้มที่จะขับรถเร็วกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด
มากกว่าวัยรุ่นหญิง
– วัยรุ่นชาย 81 เปอร์เซ็นต์ วัยรุ่นหญิง 78 เปอร์เซ็นต์ และผู้ปกครอง 67 เปอร์เซ็นต์ มีความเห็นว่า วัยรุ่นหญิงมีแนวโน้มที่จะใช้โทรศัพท์ขณะขับรถมากกว่าวัยรุ่นชาย

alt

จากการสำรวจนี้ยังพบด้วยว่า แม้ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมเสี่ยง “โดยรวม” อยู่ในระดับต่ำ แต่ผู้ปกครองกลับมีแนวโน้มที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้งานขณะ
ขับรถมากกว่าวัยรุ่นถึง 40 เปอร์เซ็นต์ (ผู้ใหญ่ยอมรับว่าตนใช้โทรศัพท์ขณะขับรถถึง 28 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับวัยรุ่น 20 เปอร์เซ็นต์)

เห็นได้ชัดว่า หากรถยนต์มีการติดตั้งระบบเชื่อมต่อบลูทูธกับโทรศัพท์มือถือ และเปิดการเชื่อมต่อระหว่างการขับขี่ จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากการใช้
โทรศัพท์มือถือระหว่างการขับรถได้ดีกว่า เนื่องจากทำให้ผู้ขับขี่เกิดอาการวอกแวกได้น้อยลง ซึ่งการใส่ระบบ Bluetooth ในรถยนต์ น่าจะเป็นหนึ่งในลูกเล่นหลัก
ของตัวรถที่ผู้บริโภคจะมองหามากขึ้นในอนาคต