ภาพประกอบโดยคุณ NTP

Toyota Camry โฉมปัจจุบันเปิดตัวครั้งแรกเมื่อกันยายน 2006 ด้วยรูปโฉมที่แตกต่างจากเวอร์ชันญี่ปุ่น มาในแนวเรียบหรูแฝงความสปอร์ตเล็กน้อย สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการรถยนต์ขนาดกลางของเมืองไทยบทใหม่ ๆ ได้แก่ ยอดจองและยอดขายสูงสุดในรอบ 10 กว่าปีภายใต้ตระกูล Camry,พฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนแปลงจากการซื้อรถยนต์ระดับหรูพรีเมี่ยมสัญชาติเยอรมันเป็นรถขนาดกลางของญี่ปุ่นแทน ทำให้ยอดขายของ Camry ในช่วงปีแรกทำยอดขายไปได้เฉลี่ยเดือนละ 1,500 คัน

เมื่อตลาด D-segment เริ่มขยายตัวมากขึ้นจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ทำให้ Honda Accord โฉมใหม่ได้รับอานิสงค์ไปด้วยรวมทั้ง Nissan Teana โฉมใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวก็มียอดจองที่น่าพอใจเช่นกัน Toyota ไม่รอให้คู่แข่งดึงความสนใจไปจนหมด อีกไม่นานจะส่ง Camry Minorchange พร้อมเวอร์ชันไฮบริดประกอบที่ไทยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ยานยนต์ภายในเดือนสิงหาคมนี้ รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรให้ดูที่คอลัมน์ World’s Newcar

แต่ความเคลื่อนไหวที่กระเพื่อมดังไม่แพ้กันคือความคืบหน้าของ All New Camry รหัสพัฒนา 050A ที่เปิดเผยรายละเอียดโครงการบางส่วนให้ทุกท่านได้ทราบกัน ผู้อ่านบางท่านทราบดีว่าตระกูล Camry เป็นรถซีดานขนาดกลางทำตลาดมานานกว่า 20 ปีได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา จีน เอเชียบางประเทศ ขณะที่ตลาดญี่ปุ่นเริ่มเสื่อมความนิยมลงเรื่อย ๆ เพราะนับวันคนรุ่นใหม่จะหันไปซื้อรถที่เล็กลง หรือรถมินิแวนหรือรถซีดานขนาดกลางขับหลังไปเลย ดังนั้นตลาดที่สำคัญของ Camry ปัจจุบันคือสหรัฐอเมริกา,จีน,รัสเซีย,เอเชียบางประเทศ รวมทั้งรัสเซีย,บราซิลอีกด้วย

งานดีไซน์ของ Camry Modelchange จะแบ่งเป็น 2 เวอร์ชันที่ต่างกันแค่ด้านหน้าและด้านท้ายเหมือนที่ผ่านมา เวอร์ชันญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาจะประยุกต์เส้นสายจากของเดิมให้รู้สึกภูมิฐานขึ้นเล็กน้อย  จะไม่ฉีกแนวจากของเดิมมาก ส่วนเวอร์ชันประเทศไทยและตลาดโลกอื่น ๆ คาดว่าจะมาในแนว Avensis ผสมกับดีไซน์ของรุ่นปัจจุบันแต่จะภูมิฐานมากขึ้น ดังภาพที่คุณ NTP นักวาดแบบของเวบวาดตามจินตนาการครับ

รายละเอียดทางวิศวกรรมยืนยันว่าใช้พื้นตัวถังแบบเดิมที่ใช้ในปัจจุบันแต่ปรับปรุงฐานล้อและประสิทธิภาพให้ดีขึ้น เครื่องยนต์สำหรับตลาดประเทศไทยมีให้เลือกมากถึง 4 ทางเลือกได้แก่

-เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร รหัส 1AZ-FE 4 สูบ จับคู่กับเกียร์ 4 จังหวะ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมไม่นำเครื่อง 3ZR-FE มาลง คงต้องรอคำตอบช่วงใกล้เปิดตัวกัน
-เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร บล๊อกใหม่เอี่ยมรหัส 2AR-FE 4 สูบ Dual VVT-I  จับคู่เกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ 6 จังหวะ พละกำลังไม่ยืนยันว่าบ้านเราจะได้ใช้ความแรง 169 แรงม้าหรือ 179 แรงม้ากันแน่? แต่ถือว่าเริ่มแข่งขันที่ความจุกันแล้วจากเดิมจะแข่งกันแค่ 2.4 ลิตร ก็ยกระดับเป็น 2.5 ลิตร Nissan Teana คือรายแรกที่ริเริ่มขยายความจุที่พอดีกับปริมาตรสูงสุดภาษีพอดิบพอดี
-เครื่องยนต์ Hybrid THS III ปรับปรุงการเผาไหม้เครื่อง 2AR-FE เป็นแบบ Atkinson ผนวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่เก็บประจุด้วยแบตเตอรี่ลิเธี่ยมไออน
-เครื่องยนต์ 3.5 ลิตร V6 รหัส 2GR-FE จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ

ถือว่าเป็นการทำตลาดที่ครบความต้องการของลูกค้ายุคปัจจุบันได้ดีกว่าคู่แข่ง เชื่อว่าความสำเร็จจากรุ่นปัจจุบันจะต่อยอดไปสู่รุ่นใหม่ได้ไม่ยากเย็นนัก

กำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่นประมาณเดือนมิถุนายน 2011 ประเทศไทยจะได้เห็นแน่นอนภายในปี 2012 ไม่เร็วและช้าไปกว่านี้


สงวนลิขสิทธิ์โดย Headlightmag.com