เราเชื่อว่าชาวไทยหลายคนก็ยังอยากให้รัฐบาลหรือบริษัทเอกชนสร้างแบรนด์รถยนต์ในท้องถิ่นเพื่อเป็นหน้าเป็นตาให้แก่
ประเทศบ้าง หลายคนยังอิจฉาประเทศจีนที่มีแบรนด์รถยนต์ท้องถิ่นมหาศาล ดูผิวเผินก็น่าตื่นตาและภูมิใจแทนกับพวก
เขา แต่เบื้องลึกนั้นคุณเชื่อหรือไม่ว่าส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์จีนรวมกันร้อยค่ายยังสู้ค่ายดังสิบ ๆ ค่ายไม่ได้เลย

alt

สำนักข่าว Automotive news ได้รายงานว่ารัฐบาลจีนได้ล้มเหลวในการสร้างแบรนด์รถยนต์ท้องถิ่นอย่างมาก ถึงแม้ว่า
รัฐบาลจะออกมาตรฐานส่งเสริมการลงทุนให้บริษัทรถยนต์ต่างชาติจดทะเบียนเป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัทเอกชนในจีน
เพื่อช่วยให้บริษัทต่างชาติได้สิทธิ์ประโยชน์การลงทุนอย่างเต็มที่ และรัฐบาลคาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ต่างชาติเหล่านี้
ถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัทท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ได้คือเทคโนโลยีทั้งหมดไม่ได้ถูกถ่ายทอดทั้งหมด ที่สำคัญลูกค้าชาวจีนก็
ยังเมินแบรนด์ท้องถิ่นด้วยกันเอง

ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านค่ายรถยนต์ท้องถิ่นในจีนสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดถึง 1 ใน 4 ให้กับค่ายรถยนต์ต่างชาติเพียง
แค่ไม่กี่สิบค่าย ค่ายรถยนต์จากจีนในปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 171 แบรนด์!! มันเยอะมากเสียจนสมาพันธ์ยานยนต์ในจีน
ก็พากันวิเคราะห์ว่าอีกไม่นานแบรนด์รถยนต์จากจีนน่าจะเหลือน้อยมาก

Liao Xionghui รองประธานบริหารบริษัทผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ Lifan Industry Group Co. เปิดเผยว่า “พวกเราได้
พยายามเข้าถึงเทคโนโลยี แต่เราแทบจะไม่ได้ถือสิทธิ์เทคโนโลยีใด ๆ มาตลอด 30 ปี และยังถือว่าอุตสาหกรรมยานยนต์
จีนยังอยู่ในช่วงวัยเด็กอยู่”

Liu Yu รองประธานฝ่ายขายกลุ่ม BAIC ได้เปิดเผยว่าปัญหาสำคัญของแบรนด์ท้องถิ่นคือการขาดตัวแทนจำหน่ายที่
ครอบคลุมพื้นที่จน BAIC ถึงกับลงทุนเงิน 1,000 ล้านดอลลาร์เพื่อลงทุนให้กับผู้ที่คิดจะเป็นดีลเลอร์ BAIC

ค่ายรถยนต์จากจีนแท้ ๆ เริ่มเสียส่วนแบ่งการตลาดชัดเจนในปีนี้  เมื่อแบรนด์รถยนต์สากลครองส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์
นั่งรวมกัน 63% (ยอดขายจนถึงเดือนกรกฎาคม 2012) ส่วนแบรนด์รถยนต์จีนครองส่วนแบ่งรถยนต์นั่ง 37%

Joe Hinrichs ประธานกลุ่ม Ford เอเชียแปซิฟิกและอาฟริกาได้ลงความเห็นว่าจุดสำคัญที่ทำให้แบรนด์สากลได้เปรียบ
กว่าคือเทคโนโลยีที่มากกว่าและในหลายครั้งก็มีความประณีตในการทำรถที่ดีกว่า ซึ่งก็ยืนยันได้จาก Jeff Chung  
นักวิเคราะห์ Daiwa Capital Markets Hong Kong Ltd. ว่าค่ายรถต่างชาติไม่โอนถ่ายเทคโนโลยีให้กับแบรนด์ท้องถิ่น
แต่จะเน้นจำนวนการผลิตที่มากกว่าเท่านั้น

Charles Mills รองประธานฝ่ายปฏิบัติค้าปลีกระดับโลกใน J.D. Power Commercial Consulting (Shanghai) Co.
ได้ลงความเห็นเกี่ยวกับการรับรู้คุณภาพรถจากจีนว่า “รถรุ่นเดียวคงไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงการรับรู้ได้ แต่นั่น
หมายถึงจะต้องมีรถจำนวนหลายรุ่นที่ขายจนเปลี่ยนโฉม 2-3 รอบหรือเป็นระยะเวลานาน 5-7 ปีขึ้นไป ถึงแม้ว่ารถรุ่นนั้น
จะสวยแค่ไหน แต่คนก็ยังเชื่อว่าประสบการณ์ที่ดีก็ต้องมาจากตัวรถด้วย”