กรุงเทพฯ วันที่ 17 มกราคม 2556 – บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศ
ยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของฮอนด้าในเดือนธันวาคม 2555
มีจำนวน 20,463 คัน และยังครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคมที่ผ่านมา  สำหรับภาพรวมตลอดปี 2555
ฮอนด้ามียอดขายสะสมรวมตั้งแต่เดือนมกราคมถึงธันวาคมสูงสุดถึง 171,208 คัน
เพิ่มสูงขึ้น 104% หรือกว่าเท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับยอดสะสมของปี 2554 และนับเป็น
สถิติยอดจำหน่ายต่อปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของบริษัท เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 ที่เคยบันทึกเป็นสถิติไว้ที่ 114,056 คัน 
แม้ในปีที่ผ่านมาจะมีการผลิตอย่างเต็มกำลังเพียง 9 เดือนเท่านั้น

alt

ถ้านับเฉพาะช่วง 9 เดือนหลังการกลับมาเดินสายการผลิตอย่างเต็มกำลัง (เมษายนถึงธันวาคม) ฮอนด้ามี
ยอดขายสูงถึง 168,473 คัน และอัตราการเติบโต 213%
หรือคิดเป็น 3 เท่าของช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา(53,871 คัน) และถือเป็นการเติบโตมากกว่าอัตราการเติบโตของตลาดรถยนต์โดยรวมซึ่งอยู่ที่ 106%  ถึง 2 เท่า
นอกจากนี้ในช่วงเดียวกันของปี ฮอนด้ามีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 30% ของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทั้งนี้อัตราการเติบโตดังกล่าวเป็นผลมาจากการทยอยเปิดตัว
รถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดถึง 10 รุ่น ซึ่งในจำนวนนี้
มีรุ่นที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรก 6 รุ่นด้วยกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ซึ่งเปิดตัวเป็นรุ่นล่าสุด
ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมาก ด้วยยอดจองกว่า 20,000 คันภายหลังการเปิดตัวเพียง 5 สัปดาห์

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส  บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด  เปิดเผยว่า
”ปีที่ผ่านมานับเป็นปีที่มีความสำคัญ และมีความหมายสำหรับ
ฮอนด้าเป็นอย่างมากจากในช่วงต้นปีที่เราเผชิญปัญหาน้ำท่วม จนต้องหยุดเดินสายการผลิตเป็นเวลากว่า 5 เดือน แต่เราก็สามารถกอบกู้โรงงานและกลับมา
เดินสายการผลิตได้
ภายในเวลาเพียง 3 เดือนเศษเท่านั้น และนับจากนั้นเราก็เร่งทำการตลาดเชิงรุก 
ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่อย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ยังคงเชื่อมั่น
และรอคอย
การกลับมาของฮอนด้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นล่าสุด บริโอ้ อเมซ ที่เป็นผลมาจากความพยายาม และทำงานอย่างหนักร่วมกันของทุกฝ่าย ในการเร่งการเปิดตัว
ให้เร็วขึ้นถึง 5 เดือนจากกำหนดการเดิม เพื่อให้ทันตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ารถยนต์คันแรก ผลจากความพยายามทั้งหมดนั้น ผลักดันให้ฮอนด้ามีอัตรา
การเติบโต
อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างสถิติยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีได้ ปีที่ผ่านมา
จึงเป็นปีที่ฮอนด้าได้เปลี่ยนวิกฤติให้กลายเป็นแรงผลักดันเพื่อต่อสู้กับอุปสรรค และสามารถทำให้เรากลับมาอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม”

“นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญกับการบริการ และมุ่งตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ด้วยการพัฒนาและยกระดับการบริการอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันฮอนด้ามีศูนย์บริการ
ครอบคลุมทั่วประเทศถึง 166 แห่ง และมีแผนขยายศูนย์บริการเพิ่มเป็น 200 แห่งภายในสิ้นปี 2556 รวมทั้งมุ่งดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อสังคม และมีกองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย
ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในยามประสบภัย สมดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการสร้างสรรค์คุณค่าเพื่อเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป” นายพิทักษ์กล่าวเสริม