ปริศนาเกี่ยวกับ Toyota Yaris เจเนเรชั่นที่ 3 ถูกเปิดเผยแล้วในวันนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นโดยใช้ชื่อทำตลาดว่า Toyota Vitz อันเป็นชื่อออกเสียงคล้ายกับมินิแวนรุ่นเคยดังในบ้านเราอย่าง Wish มาก ตัวรถถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นในหลาย ๆ จุดและดูเหมือนว่า Toyota อาจจะฟังเสียงจากลูกค้ามากขึ้นเพื่อปรับปรุงให้ Yaris รุ่นใหม่โดนใจลูกค้ามากที่สุด

Toyota Yaris เป็นรถตระกูลซับคอมแพคท์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในตลาดโลก และน่าจะเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Toyota ที่ถูกจดจำไปอีกนานหลังจาก Toyota พยายามผลักดันรถเล็กหลายรุ่นอย่าง Starlet, Tercel ในตลาดโลกจนเหนื่อยอ่อนใจกันมานานมาก ๆ

Toyota Yaris เจเนเรชั่นแรกถูกเปิดตัวภายในปี 1999 จนถึงเจเนเรชั่นที่ 2 เปิดตัวภายในปี 2005 ก็มียอดขายสะสมจนถึง 31 ตุลาคม 2010 มากกว่า 3.5 ล้านคัน จาก 70 ประเทศทั่วโลก ส่วนในตลาดญี่ปุ่นก็มียอดขายสะสมรวมนับตั้งแต่เปิดตัวเจเนเรชั่นแรกจนถึง 30 พฤศจิกายน 2010 มากถึง 1.4 ล้านคัน

Toyota Yaris เจเนเรชั่นที่ 3 นับเป็นความคาดหวังล่าสุดของ Toyota รองมาจากรถคอมแพคท์ยอดนิยมอย่างรุ่น Corolla ดังนั้น Toyota ต้องตั้งใจพัฒนา Yaris โฉมใหม่ให้ต้องตาต้องใจทั้งลูกค้าเก่าและใหม่ให้ได้

Toyota จึงกำหนดนิยาม Yaris เจเนเรชั่นที่ 3 ให้เข้ากับความต้องการลูกค้ายุคใหม่ที่ต้องการรถยนต์นั่งขนาดกะทัดรัด, รูปลักษณ์เฉียบคมแต่ต้องการเนื้อที่ใช้สอยห้องโดยสารด้วย, ภายในดูประณีต, อรรถประโยชน์ดี และยังเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันมากถึง 26.7 กิโลเมตรต่อลิตร

ดีไซน์ภายนอก Toyota Yaris เจเนเรชั่นที่ 3 ถูกกำหนดด้วยแนวคิดการออกแบบถึง 2 คำคือ “ความคล่องตัว” และ “ความซับซ้อน”   ผลลัพธ์ที่ได้ Yaris โฉมใหม่มีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวขึ้นกว่าเดิม ตอบสนองการขับขี่ได้ ดูสง่างามและแสดงตัวตนได้

โครงสร้างตัวถังโดยรวมไม่แตกต่างจาก Yaris รุ่นปัจจุบันมากนัก มันก็ยังเป็นรถแฮทช์แบค 5 ประตูขนาดเล็กเช่นเคย แต่ปรับเส้นสายให้มีความเป็นกลางขึ้น ไม่หญิงจ๋าหรือชายเข้มเกินไป แลดูคมสปอร์ตมากขึ้น แม้ดีไซน์บางส่วนได้รับอิทธิพลจากรถยนต์ Toyota รุ่นพี่มากมายก็ตาม

มิติตัวถัง Toyota Yaris เจเนเรชั่นที่ 3 มีความยาว 3,885 มม. ความกว้าง 1,695 มม. ความสูงลดลงเล็กน้อยเหลือ 1,500 มม. ฐานล้อยาว 2,510 มม. วงเลี้ยวแคบสุด 4.5 เมตร

สถิติที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นแล้ว Toyota Yaris เจเนเรชั่นที่ 3 มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำสุดที่ 0.28 ดีกว่ารถยนต์คลาสใหญ่กว่าหลายรุ่น ทำให้ตัวรถมีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าเดิมและส่งผลต่อคุณภาพการขับขี่ได้

ภายในห้องโดยสารฉีกแนวจาก Yaris รุ่นปัจจุบันมาก อันดับแรกที่เปลี่ยนแปลงจนน่าตกใจก็คือการย้ายแผงมาตรวัดจากตรงคอนโซลกลางมาอยู่ตำแหน่งหลังพวงมาลัยเหมือนเดิม แม้ Toyota ไม่อธิบายเหตุผลของการย้ายแผงมาตรวัด แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่าเสียงวิจัยจากลูกค้าส่วนใหญ่ต้องเรียกร้องให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแน่นอน

ดีไซน์ภายในห้องโดยสารยึดคำหลักการออกแบบ คือ “ความสปอร์ต” และ “ความสบาย” เปลี่ยนแปลงจากการจัดวางอุปกรณ์แนวตั้งให้กลายเป็นแนวนอนแทน  อย่างน้อยก็ช่วยทำให้ห้องโดยสารดูกว้างขวางและดุมีความสวยงามซับซ้อน

ชุดเบาะนั่งออกแบบให้บางเฉียบ ช่วยเพิ่มเนื้อที่วางขาให้กับผู้โดยสารตอนหลังได้อีก 35 มม. ถือว่ามากพอให้เห็นความเปลี่ยนแปลงพอสมควร

จุดเด่นของมันคือความยาวห้องโดยสารของ Toyota Yaris ตั้งแต่แผงคอนโซลหน้าจนถึงเบาะหลังมีมากถึง 1,915 มม. ยาวกว่า Honda Jazz ที่มีความยาวห้องโดยสาร 1,825 มม. หากเปรียบเทียบกับ Toyota Yaris โฉมปัจจุบันที่มีความยาวห้องโดยสารแค่ 1,850-1,880 มม. ก็ถือว่า Toyota Yaris มีขนาดห้องโดยสารที่ใหญ่กว่าเดิมชัดเจน

สเปคเครื่องยนต์ก็เป็นจุดที่น่าจับตามองมากเพราะในเมื่อฝ่าย Product Planning ระดับโลกวางเครื่องยนต์มาตรฐานสำหรับ Toyota Yaris โฉมใหม่อย่างที่เราเห็นก็น่าจะมีความเป็นไปได้สูงมากว่ารถเล็ก Toyota ทั่วโลกน่าจะต้องใช้สเปคเดียวกัน

เริ่มมาจากเครื่องเล็กหน้าเก่า 1KR-FE บล๊อก 3 สูบ 996 ซีซี ลดแรงม้าจาก Toyota Yaris รุ่นปัจจุบันที่มี 71 แรงม้า (PS) ลงเหลือ 69 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที ลดแรงบิดลงมาเหลือ 9.4 กิโลกรัมเมตรที่ 3,600 รอบต่อนาที ประหยัดกว่ารุ่นเดิม 0.3 กิโลเมตรต่อลิตร

สเปครุ่น 1.3 ลิตร Toyota ขอเปลี่ยนเครื่องจากบล๊อก 2SZ-FE และ 2NZ-FE จาก Yaris รุ่นปัจจุบันกลายเป็นบล๊อก 1NR-FE  4 สูบ 16 วาล์ว ความจุกระบอกสูบ 1,329 ซีซี ติดตั้ง Dual VVT-I อัพพละกำลังมากถึง 95 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 12.3 กิโลกรัมเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองในโหมด 10-15 ทำได้ 24 กิโลเมตรต่อลิตร และสำหรับรุ่นที่มี Smart Stop หรือ Idle Stop จะมีอัตราสิ้นเปลืองสูงสุด 26.7 กิโลเมตรต่อลิตร !!

สุดท้ายสเปคเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร มาแบบผิดคาดเพราะ Toyota ไม่ได้พัฒนาหรือสานต่อเทคโนโลยีจากพื้นฐานเครื่องยนต์บล๊อก 1NZ-FE อันใดเลย อาจเป็นเพราะ Toyota ยังมองว่าเครื่องยนต์บล๊อกนี้ยังมีประสิทธิภาพที่ดีทั้งด้านสมรรถนะ, ความประหยัด และค่าไอเสียที่สามารถต่อกรกับคู่แข่งได้ จึงไม่มีเหตุอันใดจะต้องปรับปรุงมากนัก

ดัง นั้นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรรหัส 1NZ-FE จึงไม่มีการบรรจุเทคโนโลยี Dual-VVTi เหมือนกับเครื่องรุ่นน้อง ให้พละกำลัง 109 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดถูกปรับลดลงเหลือ 14.1 กิโลกรัมเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองทำได้ดีกว่าเดิมที่ 20 กิโลเมตรต่อลิตร

Toyota ตั้งเป้า Yaris Modelchange ในญี่ปุ่นไว้ที่ 10,000 คันต่อเดือนสูสีกับเป้าหมายของ Honda Jazz ระดับหนึ่ง

บรรทัดสุดท้ายก่อนจะจากลากันเราต้องขอย้ำกันอีกทีว่า Toyota Yaris Modelchange จะไม่มาเมืองไทยแน่นอน เพราะ Toyota คาดหวังกับ Vios โฉมใหม่และรถยนต์อีโคคาร์แฮทช์แบค 5 ประตูที่จำเป็นต้องพัฒนาใหม่หมดจดอย่างมาก Toyota จึงเล็งเห็นแล้วว่า Yaris ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องลุยรถแฮทช์แบค 5 ประตูอีกต่อไป เพราะแค่นี้ยอดขาย Toyota Vios ก็ถล่มทลายจนไม่มีคู่แข่งหน้าไหนจะเทียบเคียงได้