ความยิ่งใหญ่ของงาน Bangkok International Motorshow 2011 ยังคงเป็นยักษ์แห่งงานจัดแสดงรถยนต์ประจำภูมิภาคอาเซียนเช่นเคย แต่ปีนี้กลับให้อารมณ์อลังการมากกว่าที่เคยเป็นยิ่งกว่าเพื่อตอบรับอุตสาหกรรมยานยนต์โลกและประเทศไทย

ที่สำคัญความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่เราไม่ค่อยเห็นมาก่อนก็คือการย้ายสถานที่จัดงานจาก Bitec บางนาชุมชนรถติดกลายมาเป็น Challenger Hall เมืองทองธานี เหตุผลของการย้ายสถานที่เรามิอาจจะสรุปใจความให้คุณอ่านได้ แต่ที่แน่ ๆ สถานที่ใหม่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ภาพรวมของงานดูอลังการกว่าเดิมด้วยเนื้อที่บูธใหญ่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่

และในเมื่อเป็นงานที่รับการรับรองจาก OICA (Organisation Internationale des Constructeurs d’Automobiles) ก็ยิ่งทำให้สถานภาพงาน Bangkok International Motorshow ต้องถูกบังคับการจัดงานให้ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น

ดังนั้นรถนต์ที่จะนำมาเปิดเผยโฉมในไทยจะต้องสร้างความน่าสนใจให้กับตลาดอย่างแน่นอน และผมอยากบอกให้ทุกคนรู้ไว้ว่าต้องดู Must See เพราะผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่งัดของดีมาโชว์กัน ซึ่งเรียนตามตรงว่ามันสมควรจะงัดมาโชว์ตั้งนานแล้ว กล้าเสียที

BMW เตรียมเปิดเผยโฉม All New X3 ในงานนี้ก่อนที่จะเปิดตัวพร้อมส่งมอบกลางปีนี้เป็นต้นไป BMW X3 โฉมใหม่มาพร้อมกับบุคลิคผู้ใหญ่อีกระดับเพื่อหนีห่างให้ไกลจาก BMW X1 มากขึ้น และตัวรถโดยรวมน่าจะดีขึ้นกว่าเดิมมากไม่เช่นงั้นจะโดนข่มรัศมีจากรุ่นน้องและรุ่นพี่ และไฮไลต์เด็ดคงหนีไม่พ้น BMW 6-Series Convertible โฉมใหม่ท้าชน SLK ใหม่

Chevrolet เซอร์ไพร์ซและ Surprise ที่สุดของงานเพราะไม่นึกว่า GM จะอวดโฉมรถกระบะ Chevrolet Colorado ฉบับ Full Modelchange ครั้งแรกในโลก ชนิดไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ว่ากันว่ามันจะสวยพลิกโฉมเลยทีเดียว

Honda เชื่อว่าสื่อมวลชนและลูกค้าน่าจะยกให้โดดเด่นที่สุดในงานเพราะมีรถอีโคคาร์รุ่นที่ 2 ของประเทศไทยวางจำหน่ายแล้วนาม Honda Brio ไฮไลต์สำคัญคงหนีไม่พ้นเป็นรถเล็ก A-Segment ที่เปิดตัวครั้งแรกในโลกและมาในฐานะคู่แข่งรายสำคัญของ Nissan March และมาพร้อมพรีเซนเตอร์คู่สุดฮอตจากละครช่อง 3 เรียกกองหนุนมาเต็มบูธได้อย่างดี คาดว่าน่าจะเป็นแม่เหล็กดึงดูดยอดจองไม่น่าจะน้อยนัก

Hyundai เปิดฉากด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด Hyundai Sonata Sport เปิดตัวไปแล้วสร้างความน่าสนใจให้แก่แบรนด์อย่างยิ่ง รวมถึง Hyundai H-1 รุ่นปี 2011 ปรับปรุงอุปกรณ์ภายในให้น่าใช้ยิ่งขึ้นรวมไปถึงเวอร์ชันหรู Hyundai Grand Starex ก็มาในงานนี้ด้วย

Ford ถึงขนาดโปรยความน่าสนใจว่ารูปแบบการจัดบูธมีความยิ่งใหญ่ชนิดเทียบชั้นการจัดงานใน Detroit Autoshow กันเลยทีเดียว แน่นอนไฮไลต์สำคัญก็คือ All New Ford Ranger Open Cab ครั้งแรกในโลกมาเปิดตัวในไทยโดยเฉพาะ เราก็ต้องมาลุ้นกันว่ารูปลักษณ์จะดูลงตัวและมีความสะดวกสบายแค่ไหน เพราะรู้กันอยู่ว่ายอดขาย 80% อยู่ที่รุ่นแค๊บ

Mazda ก็ช่วงชิงโอกาสนี้เหมือนกัน นอกจากจะอวดโฉม All New Mazda 3 ที่มาแต่รุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ในช่วงแรกแล้ว Mazda ก็อวดโฉม All New BT-50 Open Cab เช่นเดียวกับ Ford เราต้องมาลุ้นกันว่า

Mercedes-Benz ตอกย้ำผู้นำรถตลาดในเมืองไทยด้วยการส่ง All New SLK และ CLS พวงมาลัยขวามาอวดโฉมในเมืองไทยเรียกเงินจากเศรษฐีวัยรุ่น จะว่าไปค่ายนี้โดนแหย่ติ่งหนวดจาก TSL เกรย์มาร์เก็ตรายใหญ่ด้วยการเปิดตัว All New CLS ตัดหน้าเสียก่อน แต่จะแก้เกมเอาคืนอย่างไรต้องรอติดตามในงานนี้

Mitsubishi ก็ได้เวลาตะลุยใส่ Nissan March และน้องใหม่  Honda Brio ราวกับว่าเป็นกงกรรมกงเกวียนนั่นก็คือการนำเข้ารถต้นแบบ Mitsubishi Global Small Concept หรือ e-compact มาเกทับในงานนี้โดยเฉพาะ แน่นอนรถต้นแบบคันนี้ก็คือต้นแบบอีโคคาร์ที่จะเปิดตัวสิ้นปีนี้ในไทยและพร้อมจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2012 งานนี้อีโคคาร์เกิดศึก

Nissan ยังเก็บ Almera (L02B) ไม้ตายปะทะคู่แข่งอีโคคาร์รายอื่นเอาไว้ก่อนเพราะต้องเคลียร์ยอดค้างส่งมอบให้เสร็จสิ้นภายในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้เสียก่อน แต่ก็ยังมีรถที่น่าสนใจมาอวดโฉมเช่นกันนั่นก็คือ Nissan Leaf รถไฟฟ้าชื่อก้องโลกกวาดรางวี่รางวัลไปทั่ว ว่ากันว่าหากโครงสร้าง Infrastruction ในไทยพร้อมก็สั่งเข้ามาขาย และถึงเวลานั้น Nissan จะมี C-Segment ขายถึง 3 รุ่น !

Toyota เตรียมเข็นรถต้นแบบที่น่าสนใจมากถึง 2 รุ่นได้แก่ FT-86 เวอร์ชันแรกคันสีแดงที่เคยอวดโฉมในงาน Tokyo Motorshow 2009 (ตอนแรกเคยได้ยินข่าวว่าจะนำ FT-86 II จาก Geneva มาอวดโฉม แต่คาดว่าคงติดขัดทางเทคนิคบางประการ) เชื่อว่ารถต้นแบบคันนี้น่าจะดึงดูดวัยรุ่นระดับหนึ่ง และน่าจะมีแนวโน้มสั่งนำเข้าเวอร์ชันผลิตจริงมาจำหน่ายในไทยด้วย และ FT-EV II รถไฟฟ้าที่ต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีระยะทางวิ่งสูงสุด 100 กิโลเมตร

นี่คือไฮไลต์สำคัญภายในงาน Bangkok International Motorshow 2011 ซึ่งปีนี้ผิดแผกไปจากเดิมมากเพราะค่ายรถ “กล้า” จะบุกตลาดในเมืองไทยมากขึ้น จนทำให้เราแอบคิดดีใจว่าการแข่งขันตลาดรถยนต์สุดสนุกในยุค 80-90 น่าจะกลับมาอีกครั้งในทศวรรษใหม่