บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด รับเครื่องหมาย “ฉลากเขียว” ทุกรุ่นที่ผลิตในประเทศไทย จาก
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย โดยทำการเปิดเผย
ออกมาเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา พร้อมเปิดโรงงานสีเขียวเผยกระบวนการผลิตรถยนต์ และการจัดการพลังงาน
ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตอกย้ำพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อม “Blue Skies for Our Children”

งานนี้ รถยนต์ฮอนด้าที่ผลิตในประเทศทุกรุ่น ได้รับเครื่องหมาย “ฉลากเขียว” ทั้ง 12 รุ่น ได้แก่ บริโอ้, บริโอ้ อเมซ,
แจ๊ซ, ซิตี้, ซิตี้ ซีเอ็นจี, ซีวิค, ซีวิค ไฮบริด, โมบิลิโอ, แอคคอร์ด, แอคคอร์ด ไฮบริด, เอชอาร์-วี และซีอาร์-วี เพื่อเป็นการ
รับรองว่าได้ผ่านข้อกำหนด เป็นยนตรกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิต การใช้
การทิ้งทำลาย ตลอดจนการจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

1_HONDA GREEN FACTORY

ปัจจุบัน ฮอนด้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียวที่ได้รับเครื่องหมายฉลากเขียว อีกทั้ง รถยนต์ฮอนด้าทุกรุ่นยังได้รับ
การผลิตที่มีคุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเฉพาะด้านความปลอดภัยจากโรงงานของฮอนด้าซึ่งมี
รับรองมาตรฐานระบบควบคุมคุณภาพตามมาตรฐาน ISO 9001: 2008 และได้รับการรับรองระบบการจัดการ
สิ่งแวดล้อม ISO 14001

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
ถึงความสำเร็จนี้ว่า “จากการประกาศวิสัยทัศน์ปี 2020 ของบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) เมื่อปี 2010
ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา และมี CO2
ต่ำ และการประกาศเจตนารมณ์ในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 30% จากทุกผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์
รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ฮอนด้าจึงได้มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ที่มีคุณภาพและ
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  ตลอดจนการค้นหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เสมอมา
เพื่อส่งมอบสังคมที่ยั่งยืนให้กับลูกหลานในอนาคต ตอกย้ำถึงพันธสัญญาด้านสิ่งแวดล้อมของฮอนด้า
“Blue Skies for Our Children” หรือ “ท้องฟ้าที่สดใสเพื่ออนาคตของคนรุ่นต่อไป”

1_CO-EXIST WITH LOCAL 4_CO-EXIST WITH LOCAL

พื้นฐานที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการผลิต คือ การนำหลักการ 3R มาใช้ ได้แก่ Reduce
(ลดการใช้), Reuse (การใช้ซ้ำ) และ Recycle (การนำกลับมาใช้ใหม่) มาประยุกต์ใช้ในทุกกิจกรรม รวมถึง
การดำเนินงานตามนโยบายโรงงานสีเขียว โดยเน้นการอนุรักษ์พลังงาน การลดปริมาณของเสีย และการอยู่ร่วมกับ
ชุมชน ภายใต้การดำเนินงานใน 5 หลักการสำคัญ ได้แก่

1) การลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติ
2) การลดปริมาณการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่ายจากกระบวนการพ่นสี
3) การลดการใช้ทรัพยากรน้ำ
4) การจัดการของเสียภายในโรงงาน
5) การขยายการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมสู่ชุมชน”

3_HONDA GREEN FACTORY

ซึ่งในปัจจุบัน โรงงานสีเขียวของฮอนด้ามีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 410 กิโลกรัมคาร์บอนต่อ
การผลิตรถ 1 คัน และภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ในปี 2017 ฮอนด้าตั้งเป้าลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ให้อยู่ที่ 392 กิโลกรัมคาร์บอนต่อการผลิตรถ 1 คัน และภายในปี 2020 จะลดปริมาณให้อยู่ที่ 327 กิโลกรัมคาร์บอน
ต่อการผลิตรถ 1 คัน โดยในปี 2557 สามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้สูงถึง 3,300 ตันคาร์บอนต่อปี หรือ
เทียบเท่ากับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ได้ถึง 6,679 ไร่

นอกจากโรงงานสีเขียวที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดอยุธยาแล้ว โรงงานใหม่ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่สองของฮอนด้า
ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรี ยังได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “ผลิตยานยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก ในโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลก” (Producing the world’s cleanest products at the world’s cleanest plant)

ด้วยเทคโนโลยีและระบบการผลิตอันทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยประยุกต์ใช้นวัตกรรมอันล้ำสมัยมาจาก
โรงงานโยริอิ ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบของฮอนด้าที่ประเทศญี่ปุ่น โรงงานใหม่แห่งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งโรงงานสีเขียว
ที่เป็นมิตรต่อผู้คนและมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดของฮอนด้า ปัจจุบัน การก่อสร้างโรงงานแห่งนี้
มีความคืบหน้าไปแล้วกว่า 80% ซึ่งจะเริ่มดำเนินการผลิตบางชิ้นส่วนและเครื่องยนต์ในเดือนตุลาคม 2558 และเปิด
ดำเนินการผลิตเต็มรูปแบบในช่วงเดือนมีนาคม 2559

10_HONDA GREEN FACTORY

นับเป็นอีกหนึ่งความมุ่งมั่นของ Honda เพื่อสิ่งแวดล้อมอันยั่งยืน สำหรับคนรุ่นหลังต่อไป นอกจากโรงงานผลิต
จะมีความรักษ์โลกขึ้นแล้ว Honda ยังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดเจเนอเรชั่นใหม่ในไทยเร็วๆนี้อีกด้วย

—————————————————————————————————–

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฉลากเขียว หรือฉลากติดรถยนต์ ที่จะใช้ในไทยปี 2559

+ ฉลากติดรถยนต์ – มาตรฐานสากลที่คนไทยจะได้ใช้ ปี 2559
+ เผยตัวอย่างฉลากรถยนต์ไทย ที่คาดว่าจะเริ่มใช้ปี 2559