สตุ้ดการ์ด – Porsche ค่ายรถยนต์สปอร์ตจากเยอรมนี เปิดตัวรุ่นล่าสุดของเวอร์ชันขับเคลื่อนสี่ล้อของเจ้าชาย
กบ ในชื่อ 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) และ คาร์เรร่า 4S (911 Carrera 4S) เพื่อทดแทนเจเนอเรชั่นเดิมที่
ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากโดยถูกสรรสร้างให้ออกมาเป็น 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ล่าสุดอันเปี่ยม
ไปด้วยประสิทธิภาพและศักยภาพเครื่องยนต์ที่เหนือชั้นและมาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของความคล่องตัวว่องไว
ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ active all-wheel drive system ที่มาพร้อมกับระบบ PTM (Porsche Traction Management)
ซึ่งระบบขับเคลื่อนสี่ล้อตามแบบฉบับของปอร์เช่จะมีจุดเด่นที่การเน้นงานวิศวกรรมบริเวณครึ่งคันหลังของรถ

alt

911 แบบขับเคลื่อนสี่ล้อใหม่ล่าสุดนี้จะเริ่มทำการเปิดตัวสู่ตลาดถึง 4 เวอร์ชั่นด้วยกัน นั่นคือ 911 คาร์เรร่า 4
(911 Carrera 4), 911 คาร์เรร่า 4S (911 Carrera 4S) ทั้งในรูปแบบคูเป้ (Coupe) และคาบริโอเลต์ (Cabriolet) ซึ่ง
มาพร้อมกับความเป็นสปอร์ตเสมือนเวอร์ชั่นขับเคลื่อนล้อหลัง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบรถให้เน้นเรื่องน้ำหนักเบา
ระบบกันสะเทือน เครื่องยนต์ และระบบส่งผ่านกำลัง ซึ่งมีเพียงระบบขับเคลื่อนแบบสี่ล้อเท่านั้นที่แตกต่างออกไป เครื่อง
ยนต์ถูกปรับปรุงประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยทั้งสี่รุ่นมีอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่น้อยกว่ารุ่นเดิมถึง 16%  
ไม่เพียงเท่านี้รุ่น 911 คาร์เรร่า 4 (911 Carrera 4) ใหม่นี้จะมีน้ำหนักที่เบากว่าเดิมถึง 65 กิโลกรัมเลยทีเดียว

คุณสมบัติที่โดดเด่นและแตกต่างของ 911 Carrera 4/4S คือความกว้างของด้านหลังรถ ซึ่งซุ้มล้อทางด้านหลังจะ
ขยายกว้างขึ้นข้างละ 22 มิลลิเมตร ยางหลังจะมีความกว้างกว่าเดิม 10 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง
รูปลักษณ์ด้านท้าย ไฟท้ายเฉดแดงเชื่อมยาวจากไฟท้ายข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่ง ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ในแบบ
Porsche อยู่แต่ได้มีการพัฒนาออกมาในรูปแบบใหม่

alt

สำหรับด้านงานวิศวกรรมของตัวรถ 911 Carrera 4/4S จะติดตั้งระบบส่งผ่านกำลังหรือระบบเกียร์ธรรมดา 7 จังหวะ
มาเป็นมาตรฐานให้กับตัวรถ และยังสามารถเลือกติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK เป็นอุปกรณ์เสริมได้ สำหรับรุ่น 911 คาร์เรร่า 4 คูเป้
(911 Carrera 4 Coupe) มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบนอน ขนาด 3.5 ลิตร มีพละกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 350 แรงม้า
ที่ 7,400 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุดที่ 390 นิวตัน-เมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที สร้างอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง
4.5 วินาทีเท่านั้น (4.7 วินาทีในรุ่นเปิดประทุน) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 285 กม./ชม. (282 กม./ชม. ในรุ่นเปิดประทุน)
ซึ่งขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้ง และด้วยประสิทธิภาพการทำงานอย่างอัจฉริยะจากปอร์เช่ (Porsche Intelligent Performance)
จึงทำให้มีประสิทธิภาพการขับขี่ ที่มาพร้อมกับอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต่ำหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK มาด้วยแล้ว
สำหรับรุ่นคูเป้จะอยู่แค่เพียง 8.6 ลิตร/100 กม. และ 8.7 ลิตร/100 กม. ในรุ่นเปิดประทุน

alt

และ 911 Carrera 4S ทั้งรุ่นคูเป้และคาบริโอเลต จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินแบบ 6 สูบนอน ขนาด 3.8 ลิตร ติดตั้งทางด้านหลัง
สร้างพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดถึง 400 แรงม้า ที่ 7,400 รอบ/นาที พร้อมแรงบิด 440 นิวตัน-เมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที ทำให้สร้างอัตราเร่ง
จาก 0-100 กม./ชม.ได้ในระยะเวลาเพียงแค่ 4.1 วินาทีเท่านั้น (4.3 วินาทีในรุ่นเปิดประทุน) สร้างความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 299 กม./ชม. (296 กม./ชม. ในรุ่นเปิดประทุน)
อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงหากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK สำหรับรุ่นคูเป้อยู่ที่ 9.1 ลิตร/100 กม. และ 9.2 ลิตร/100 กม.ในรุ่นเปิดประทุน

alt

ใน 911 Carrera 4 ใหม่นี้ จะมีเมนูใหม่ที่แผงหน้าปัดเพื่อทำการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ว่าระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ PTM นั้นกำลังกระจายพละ
กำลังเครื่องยนต์อย่างไร ไม่เพียงเท่านี้ยังมีระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) ให้เลือกติดตั้งได้ในทุกๆ รุ่น เพื่อควบคุมระยะห่าง
และความเร็วของรถอีกด้วย หากติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ PDK มาด้วยแล้วนั้นระบบ ACC จะเพิ่มฟังก์ชั่นความปลอดภัย Porsche
Active Safe (PAS) เพื่อช่วยป้องกันการชนทางด้านหน้า ไม่เพียงเท่านี้ปอร์เช่ยังนำเสนอกระจกซันรูฟใหม่ล่าสุดให้ติดตั้งเป็นอุปกรณ์
เสริมที่สามารถเลือกติดตั้งได้สำหรับ 911 คาร์เรร่า คูเป้ อีกด้วย หาก 911 ติดตั้งระบบเกียร์มาตรฐานและระบบ Sport Chrono Pack
มาด้วยนั้นจะสามารถเพิ่มความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น หากอยู่ในโหมดสปอร์ต พลัส แล้วนั้นระบบจะทำการ double-declutches
ระหว่างลดระดับเกียร์อีกด้วย

ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) ใหม่ที่มาพร้อมกับการขับเคลื่อนสี่ล้อจะออกอวดโฉมสู่สายตาชาวโลกในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส
อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2012 โดยจะทำการเปิดตัวปลายปี 2012 นี้ สำหรับประเทศไทย ต้องติดตามกันว่าบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการจะมีแผนการนำเข้ามาได้ทันช่วงปลายปีนี้หรือไม่ครับ