หลังจากมีข่าวลือ และการเปิดตัวรถต้นแบบเพื่อพรีวิว รวมถึงการซุ่มพัฒนามานาน ในที่สุด 2014 Audi A3/S3 Sedan
สมาชิกใหม่ล่าสุดของค่าย Audi ก็ได้ถูกเปิดตัวออกมา ในฐานะตัวถังซีดานที่มาเสริมไลน์รถยนต์รุ่น A3 เพื่อ
อุดช่องว่างของขนาดตัวถังคอมแพคท์ซีดานที่ Audi A4 ได้ทิ้งไว้ รวมถึงเป็นอาวุธสำคัญที่ Audi เตรียมใช้เพิ่ม
ยอดขายของตนในแผ่นดินใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาและจีน

alt
alt

รูปลักษณ์ภายนอกในส่วนของครึ่งคันหน้า ยังคงงานออกแบบเหมือน Audi A3 ตัวถังแฮตช์แบกล้วนๆ แต่ในส่วน
ครึ่งคันหลัง มีการออกแบบชิ้นหลังคาใหม่ รวมถึงเสา C-Pillar ประตูบานหลัง และเพิ่มส่วนห้องสัมภาระด้านท้าย
ออกมา ส่งผลให้ขนาดมิติตัวถังของตัวรถ มีความยาวขึ้นเป็น 4.45 ม. (รุ่น 3 ประตูยาว 4.2 ม.) และมีระยะฐาน
ล้อหน้า-หลังยาวขึ้นเช่นกัน ที่ 2,626 มม. แต่โดยรวมแล้ว ถือว่าเป็นขนาดตัวรถที่เท่ากับ Audi A4 โฉมแรก
ที่เปิดตัวเมื่อ 18 ปีที่แล้วเลยทีเดียว ในขณะที่ Audi A4 โฉมปัจจุบันขยายขนาดตัวถังไปมาก จนทิ้งช่องว่างตลาด
กลุ่มนี้ไว้ ส่งผลให้ Audi ต้องพัฒนา A3 ตัวถังซีดานเพื่อทำตลาดแทนนั่นเอง

ในโอกาสเดียวกัน Audi ได้เปิดตัวรุ่น S3 ตัวถังซีดานพร้อมๆกันไปเลย ซึ่งงานออกแบบภายนอกจะถูกเปลี่ยน
ชุดกันชนหน้า เพิ่มสเกิร์ตด้านข้าง และสวมฝาครอบกระจกมองข้างอะลุมิเนียม เช่นเดียวกับตัวถังแฮตช์แบก แต่
ความพิเศษที่เพิ่มขึ้นมา คือการติดตั้งสปอยเลอร์หลังในตัวให้กับฝากระโปรงท้ายนั่นเอง รวมถึงการลดระดับความสูง
ระหว่างพื้นถนนและตัวรถลง 25 มม

alt.

แต่ภายในห้องโดยสารของทั้ง A3 และ S3 ตัวถังซีดาน เป็นการยกชุดมาจากตัวถังแฮตช์แบกมาทั้งหมด พร้อมกับ
บรรดาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบอินโฟเทนเมนต์ MMI พร้อมหน้าจอสีขนาด 7 นิ้วพับ
เก็บได้ ระบบเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนด้วยระบบ Bluetooth หลังคาซันรูฟแบบ Panoramic รวมถึงออพชันแสงไฟ
ตกแต่งภายใน และระบบเครื่องเสียงพรีเมี่ยม Bang & Olufsen และระบบเชื่อมต่อเครือข่าย LTE ภายในรถ ให้เลือก
ติดตั้งกัน

ส่วนขุมพลัง ก็เป็นการยกชุดจากตัวถังแฮตช์แบกด้วยเช่นกัน แต่ได้รับการปรับจูนใหม่เล็กน้อย ทั้งเครื่องยนต์
เบนซิน 4 สูบ เทอร์โบ TFSI ทั้งขนาด 1.4 ลิตร 140 แรงม้า (เพิ่มจาก 122 แรงม้า) และ 1.8 ลิตร 170 แรงม้า
(ลดจาก 180 แรงม้า) และที่สำคัญในเวอร์ชันตัวถังซีดานนี้ ยังจะเป็นการเพิ่มเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ
TFSI เข้ามาอีกด้วย โดยยังไม่มีรายละเอียดตัวเลขสมรรถนะออกมา แต่คาดว่าน่าจะเป็นบล็อกเดียวกับที่ใช้ใน
Golf GTI รุ่นล่าสุด ที่มีแรงม้าอยู่ที่ 220 ตัว ส่วนเครื่องยนต์ดีเซล มาให้เลือกเพียงบล็อกเดียว ได้แก่ บล็อก 4 สูบ
เรียง TDI ขนาด 2.0 ลิตร 150 แรงม้า

ในเวอร์ชัน S3 Sedan จะใช้ขุมพลังที่ทรงพลังมากขึ้นเช่นเดียวกันกับในรุ่นแฮตช์แบก ได้แก่ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ
พร้อมเทอร์โบ TFSI ขนาด 2.0 ลิตร ที่เรียกแรงม้าได้มากถึง 300 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร
เชื่อมต่อกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรือเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ S Tronic ซึ่งสามารถสร้างอัตราเร่ง
0-100 กม./ชม. ในเวลาต่ำเพียง 4.9 วินาทีเลยทีเดียว ในรุ่นเกียร์ S Tronic

alt

นับได้ว่าตลาดคอมแพคท์ซีดานระดับหรู กำลังจะปะทุความร้อนแรงกลับมาอีกครั้ง หลังถูกผู้ผลิตรถยนต์ทิ้งตลาดกลุ่ม
นี้ไปเกือบ 20 ปี โดย Audi A3 Sedan จะเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ Mercedes-Benz CLA-Class ก่อนที่ BMW
จะส่ง 1-Series Sedan ลงมาแย่งตลาดกลุ่มนี้ในเร็วๆนี้เช่นเดียวกัน

ที่มา : Worldcarfans