เมื่อวันก่อนเราเผยแพร่ภาพ 2016 Toyota Corolla Altis Minorchange เวอร์ชันยุโรปและเอเชียจนแทบทุกคนต่างพา
กันตื่นเต้นและตกตะลึงถึงความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เพราะไม่มีใครนึกฝันมาก่อนเลยว่า Toyota จะกล้า Surprise ด้วย
การเผยโฉมผ่านสื่อออนไลน์แบบดื้อ ๆ

2016_03_25_Toyota_Corolla_1

และวันนี้ก็ตกตะลึงยิ่งกว่าเพราะ Toyota ได้เผยภาพ 2017 Toyota Corolla Minorchange สำหรับตลาดอเมริกา
เหนือออกมาแล้วด้วยดีไซน์ที่เรียกว่ากระตุ้นต่อมวัยรุ่นให้ทำงานคึกคักกันไม่หยุด

ก็เพราะ 2017 Toyota Corolla Minorchange US Version มีดีไซน์ที่อ่อนเยาว์และล้ำสมัยกว่าเดิม(มาก) สามารถ
สัมผัสความพุ่งทะยานไปข้างหน้าให้อารมณ์เดียวกับ Toyota Mirai และรถต้นแบบ Toyota ในยุค 3 ปีที่แล้ว, ไฟหน้า
เป็นแบบ bi-LED ติดตั้งในบางรุ่น

2016_03_25_Toyota_Corolla_2

น่าแปลกที่ผู้เขียนรู้สึกว่า 2017 Toyota Corolla Minorchange US Version ให้อารมณ์ของเส้นสายแบบเดียวกันกับ
Toyota Corolla Furia Concept ด้วยการออกแบบด้านหน้าที่เพรียวเล็กและเน้นเส้นสายด้านหน้าที่พุ่งทะยานไป
ข้างหน้า

จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ 2017 Toyota Corolla Minorchange US Version รู้สึกถึงความแตกต่างจากรุ่นปัจจุบันนั่นก็
คือการออกแบบกันชนหน้าที่ได้แรงบันดาลใจจาก Toyota Mirai

ในเมื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกแบบ Aggressive ไปแล้วคราวนี้เราลองมาดูภายในห้องโดยสารกันบ้าง คราวนี้ Toyota
ก็มีการแอบปรับปรุงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้รู้สึกภาพรวมดูเนียนตาขึ้น กล่าวคือ Toyota ลงทุนเปลี่ยนแผงชิ้นส่วน
แผงเครื่องปรับอากาศใหม่, เปลี่ยนแปลงพาเนลบริเวณแดชบอร์ดฝั่งผู้โดยสารให้ดูมีมิติขึ้นและที่สำคัญก็กล้าเปลี่ยนช่อง
แอร์เป็นทรงกลมในตำแหน่งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

2016_03_25_Toyota_Corolla_3

ไฮไลต์สำคัญที่ทำให้ 2017 Toyota Corolla Minorchange US Version เป็นรถน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก คือการติดตั้ง
ระบบช่วยเหลือและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่ในนาม Toyota Safety Sense-P ได้แก่ ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ,
Radar Cruise Control, ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน (พร้อมระบบช่วยประคองพวงมาลัยให้อยู่ในทางตรงเลน)และระบบ
เบรคอัตโนมัติที่มีระบบตรวจจับคนเดินทางเท้าในตัว

ถึงแม้ Toyota USA ลงทุนเปลี่ยนหน้าตาแบบฉีกโฉมแล้วแต่จงอย่าคาดหวังว่า Toyota จะอัพเกรดงานวิศวกรรมด้าน
ระบบส่งกำลัง

คาดว่า 2017 Toyota Corolla Minorchange US Version น่าจะเตรียมส่งขึ้นโชว์รูมทั่วอเมริกาในเวลาไม่นานนัก

ที่มา : Worldcarfans