Citroën C4 Cactus เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2014 ในฐานะรถยนต์ Crossover น้องใหม่ ไอเดียแปลกด้วยการนำรถยนต์แบบ Hatchback มาผสมกับ SUV แต่มีดีไซน์ภายนอกและภายในที่แปลกตาอันเกิดจากการเส้นสายที่เรียบง่าย ไม่มีเทคโนโลยีอะไรซับซ้อน และไม่ได้เน้นสมรรถนะด้านความสปอร์ตแต่อย่างไร ชูจุดขายด้านความสบายซึ่งเคยเป็น DNA ของ Citroën ในอดีต

วันนี้ Citroën จำเป็นต้องปรัลกยุทธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกครั้งเมื่อ พวกเขาได้แนะนำ C3 Aircross และ C5 Aircross ซึ่งเป็น SUV ขนานแท้ จึงทำให้ C4 Cactus อาจจะโดนรถรุ่นน้องและรุ่นพี่แย่งส่วนแบ่งการตลาดไป อีกทั้ง C4 รถยนต์ C-Segment ก็มีอายุตลาด 7 ปีแล้ว ทำให้ Citroën ต้องปรับโฉม C4 Cactus พร้อมกับพลิกภาพลักษณ์ไปสู่รถยนต์ธรรมดา ๆ มากยิ่งขึ้น

Citroën C4 Cactus Minorchange มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ตัวรถและเพิ่มเทคโนโลยีใหม่เพื่อตอกย้ำความสะดวกสบายของรถอันเป็นหัวใจหลักของแบรนด์ Citroën

Citroën C4 Cactus Minorchange มาพร้อมกับดีไซน์ภายนอกให้ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยการออกแบบด้านหน้าใหม่ ได้แก่ ไฟหน้า LED และไฟ DRL LED ใหม่, เพิ่มกระจังหน้าใหม่ และออกแบบกันชนหน้าที่ดูซับซ้อนยิ่งขึ้น ภายใต้ความยาวตัวถัง 4.17 เมตร กว้าง 1.71 เมตร และมีระยะฐานล้อยาว 2,600 มิลลิเมตร

Citroën จัดการย้ายแผงกันกระแทก AirBump เต็มบานประตู ให้มาอยู่ตรงขอบชายล่างประตูแทน หากสังเกตให้ดีจะพบว่า Citroën ลงทุนปั๊มลวดลายบานประตูใหม่หมดจดอีกด้วย และรวมถึงเปลี่ยนกระจกมองข้างใหม่ขนาดใหญ่ที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวแทน

เมื่อมองบั้นท้ายก็พบว่า Citroën ก็พยายามปรับปรุงดีไซน์บั้นท้ายของ C4 Cactus ให้รู้สึกว่ามันดูมีราคามากยิ่งขึ้น ถึงขั้นลงทุนเปลี่ยนชิ้นส่วนฝากระโปรงท้ายใหม่, ดีไซน์ไฟท้ายใหม่และกันชนท้ายใหม่

ภายในห้องโดยสารมีการเพิ่มวัสดุบุนุ่มบริเวณแผงข้างประตู, เปลี่ยนฟองน้ำ/วัสดุ/ลวดลายเบาะนั่งใหม่ และเปลี่ยนคอนโซลเรือนเกียร์ตรงกลางใหม่หมดเพื่อเพิ่มความหรูหรา

ไฮไลต์สำคัญคือช่วงล่างที่ติดตั้งโช๊ค Progressive Hydraulic Cushions™ นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยให้การขับขี่นุ่มสบายที่ตรงกับ DNA ของแบรนด์ตลอดมา 98 ปี อันประกอบไปด้วยสิทธิบัตร 20 ชนิด ด้วยหลักการทำงานที่ง่ายดาย ไม่ซับซ้อน โช๊ค Progressive Hydraulic Cushions™ จะใช้ระบบไฮโดรลิค 2 ตัวเป็นตัวช่วยหยุดอาการดีดเด้งของโช๊คทั้ง 2 ฝั่ง แตกต่างจากโช๊คทั่วไปที่ใช้หลักการทำงานแบบกลไกสปริง ที่ส่งผลมีอาการกระเด้งกระดอนเกิดขึ้น

ไม่ว่าจะขับขี่บนสภาวะถนนแบบใด โช๊ค Progressive Hydraulic Cushions™ ก็ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลดุจพรมวิเศษ และนั่นก็ทำให้ผู้ขับขี่สามารถบังคับควบคุมรถยนต์ได้อย่างมีความสุขยิ่งขึ้น

Citroën C4 Cactus Minorchange ติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่เต็มพิกัดถึง 12 รายการได้แก่

  • ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ Active Safety Brake
  • ระบบจดจำป้ายจราจรบังคับจำกัดความเร็ว สามารถสั่งการให้รถลดความเร็วลงตามป้ายบังคับ
  • ระบบแจ้งเตือนออกนอกช่องจราจร Lane Departure Alert
  • ระบบเตือนผู้ขับขี่ให้พักผ่อนขณะขับขี่ด้วยความเร็วเกินกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมงนาน 2 ชั่วโมง
  • ระบบตรวจจับอาการเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ Driver Attention Alert
  • ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา Blind Spot Monitoring System
  • ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Park Assist
  • กล้องตรวจจับวัตถุด้านหลัง
  • ระบบช่วยออกตัวทางลาดชัน Hill Start Assist
  • ไฟตัดหมอกปรับตามมุมองศาการเลี้ยว 75 องศา Static Cornering Lights
  • ระบบกุญแจอัจฉริยะและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Keyless Access and Start
  • โหมดการขับขี่ Grip Control เพื่อรองรับถนนปกคลุมด้วยหิมะ, โคลนและทราย

William CROZES @ PLANIMONTEUR

เครื่องยนต์มีให้เลือกหลายแบบ อาทิ เครื่องยนต์เบนซิน Puretech เทอร์โบ 110 แรงม้าและ 130 แรงม้า , เครื่องยนต์ดีเซล BlueHDi 100 แรงม้า และ 120 แรงม้า

Citroën C4 Cactus Minorchange เตรียมขึ้นสายการผลิตไตรมาสแรกของปี 2018

ที่มา : Motor1