หลังจากที่ Toyota เปิดตัว GR Corolla เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2022 ที่ผ่านมา หลายคนคงสงสัยว่ามีความแตกต่างกับรุ่นน้องที่ออกมาก่อนหน้าอย่าง GR Yaris อย่างไรบ้าง เนื่องจากใช้เครื่องยนต์บล๊อคเดียวกันเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเหมือนกัน และยังมีระบบขับ 4 ที่ Toyota ตั้งใจชูเป็นจุดเด่นซึ่งถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากสนามแข่งแรลลี่อีกด้วย

(GR Corolla)

รูปลักษณ์ภายนอก

สิ่งที่แตกต่างอันดับแรก ก็คือ รูปแบบตัวถัง GR Yaris เป็นแบบ 3 ประตู ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เพราะมีการใช้ชิ้นส่วนตัวถังร่วมกับ รุ่น 5 ประตูเพียงแค่ กระจกมองข้าง ไฟหน้าและไฟท้าย

และด้วยตัวถังขนาดกะทัดรัด ทำให้ Toyota สามารถลดความสูงของหลังคาลง แต่เพิ่มความกว้างของตัวรถ รวมทั้งนำวัสดุอลูมิเนียมมาใช้กับ ประตูคู่หน้า ฝากระโปรงหน้า และฝากระโปรงหลัง ปิดท้ายด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่หลังคา

ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียงประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ที่มีทางเลือกเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร NA สำหรับใครที่อยากได้เพียงหน้าตาดุกร้าว แต่ไม่ต้องการความแรงระดับรถแรลลี่ สำหรับตลาดอื่นๆ ตัวถัง 3 ประตูจะมีเพียงขุมพลัง 3 สูบ 1.6 ลิตร เทอร์โบเท่านั้น

(GR Yaris UK version)

GR corolla ยังคงใช้ตัวถัง 5 ประตูเหมือนรุ่นปกติ แต่มีการขยายขนาดซุ้มล้อ รวมทั้งติดตั้งโป่งเพิ่มความสวยงาม ด้านการลดน้ำหนักใช้อลูมิเนียมกับชิ้นส่วนฝากระโปรงหน้า และประตูคู่หน้า รวมทั้งหลังคาทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบฟอร์จ

(GR Corolla)

(GR Yaris UK version)

(GR Corolla)

โครงสร้างตัวถัง

ในขณะที่โครงสร้างตัวถังของ GR Yaris อยู่บนพื้นฐานของ TNGA-B platform ที่ด้านหน้า และเปลี่ยนมาใช้พื้นของ TNGA-C platform ที่ด้านหลัง เนื่องจากมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบกลไกติดตั้งเพิ่มเข้ามาด้วย

ส่วน GR Corolla นั้นใช้ TNGA-C platform แต่เดิมอยู่แล้ว เพียงแต่เพิ่มจุด Spot ตัวถัง มาถึง 349 จุด ทำให้มีความแข็งแรงเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งวัสดุเชื่อมประสานตามรอยต่อของตัวถัง รวมไปถึงพื้นตัวถังด้านหลังที่ทำมารองรับการติดตั้ง Limited-slip differential และย้ายตำแหน่งแบตเตอรี่ 12V ไปอยู่ที่ด้านท้ายรถ

(GR Yaris)

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

ถึงแม้จะใช้เครื่องยนต์รหัสเดียวกัน G16E-GTS เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged แต่ GR Corolla มีกำลังสูงสุด 304 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร ที่ 3,000-5,550 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ iMT ด้วยการปรับเพิ่มบูสต์เทอร์โบ และการติดตั้งระบบลดแรงดันย้อนกลับที่เกิดจากระบบไอเสีย

(GR Corolla)

ในขณะที่ GR Yaris มีแรงม้าน้อยกว่าที่ 272 แรงม้า (PS) ที่ 6,500 รอบ/นาที และแรงบิดเท่ากันที่ 370 นิวตัน-เมตร มาที่ช่วงรอบแคบกว่าที่ ที่ 3,000-5,550 รอบ/นาที

นอกจากนี้อัตราทดของระบบส่งกำลังจะมีความคล้ายคลึงกัน แตกต่างกันเพียง อัตราทดเฟืองท้ายของ GR Corolla ทดมาจัดกว่า ที่ 4.058:1 สำหรับเกียร์ 1-4 และ 3.45:1 สำหรับเกียร์ 5-6 และเกียร์ถอยหลัง ในขณะที่ GR Yaris ทดอยู่ที่ 3.941 และ3.350 ตามลำดับ

(GR Yaris)

เทคโนโลยีและอุปกรณ์ต่างๆ

สำหรับหน้าจอแสดงผลจะมีขนาดแตกต่างกันอย่างชัดเจน GR Yaris จะใช้มาตรวัดแบบเรียบง่ายมีจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาดเพียง 4.2 นิ้ว และจอ infotainment ขนาด 7-8 นิ้ว แล้วแต่ภูมิภาค

ในส่วนของ GR Corolla จัดเต็มกว่าด้วย จอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้ว พร้อมแสดงข้อมูล Mode การขับขี่ต่างๆ ตั้รวมไปถึงข้อมูลการขับขี่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แรงดันของเทอร์โบ รวมไปถึงตำแหน่งเกียร์ และจอ infotainment ขนาด 8 นิ้ว พร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด ที่ใช้ใน Lexus NX

ทั้งคู่มีระบบเครื่องเสียง JBL ระบบนำทาง เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนังและผ้า Suede พร้อมระบบอุ่น ระบบปรับอากาศautomatic climate control กุญแจ keyless entry ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน และแพ็คเกจ Toyota Safety Sense ที่ GR Corolla จะได้รับการอัพเกรดให้เป็นเวอร์ชัน 3.0 ที่ปรับปรุงระบบเบรกอัตโนมัติให้ทำงานดียิ่งขึ้นเมื่อตรวจจับยานพาหนะ 2 ล้อ และ จุดตัดตามแยกต่างๆ

(GR Corolla)

(GR Yaris)

ระบบบังคับเลี้ยว ระบบกันสะเทือน และระบบห้ามล้อ

ช่วงล่างและระบบเบรกเป็นส่วนที่ใช้ร่วมกันและมีรายละเอียดเหมือนกันมากที่สุด แตกต่างกันในส่วนของการปรับจูนโช้คอัพเพื่อให้รองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นใน GR Corolla กว่า 195 กิโลกรัม ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วใช้ร่วมกัน แต่รัดด้วยยางคนละเบอร์ และมีรุ่นยางที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาคที่ทำตลาด โดย GR Corolla จะใช้ 235/40 R18 ในขณะที่ GR Yaris จะใช้ 225/40 R18

ทั้ง 2 รุ่น ใช้ ดิสก์เบรกคู่หน้า พร้อมครีบระบายความร้อน จับคู่กับคาลิปเปอร์ 4 สูบ และจานเบรก ขนาด 356 มิลลิเมตร ดิสก์เบรกคู่หลัง พร้อมครีบระบายความร้อน จับคู่กับคาลิปเปอร์ 2 สูบ และจานเบรก ขนาด 297 มิลลิเมตร

(GR Corolla)

(GR Yaris)

ท้ายที่สุดที่ต้องแตกต่างกันอย่างแน่นอนก็คือ ราคา ในขณะที่ GR Corolla ยังไม่ได้ประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยตำแหน่งทางการตลาดที่สูงกว่า GR Yaris จะมีราคาที่สูงกว่าแน่นอน แต่จะมีเพียงบางตลาดเท่านั้น ที่จะเลือกได้ระหว่าง GR Yaris และ GR Corolla นอกจากนี้รุ่นพิเศษ ‘Circuit Edition’ อาจจะไม่ได้ทำตลาดในทุกภูมิภาค

สำหรับความเคลื่อนไหวในประเทศไทย ที่ Toyota วางแผนจะทำตลาดในไทยนั้น ทาง Headlightmag จะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้ง

————————///————————

ที่มา: Drive.com.au

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:

เตรียมมาไทยเร็วๆ นี้ ! Toyota GR Corolla ขุมพลังเบนซิน 3 สูบ 1.6 Turbo 304 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ