ปัจจุบันรถยนต์เอนกประสงค์ใต้ท้องสูงกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนแทบจะกลายเป็นสูตรสำเร็จของการทำรถให้ขายดีในยุคนี้ไปแล้ว เนื่องจากสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุม มีพื้นที่ใช้สอยภายในพอประมาณ เหมาะกับการขับทั่วไปในเขตเมือง ที่มีทั้งถนนสภาพดีและชำรุดทรุดโทรมปะปนกันไป ตลอดจนการออกไปเผชิญกับหนทางอันยากจะคาดเดาในวันหยุดสุดสัปดาห์ นั่นทำให้ผู้ผลิตรถยนต์หลายรายเริ่มหันมาให้ความสำคัญและทุ่มงบประมาณกับการพัฒนา Crossover SUV มากขึ้น หลายค่ายมีรถประเภทนี้สอดแทรกอยู่ในทุกขนาด บางค่ายถึงขั้นแตกไลน์ออกมาเป็นตัวถังกึ่ง Coupe เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าชื่นชอบสไตล์ท้ายลาด ยกตัวเช่น Audi Q3 Sportback คันที่เห็นอยู่นี้ เป็นต้น

Audi Q3 Sportback เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2019 ประเดิมด้วยรุ่นเริ่มต้นรหัส 35 TFSI S-Line ก่อนจะนำรหัส 40 TFSI quattro S-Line Black Edition เข้ามาเสริมทัพในภายหลัง ปัจจุบันมีรุ่นย่อยให้เลือก ดังนี้

  • Q3 Sportback 35 TFSI S-Line : 2,649,000 บาท (นำเข้า CBU)
  • Q3 Sportback 40 TFSI quattro S-Line Black Edition : 2,990,000 บาท (นำเข้า CBU)

เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านระยะเวลาการยืมรถทดสอบ ทำให้ช่วงที่ผ่านมาเราไม่ค่อยมีโอกาสนำรถรุ่นต่างๆ ของ Audi มาลองขับกันบ่อยสักเท่าไหร่ ทว่าวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เราได้ลองขับ Q3 Sportback 35 TFSI S-Line แบบ One day trip บนเส้นทางไปกลับ กรุงเทพฯ – ชลบุรี จึงถือโอกาสนี้ทำคลิปรีวิว ทดลองขับ แบบสั้นกระชับมาให้ได้รับชมกัน ก่อนที่จะยืมรถมาอีกครั้งเพื่อหาตัวเลขอัตราเร่ง อัตราสิ้นเปลือง ตลอดจนลองสมรรถนะรถกันแบบเต็มๆ ทั้งรุ่น 35 TFSI และ 40 TFSI quattro ตามแบบฉบับพี่ J!MMY

ก่อนรับชมคลิป มาดูรายละเอียดเบื้องต้นของ Audi Q3 Sportback 35 TFSI S-Line กันก่อน เริ่มจาก…

เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง
Engine & Drivetrain

เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.4 ลิตร 1,395 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 74.5 x 85.9 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.5 : 1 ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct-injection พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharged กำลังสูงสุด 150 แรงม้า (PS) ที่ 5,000 – 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 3,500 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ S Tronic 6 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบบังคับเลี้ยว
Steering Wheel

ระบบบังคับเลี้ยวเป็นแบบ Rack & Pinion พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า แปรผันน้ำหนักอัตโนมัติตามความเร็ว  (Speed-dependent Power Sssistance) อัตราทดเฟืองพวงมาลัยอยู่ที่ 14.8 : 1 รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.9 เมตร

ระบบกันสะเทือน
Suspension

ด้านหน้าเป็นแบบอิสระ MacPherson Strut ด้านหลังเป็นแบบอิสระ Multi-link

ระบบห้ามล้อ
Brake

ระบบห้ามล้อเป็นจานเบรกแบบมีครีบระบายความร้อน ทั้ง 4 ล้อ เสริมการทำงานด้วยระบบ ป้องกันล้อล็อก ABS (Anti-lock Braking System) ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake-force Distribution) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS (Traction control system) และระบบควบคุมการทรงตัว ESC (Electronic control system with stabilization function)

Q3 Sportback 35 TFSI เป็นรถที่มีพละกำลังอยู่ในระดับกลางๆ ออกจะธรรมดาเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับบุคลิกภายนอกอันดูปราดเปรียวของมัน เราลองจับเวลาในช่วงกลางวันซึ่งมีอุหภูมิภายนอกสูงกว่ามาตรฐานปกติ เครื่องยนต์เบนซิน 1.4 ลิตร Turbo 150 แรงม้า 250 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง อยู่ที่ 10.88 – 10.95 วินาที ในขณะที่อัตราเร่งแซง 80-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำได้ 7.40 – 7.45 วินาที เทียบกับคู่แข่งมีตัวเลขแรงม้าและแรงบิดบน Spec Sheet ใกล้เคียงกันอย่าง GLA 200 รายนั้น แอบกระฉับกระเฉงกว่าเล็กน้อย ทั้งจากการเซ็ตคันเร่งที่ไวกว่า รวมถึงอัตราทดเกียร์ชิดกว่า จังหวะต่อเกียร์ต่อเนื่องมากกว่า

การขับขี่ในภาพรวมเซ็ตมาเน้นเอาใจลูกค้าทางสายกลาง ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยมาลัยที่มีความไวประมาณหนึ่ง การขับใช้งานช่วงความเร็วต่ำคล่องตัวดี แต่พอใช้ความเร็วมากขึ้น น้ำหนักตึงมือก็แปรผันมากขึ้นตาม แม้จะยังไม่หนืดหนักเท่า GLA 200 แต่ก็ไม่ได้เบาหวิวเหมือน XC40 T5 และ T5 Recharged แป้นเบรกมีความต่อเนื่องดี แต่จะไม่ได้จับแน่นและไวเท่า GLA200 ช่วงล่างเซ็ตมามาลานซ์พอดีมากระหว่างความแข็งเฟิร์มและความนุ่มนวล การขับความเร็วสูงมั่นใจกว่า GLA 200 นิดหน่อย ซับแรงสะเทือนในช่วงความเร็วต่ำดีใกล้เคียงกัน แต่ก็ยังไม่สมูทรูดฝาท่อดีเท่า Lexus UX 250h

ด้านอุปกรณ์ Option ถือว่ามีมาให้แค่พอประมาณ ยังขาดอุปกรณ์ Safety จำพวกระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ หรือระบบเตือนเมื่อมีอยู่ในมุมอับสายตาด้านข้าง รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ระบบจดจำตำแหน่งเบาะนั่ง Memory Seat เมื่อเทียบราคากับรายการข้าวของที่ได้อาจจะยังดูไม่คุ้มค่าคุ้มราคาเท่าคู่แข่ง

แล้วความน่าซื้อของ Q3 Sportback 35 TFSI อยู่ตรงไหน… !?

จุดเด่นของรถรุ่นนี้อยู่ที่ภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่อันโอ่อ่ากว้างขวางมากกว่าคู่แข่งทุกรุ่น ความกว้างของบานประตูคู่หน้าและคู่หลังช่วยให้การลุกเข้า-ออกจากรถทำได้สะดวกโยธิน เบาะนั่งทั้งคู่หน้ารองรับสรีระได้ดีทั้งส่วนรองนั่งและพนักพิงหลัง ขนาดเบาะนั่งค่อนข้างใหญ่โต นั่งสบายใกล้เคียง D-Segment ญี่ปุ่น เบาะนั่งด้านหลังมีมุมเอนของพนักพิงกำลังเหมาะสม ความยาวเบาะรองนั่งกำลังดี พื้นที่วางขาเหลือๆ แถมยังปรับเลื่อนขึ้นหน้า-ถอยหลังได้ในกรณีที่ต้องการบรรทุกสัมภาระด้านหลัง แต่อาจจะต้องทำใจยอมรับกับพื้นที่เหนือศีรษะอันน้อยนิด ตามเส้นแนวหลังคาที่ลาดเทลงมา นอกจากนี้ ยังมีการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารที่ดี ทั้งเสียงกระแสลมไหลผ่านตัวรถและเสียงจากพื้นถนน

สรุปคร่าวๆ ได้ว้า Q3 Sportback 35 TFSI เป็นรถที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ Crossover SUV สไตล์ท้ายลาด ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายเวลานั่งขับหรือมีคนในครอบครัวมานั่งโดยสารด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องเป็นคนที่เน้นขับเรื่อยๆ ไม่เน้นทำเวลา ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจจะต้องเพิ่มเงินอีกราวๆ 341,000 บาท ขยับขึ้นไปซื้อรุ่น 40 TFSI quattro S-Line Black Edition ซึ่งได้มาดภายนอกที่ดุดันขึ้น พร้อมเครื่องยนต์ 2.0 Turbo 180 แรงม้า 320 นิวตันเมตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งคาดว่าน่าจะแรงกว่าแน่ๆ แต่จะแรงแค่ไหน โปรดรอติดตาม…

รับชมคลิปได้ท่ีนี่